โซเชียลร้อนฉ่า! ดาราสาวโดนลวนลาม ชาวเน็ตจวกกลับ “ก็แต่งตัวแบบนั้น”
"ไป๋ หยุน" ดาราสาวอดีตเซ็กซี่สตาร์ ถูกมาสคอตลวนลามกลางกรุงเวียนนา ชาวเน็ตวิจารณ์แรง “ก็เพราะแต่งตัวโป๊เอง!”
กลายเป็นประเด็นที่สั่นสะเทือนวงการบันเทิงและโซเชียลมีเดีย เมื่อ ไป๋ หยุน (Bai Yun) อดีตนักแสดงสาวชื่อดังจากฮ่องกง วัย 37 ปี ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์สะเทือนใจระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ที่ควรจะเป็นทริปพักผ่อนอย่างมีความสุข กลับกลายเป็นฝันร้ายที่เธอไม่มีวันลืม เมื่อเธอต้องเผชิญกับการ ลวนลามจากชายสวมชุดมาสคอตหมีแพนด้า กลางที่สาธารณะ ต่อหน้าผู้คนมากมาย
แม้ภาพเหตุการณ์จะถูกบันทึกไว้ชัดเจน แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่า คือกระแสจากชาวเน็ตบางส่วนที่ไม่เพียง ไม่เห็นใจเธอในฐานะผู้เสียหาย กลับพากันวิจารณ์ว่า “ก็แต่งตัวแบบนี้ จะให้คนมองยังไงล่ะ?” กลายเป็นวาทกรรมเหยื่อที่ถูกโทษแทนคนผิด สะท้อนปัญหาค่านิยมที่ยังฝังรากลึกในสังคมจำนวนไม่น้อย
จากดาราสาวเซ็กซี่สู่ครูดำน้ำผู้รักอิสระ
ก่อนจะเข้าสู่เหตุการณ์ดังกล่าว หลายคนอาจยังจำชื่อของ "ไป๋ หยุน" ได้ในฐานะหนึ่งในนักแสดงหญิงที่เคยแจ้งเกิดในวงการบันเทิงฮ่องกง ผ่านบทบาทเซ็กซี่ ขี้เล่นในรายการวาไรตี้ และซีรีส์ชื่อดังจากค่าย TVB อย่าง Five Senses War, Iron Detective และ A Woman Who Doesn’t Know How to Flirt
ด้วยรูปร่างที่สะดุดตา หน้าอกหน้าใจอวบอิ่ม และบุคลิกที่สดใสร่าเริง เธอเคยเป็นไอดอลของผู้ชายจำนวนมาก แต่หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้หลายปี ไป หยุน ตัดสินใจลาออกจากวงการเพื่อหาความสุขจากโลกภายนอก โดยหันไปเป็น ครูสอนดำน้ำ และใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวรอบโลก ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติและการใช้ชีวิตแบบอิสระผ่าน Instagram ส่วนตัว
นาทีมรสุม: มาสคอตหมีแพนด้า ละเมิดกลางถนน
เรื่องราวไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างทริปที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ไป๋ หยุน แต่งตัวตามสไตล์ประจำตัวของเธอ คือ เสื้อซีทูรลูกไม้สีดำคลุมด้วยเสื้อแขนยาวที่ขาวและกระโปรงยาว ซึ่งไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไรสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในเมืองยุโรป
เธอเล่าว่า ขณะเดินผ่านบริเวณใจกลางเมือง พบชายคนหนึ่งแต่งชุดมาสคอตหมีแพนด้า ยืนอยู่ริมถนนเพื่อสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวและดึงดูดให้ถ่ายภาพ เธอเองก็เข้าไปถ่ายภาพด้วยความสนุกสนาน โดยไม่คิดว่าเหตุการณ์จะจบลงด้วย การล่วงละเมิดทางร่างกาย
หลังจากกลับมาดูภาพถ่ายที่เพื่อนบันทึกไว้ ไป๋ หยุน ถึงกับรู้สึกตกใจเมื่อพบว่า มือของมาสคอตหมีแพนด้าได้ สัมผัสถูกหน้าอกของเธออย่างจงใจ ในลักษณะที่ชัดเจนว่าไม่ใช่ความบังเอิญ
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องตลกเล็ก ๆ จากมาสคอต แต่พอเห็นภาพชัด ๆ แล้ว ฉันรู้สึกเหมือนถูกล่วงละเมิด ฉันอึดอัดใจมาก” เธอระบุในโพสต์บน Instagram พร้อมแนบภาพเหตุการณ์เพื่อเตือนภัยสังคม
เสียงชาวเน็ตที่แตกเป็นสองฝั่ง
แทนที่จะได้รับความเห็นใจจากผู้คน ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยกลับวิจารณ์เธอเสียเอง คอมเมนต์หลากหลายปรากฏใต้โพสต์ เช่น:
“ก็แต่งตัวแบบนี้ จะให้ผู้ชายไม่มองได้ไง”
“เธอควรรู้ว่าต่างประเทศไม่ใช่ฮ่องกง ต้องแต่งตัวให้รู้กาลเทศะ”
“จะโชว์ขนาดนั้น แล้วมาโวยวายทำไม?”
คำพูดเหล่านี้สะท้อนปัญหา "Victim Blaming" หรือการตำหนิเหยื่อ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ยังพบได้ในสังคม แม้ในยุคที่ความเท่าเทียมทางเพศควรได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ใช้งานอีกส่วนหนึ่งที่ ลุกขึ้นปกป้องเธอ พร้อมแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนว่า:
“การแต่งตัวไม่ใช่ใบอนุญาตให้ใครมาลวนลาม”
“ผู้หญิงมีสิทธิ์ใส่อะไรก็ได้ โดยไม่ต้องถูกแตะต้องโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“ไม่ว่าจะมาสคอตหรือคนธรรมดา ถ้าล่วงละเมิดก็คือละเมิด!”
เหตุการณ์นี้ไม่ได้จบเพียงแค่รูปถ่าย หรือการวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย แต่มันเปิดประเด็นที่ลึกซึ้งกว่านั้นในแง่ของ สิทธิในร่างกายของผู้หญิง และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแต่งกาย
แม้ในปี 2025 โลกจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน แต่การที่ผู้หญิงต้องถูกโทษเพียงเพราะ "แต่งตัวไม่เหมาะสม" เมื่อเผชิญกับการคุกคาม ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการพูดถึงและแก้ไขอย่างจริงจัง
คำตอบนั้นไม่ยาก: อยู่ข้างผู้ถูกกระทำ และเรียกร้องให้มีการสอบสวนผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะอยู่ในชุดมาสคอตหรือชุดสูทก็ตาม
แม้จะไม่มีรายงานยืนยันว่าไป หยุนได้แจ้งความอย่างเป็นทางการหรือไม่ แต่โพสต์ของเธอได้จุดกระแสให้ผู้หญิงอีกหลายคนลุกขึ้นมาเล่าประสบการณ์คล้ายกันที่เคยเจอในที่สาธารณะ – โดยเฉพาะกรณีที่ผู้กระทำเป็นคนในเครื่องแบบ เช่น มาสคอต, นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่
เหตุการณ์ที่ไป๋ หยุน เผชิญในเวียนนา ควรเป็นสัญญาณเตือนว่า ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวหญิงไม่ใช่เรื่องเล็ก และการล่วงละเมิดทางเพศไม่ควรถูกมองข้ามไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด
การแต่งตัวไม่ควรเป็นเหตุให้ผู้หญิงต้องถูกละเมิดสิทธิ และที่สำคัญกว่านั้น — การเห็นใจและเข้าใจผู้เสียหาย ควรมาเป็นอันดับแรก ไม่ใช่การตั้งข้อหาเพียงเพราะเสื้อผ้าที่พวกเธอใส่
หากคุณเคยประสบกับเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ หรือเห็นสิ่งผิดปกติในที่สาธารณะ อย่าลังเลที่จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การร่วมมือกันของประชาชนคือพลังสำคัญในการสร้างสังคมทีปลอดภัยและเคารพสิทธิกันอย่างแท้จริง

















