พลิกแผ่นดินล่า! แก๊งอุ้มฆ่าดีเจเตเต้ ตร.ตั้งค่าหัวนำจับ 1 แสนบาท
"คดีสะเทือนขวัญ! ตำรวจตั้งรางวัลนำจับ 4 ผู้ต้องหา หัวละ 100,000 คดีอุ้มฆ่า ‘ดีเจเตเต้’ หมกป่ากาญจนบุรี – เผย 5 ข้อหาหนักที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง"
เป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญที่สร้างความสลดใจและความหวาดกลัวให้กับประชาชนทั้งประเทศ สำหรับกรณีของ “ดีเจเตเต้” หรือ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ อายุ 33 ปี ดีเจหนุ่มชื่อดังในพื้นที่ ที่ถูกอุ้มฆ่าอย่างโหดเหี้ยมและถูกทิ้งร่างไว้ในป่าละเมาะ บริเวณหมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อมาเจ้าหน้าที่พบศพในสภาพถูกมัดแขนไพล่หลัง และถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตอย่างอนาถใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรมที่วางแผนมาอย่างรอบคอบ และเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายที่รู้จักผู้ตายเป็นอย่างดี
การไล่ล่าคนร้าย และการประกาศตั้งรางวัลนำจับ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เพจ "ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี" ได้มีการเผยแพร่ภาพของผู้ต้องหาทั้ง 4 รายที่ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของการตามล่า พร้อมกับประกาศตั้งรางวัลนำจับรายหัวสูงถึง 100,000 บาท ต่อคน สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเหล่านี้ได้
ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายที่ถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย:
1. นายนพพิจิตร (สงวนนามสกุล)
2. นายธราเทพ
3. นายภคนัท
4. นายณรงค์เดช
หากผู้ใดพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลทั้ง 4 สามารถแจ้งได้ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี โทร. 034-620711 หรือสายด่วน 191 ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมรับข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง
5 ข้อหาหนักที่ผู้ต้องหาต้องเผชิญ
ตามหมายจับที่ออกโดยศาลจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต้องเผชิญกับข้อหาหนักถึง 5 กระทง ดังนี้:
1. ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการหรือไม่กระทำการ โดยการข่มขู่ให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สิน และการกระทำดังกล่าวกระทำโดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และมีลักษณะของการอ้างอิงถึงอำนาจของอั้งยี่หรือซ่องโจร
2. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมทั้งร่วมกันลอบฝัง เผา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการเกิดหรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งเข้าข่ายความผิดร้ายแรงในกฎหมายอาญาไทย
3. ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพ อันมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงผลทางคดี ทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย
4. ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกในการกระทำผิด หรือในการหลบหนี และยังมีการช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงโทษ รวมถึงทำลายพยานหลักฐานในการกระทำผิดดังกล่าว
5. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสถานที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น และไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว
เบื้องหลังของคดี: ปมขัดแย้งหรือธุรกิจมืด?
แม้ว่ายังไม่มีการเปิดเผยแรงจูงใจเบื้องหลังการอุ้มฆ่าในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับปมขัดแย้งส่วนตัว หรือธุรกิจบางอย่างที่ดีเจเตเต้เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนอย่างละเอียด ทั้งจากข้อมูลในโทรศัพท์ ข้อความสนทนา โซเชียลมีเดีย และกล้องวงจรปิดในบริเวณต่าง ๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาใช้เป็นเส้นทางเคลื่อนไหว
โดยในช่วงที่ดีเจเตเต้หายตัวไป มีผู้พบเห็นว่าเขาถูกชายหลายคนพาขึ้นรถตู้ไปในลักษณะคล้ายการบังคับ ก่อนจะพบศพในอีกไม่กี่วันถัดมา ซึ่งยิ่งตอกย้ำข้อสันนิษฐานเรื่องการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบของกลุ่มผู้ต้องหา
ปฏิกิริยาจากสังคมและครอบครัวผู้เสียชีวิต
หลังข่าวการพบศพของดีเจเตเต้เผยแพร่ออกไป ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัว เพื่อน และผู้ติดตามของเขาในวงการบันเทิงท้องถิ่นเป็นอย่างมาก หลายคนต่างออกมาแสดงความอาลัยผ่านโซเชียลมีเดีย และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด
ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยน้ำตาว่า “เตเต้เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เราอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงต้องฆ่าเขาโหดร้ายแบบนี้”
ตำรวจยืนยันไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวล
พล.ต.ต.เฉลิมเกียรติ ทองอยู่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยืนยันกับประชาชนว่า “คดีนี้เป็นคดีสำคัญ เราได้ตั้งชุดสืบสวนเฉพาะกิจติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง และจะไม่หยุดจนกว่าผู้กระทำผิดทั้งหมดจะถูกจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย”
พร้อมกันนี้ยังได้ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นเบาะแสหรือรู้จักผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ขอให้รีบแจ้งข้อมูลกับทางตำรวจทันที โดยจะมีการเก็บข้อมูลเป็นความลับ และมีรางวัลตอบแทนสำหรับผู้ที่ให้เบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม


















