"สมรักษ์" เคลียร์ชัด!ถ้ามีเรื่องที่สามก็ต้องรับเอง
"อย่าไปว่าลูกผมนะ" สมรักษ์ คำสิงห์ เปิดใจหลังดราม่าลูกสาว "เบสท์" ขอไม่ยุ่ง หลังพ่อเจอคดีซ้อน ลั่นเข้าใจลูก เหตุลำบากมา 2 เรื่องติด เตือนตัวเอง "อย่าให้มีเรื่องที่ 3"
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เมื่อ "เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์" ยูทูบเบอร์และนักแสดงสาวชื่อดัง บุตรสาวของอดีตนักมวยฮีโร่โอลิมปิก สมรักษ์ คำสิงห์ ออกมาเปิดใจในรายการ "แฉ" ถึงความรู้สึกภายในใจ พร้อมบอกว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพ่ออีก หากยังคงมีเรื่องฉาวเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้หลายคนในโลกออนไลน์พากันตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวคำสิงห์ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
พ่อสมรักษ์ เปิดคลิปพูดชัดเจน "ลูกผมไม่ได้ผิด"
ล่าสุด สมรักษ์ คำสิงห์ ได้อัดคลิปวิดีโอเปิดใจผ่านโซเชียลเพื่อเคลียร์ประเด็นดังกล่าว โดยกล่าวถึงลูกสาวอย่าง "เบสท์" ด้วยน้ำเสียงจริงใจ พร้อมยืนยันว่าในฐานะคนเป็นพ่อ เขาเข้าใจลูกดี และลูกไม่ได้ทำผิดอะไรเลยแม้แต่น้อย
"ผมไปย้อนดูเทปรายการที่ลูกไปออกมาแล้วครับ ผมไม่เห็นว่าลูกผมจะผิดตรงไหนเลย ลูกผมพูดดีมาก และเขาก็แค่พูดความจริงในมุมของเขา... ทั้งน้องเบสท์และน้องโบ๊ทเป็นเด็กดี ผมโชคดีมากที่มีลูกแบบนี้"
สมรักษ์ยังระบุว่า เข้าใจความรู้สึกของลูกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวต้องเผชิญกับกระแสดราม่าหนักหนาสองครั้งซ้อน ทั้งเรื่องคดีลอตเตอรี่ที่ตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงปลายปี และคดีที่เกี่ยวกับเยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ย้อนรอยดราม่าที่ถาโถม ครอบครัวคำสิงห์
กรณีแรกที่กลายเป็นดราม่าคือคดี "ลอตเตอรี่ 20 ล้าน" ที่สมรักษ์ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการหลอกลวงเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล แม้เจ้าตัวจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่คดีก็กลายเป็นกระแสใหญ่ระดับประเทศ และมีรายงานว่าเบสท์ต้องช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายบางส่วน รวมถึงจัดการเรื่องต่างๆ ให้พ่อในช่วงวิกฤต
หลังจากนั้นไม่นาน สมรักษ์ก็ต้องเผชิญกับคดีใหม่ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับเยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งเรื่องนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม โดยเจ้าตัวยืนยันว่าต่อสู้ตามขั้นตอนและมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน
สมรักษ์กล่าวในคลิปอย่างยอมรับผิดว่า:
"ลูกสาวบอกว่า พ่อมีเรื่องมาแล้ว 2 เรื่อง ถ้ามีเรื่องที่ 3 หนูไม่ยุ่งแล้วนะ หนูเหนื่อย มันก็สมควรแล้วครับ คนเป็นพ่ออย่างผมก็ต้องเข้าใจ ผมเองก็เหนื่อย ลูกก็เหนื่อย"
จากฮีโร่สู่วันที่อ่อนแรง ความสัมพันธ์พ่อลูกในวันที่ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
สมรักษ์ คำสิงห์ ในฐานะอดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกที่เคยเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงและธุรกิจด้วยความตั้งใจเต็มที่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าชีวิตมีขึ้นมีลง ด้านหนึ่งของความสำเร็จคือการมีลูกที่ประสบความสำเร็จในสายงานของตัวเองอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะ "เบสท์" ที่ไม่เพียงแต่เป็นยูทูบเบอร์คนดัง แต่ยังเป็นนักแสดงและคนบันเทิงที่มีแฟนคลับติดตามจำนวนมาก
เบสท์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีหรือปัญหาที่พ่อเป็นผู้สร้างขึ้นอีก เพราะเธอรู้สึกว่าตนเองได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว
แม้จะมีคำพูดที่ฟังดูห่างเหิน แต่ในมุมของสมรักษ์ เขายืนยันว่าเข้าใจลูกและเห็นด้วยกับการตัดสินใจนั้น
"ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ไม่ให้มีเรื่องที่ 3 เกิดขึ้น ผมไปสอนมวยที่ค่ายของเฮียตี๋ และค่ายของพี่อัจฉริยะ ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับลูก ไม่ได้รบกวนแล้ว"
สองคดีใกล้จบแล้ว ลุ้นอนาคตใหม่ของสมรักษ์
ในคลิปเปิดใจ สมรักษ์ยังอัปเดตถึงความคืบหน้าของทั้งสองคดีว่า ตอนนี้คดีลอตเตอรี่ใกล้จบแล้ว และลูกสาวก็เคยช่วยจ่ายเงินสำรองไปบางส่วน แต่ไม่ถึง 20 ล้านบาทตามข่าวลือ ส่วนคดีเด็ก 17 ปี ยังอยู่ในกระบวนการศาล แต่เขาก็ยืนยันว่าจะสู้เต็มที่ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ความรักของพ่อแม้มีรอยร้าว แต่ยังคงชัดเจน
ท่ามกลางกระแสดราม่าและคำวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม สมรักษ์ยังกล่าวปิดท้ายด้วยความรักที่มีต่อลูกทั้งสองคนว่า:
"อย่าไปว่าลูกผมนะ ลูกผมดีที่สุดแล้ว ทั้งเบสท์และโบ๊ท ผมไม่ได้โม้เลย ลูกผมเก่งจริงๆ ผมโชคดีมากที่ได้ลูกดีๆ แบบนี้"
คำพูดดังกล่าวกลายเป็นที่ชื่นชมของชาวเน็ตหลายคนที่มองว่า สมรักษ์แสดงให้เห็นถึงความเป็นพ่อที่แม้จะเคยพลาด แต่ก็ไม่ผลักภาระไปให้ลูก และกล้ายอมรับความจริง พร้อมพยายามเริ่มต้นใหม่โดยไม่รบกวนลูก ๆ อีกต่อไป
ดราม่าครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของคนในครอบครัวที่มีปัญหาส่วนตัว แต่มันสะท้อนถึงการเรียนรู้ การให้อภัย และการพัฒนาตัวเองของคนเป็นพ่อในวันที่ลูกเติบโตจนสามารถตัดสินใจและมีจุดยืนของตัวเองได้อย่างมั่นคง ซึ่งน่าจะเป็นบทเรียนสำคัญไม่ใช่แค่สำหรับครอบครัวคำสิงห์เท่านั้น แต่กับคนไทยทุกครอบครัวที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเช่นกัน











