ชาวเน็ตรุมสวด น้าสาวเจอดราม่าหนัก หลังมีสัมพันธ์ต้องห้ามกับหลานวัย 14
ดราม่าสะเทือนสังคม! น้าสาววัย 43 พลาดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลานชายวัย 14 ลูกพี่สาว สุดกังวลประจำเดือนไม่มา หวั่นตั้งครรภ์
เรื่องราวสุดช็อกที่สะเทือนสังคมออนไลน์ไทยอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กับกรณีของหญิงวัยกลางคนรายหนึ่ง ที่ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์ส่วนตัวสุดพีคในกลุ่มเฟซบุ๊ก "ปรึกษาหมอ (สอบถาม/แชร์ความรู้ & ประสบการณ์ / ค้นหาแพทย์ทางเลือก)" จนกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว โดยเนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ผ่านเพจดังอย่าง "ท่านเปา" ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากชาวโซเชียลทั่วประเทศ
หญิงคนดังกล่าว ซึ่งระบุว่าอายุ 43 ปี และเป็นโสดไม่มีสามี ได้ตั้งคำถามในกลุ่มเฟซบุ๊กว่า "เด็กผู้ชายอายุ 14 สามารถทำให้ท้องได้ไหมคะ" ก่อนจะอธิบายต่ออย่างตรงไปตรงมาว่า ตนเผลอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กชายวัย 14 ปีเพียงครั้งเดียว โดยเด็กคนดังกล่าวเป็นถึง “ลูกของพี่สาว” ของเธอเอง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ "หลานชายแท้ๆ"
"เราอายุ 43 ไม่ได้มีสามี เป็นสาวโสด ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้างค่ะ คือพลาดไปมีอะไรกับแด็กแค่ครั้งเดียว จะพูดยังไงดี เด็กมือใหม่ทำแบบงูๆ ปลาๆ จนเสร็จ แล้วคาเอาไว้แบบนั้นสักพักนึง เราทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วนะคะ พอรอบเดือนไม่มา เราเริ่มกังวลใจเครียดเลยค่ะ เด็กผู้ชายเป็นลูกพี่สาว" – ใจความบางส่วนจากโพสต์ต้นฉบับ
แม้เจ้าตัวจะระบุว่าได้กินยาคุมฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว แต่เมื่อประจำเดือนยังไม่มาหลังจากผ่านไปหลายวัน ทำให้เจ้าตัวเริ่มเกิดความกังวลอย่างหนักว่าอาจตั้งครรภ์จากเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว ซึ่งแม้จะเป็นไปได้ไม่มากนัก แต่ก็ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้นั้นออกไปได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายเป็นเด็กวัยเจริญพันธุ์ที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเต็มตัว
วิจารณ์เดือด! ชาวเน็ตแห่ถล่มยับ ชี้ผิดศีลธรรม-ละเมิดสิทธิเด็ก
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปยังเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง "ท่านเปา" ซึ่งมักรวบรวมเรื่องราวชวนปวดหัวหรือชวนอึ้งในสังคมไทย เรื่องราวนี้ก็ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ไม่ใช่คำตอบที่เจ้าของโพสต์ต้องการ แต่กลับเป็นเสียงวิพากษ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ขาดจิตสำนึกของหญิงวัยกลางคนรายนี้
"คงจะคันมากเลยไม่เลือก อะไรควรไม่ควร"
"43 แล้วไม่แยกแยะเลยเหรอคุณน้าาา"
"ตรวจท้องแล้ว แวะตรวจสมองด้วยนะคะ"
"สังคมเสื่อมขึ้นทุกวัน น่าสมเพชจริงๆ"
"แขกเจ้าบ่าว แขกเจ้าสาว แขกคนเดียวกัน"
ความเห็นเหล่านี้สะท้อนถึงความไม่พอใจของสังคมที่มีต่อกรณีนี้ โดยมองว่าไม่เพียงแค่เป็นพฤติกรรมที่ขาดศีลธรรมเท่านั้น แต่ยังเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายซึ่งเป็นผู้เยาว์ และเป็นญาติใกล้ชิดกันอีกด้วย
ประเด็นทางกฎหมายและศีลธรรม: ไม่ใช่แค่ผิดใจ แต่ผิดกฎหมาย
แม้หญิงคนดังกล่าวจะมองว่าเป็นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว และแสดงความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ แต่หลายฝ่ายกลับมองว่าเรื่องนี้มีความร้ายแรงทางกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์
ตามประมวลกฎหมายอาญาไทย มาตรา 277 ระบุชัดเจนว่า ผู้ใดมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่ว่าผู้เยาว์จะยินยอมหรือไม่ ถือเป็นการกระทำความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกสูงถึง 20 ปี และปรับไม่เกิน 400,000 บาท นอกจากนี้หากเป็นญาติสายตรง เช่น หลานกับน้า อาจเข้าข่ายความผิดฐานล่วงละเมิดในครอบครัวด้วย
จุดนี้เองทำให้ชาวโซเชียลจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่เข้าไปตรวจสอบหรือดำเนินคดีหญิงรายนี้ ขณะเดียวกันก็เริ่มมีการเรียกร้องให้เพจต้นเรื่องลบเนื้อหาดังกล่าวหรือแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเด็กชายผู้เป็นเหยื่อในกรณีนี้มีอายุเพียง 14 ปี ซึ่งยังไม่สามารถตัดสินใจเรื่องเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีวิจารณญาณ
เสียงสะท้อนจากนักจิตวิทยา: ความเสียหายทางใจอาจอยู่กับเด็กตลอดชีวิต
นักจิตวิทยาเด็กและครอบครัวจากหลายสถาบันได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงเตือนภัยว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่แค่ทำลายโครงสร้างครอบครัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการทางจิตใจของเด็กชายที่เป็นผู้เสียหาย
"แม้เด็กจะดูเหมือนยินยอม แต่การถูกล่อลวงหรือชักจูงจากญาติผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ ถือเป็นการทรยศความเชื่อใจและอาจทำให้เด็กเกิดความสับสนในเรื่องเพศ การมองคุณค่าตัวเอง และพัฒนาไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ ในอนาคต" – นักจิตวิทยากล่าว
โลกออนไลน์เรียกร้องให้ช่วยเด็ก ไม่ใช่เยาะเย้ยน้าสาว
ในขณะที่การวิจารณ์หญิงวัย 43 รายนี้ยังคงเดือดต่อเนื่องบนโลกออนไลน์ ก็มีเสียงจากอีกมุมที่เรียกร้องให้สังคมหันมาสนใจ "เด็กชายวัย 14 ปี" ที่อาจเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศแทนที่จะโฟกัสแค่การด่า ประณาม หรือประชดประชันหญิงรายนี้
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า
“เลิกแชร์เพราะตลกเถอะ มันไม่ตลกเลย เด็กคนนี้อาจจะบอบช้ำทั้งชีวิต เราควรหาทางช่วยเขา ไม่ใช่ขำกับคำว่า 'งูๆ ปลาๆ’ หรือ 'หลานทำแบบนั้นแล้วคาไว้’ มันคือการล่วงละเมิดชัดๆ”
ปัญหาครอบครัวหรือพฤติกรรมผิดปกติที่สังคมต้องไม่เมินเฉย
แม้เจ้าของโพสต์จะเขียนข้อความในลักษณะขอคำปรึกษาทางการแพทย์ แต่เนื้อหากลับสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักจริยธรรมขั้นพื้นฐาน และเข้าข่ายละเมิดกฎหมายไทย โดยเฉพาะในประเด็นของการคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้งยังสร้างความตื่นตระหนกในสังคม และทำให้สถาบันครอบครัวซึ่งควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย กลับกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง
ท้ายที่สุด คำถามที่สังคมไทยควรตั้งคือ:
ทำไมเหตุการณ์เช่นนี้จึงยังเกิดขึ้นซ้ำซาก?
การรู้เท่าทันกฎหมายเรื่องเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์เพียงพอหรือไม่?
และที่สำคัญ เราจะมีระบบการคุ้มครองเด็กอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีกในอนาคต?














