“บูเช็กเทียน” จักรพรรดินีผู้มากด้วยอำนาจ เมื่อเซ็กซ์กลายเป็นกลยุทธ์การเมือง
“บูเช็กเทียน” จักรพรรดินีผู้มากด้วยอำนาจ เมื่อเซ็กซ์กลายเป็นกลยุทธ์การเมือง
หากเอ่ยถึงสตรีที่มีอำนาจสูงสุดในประวัติศาสตร์จีน ชื่อของ “บูเช็กเทียน” หรือ “อู่เจ๋อเทียน” ย่อมถูกจารึกไว้ในฐานะจักรพรรดิหญิงเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ครองราชย์อย่างสมบูรณ์ระหว่างปี ค.ศ. 690–705 ในยุคราชวงศ์ถัง อำนาจของเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวังหลวง หากแต่แผ่ไพศาลไปทั่วราชสำนักและแผ่นดินจีน จนกระทั่งหลายคนยกย่องให้เธอเป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่เด็ดขาดและมีไหวพริบที่สุดในยุคโบราณ
ทว่าภายใต้ภาพของผู้นำหญิงผู้ทรงอำนาจนั้น กลับเต็มไปด้วยเสียงกระซิบถึง “กลยุทธ์ทางเพศ” ที่เธอใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจ การขึ้นสู่อำนาจของบูเช็กเทียนเริ่มจากการเป็นนางสนมของจักรพรรดิถังไท่จง ก่อนจะกลายเป็นพระมเหสีของจักรพรรดิถังเกาจง ลูกชายของเขา ซึ่งถือเป็นเรื่องต้องห้ามในขนบจารีต แต่ด้วยเสน่ห์ ความเฉลียวฉลาด และการวางแผนอย่างรอบคอบ เธอกลับสามารถแทรกตัวเข้ามาเป็นศูนย์กลางของอำนาจได้อย่างแนบเนียน
เมื่อได้กุมบังเหียนของราชสำนัก บูเช็กเทียนไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เธอยังถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ลับกับชายหนุ่มรูปงามจำนวนมาก รวมถึงพระสงฆ์ในวัง เพื่อใช้เป็นพรรคพวกและสายข่าวทางการเมือง บางรายงานอ้างว่าเธอแต่งตั้งบุรุษเหล่านั้นให้ดำรงตำแหน่งสูงในราชสำนักหรือรับหน้าที่งานลับในวังหลัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ “เซ็กซ์” เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอำนาจ ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนตัว หากแต่เป็นกลยุทธ์ระดับชาติ
แม้จะมีข้อกล่าวหามากมาย แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภายใต้การปกครองของบูเช็กเทียน ประเทศจีนมีความมั่นคง เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง และระบบราชการได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ เธอส่งเสริมการศึกษาและเปิดโอกาสให้ชนชั้นล่างเข้าสอบรับราชการ ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิรูปที่ล้ำสมัยในยุคนั้น
ในท้ายที่สุด “เซ็กซ์” และ “อำนาจ” ในบริบทของบูเช็กเทียน จึงมิได้เป็นเพียงเรื่องอื้อฉาว หากแต่เป็นภาพสะท้อนของการทลายกรอบสังคมชายเป็นใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนของสตรี ให้กลายเป็นอาวุธในการปกครองอย่างแยบยล — จนวันนี้ โลกยังจดจำเธอในฐานะจักรพรรดินีผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์จีนไปตลอดกาล.





















