17 ศพในตู้เย็น เรื่องราวของ Jeffrey Dahmer ฆาตกรผู้สวาปามเนื้อมนุษย์
ย้อนกลับไปในวันที่ 18 มิถุนายน ปี 1978 ชายหนุ่มวัย 18 ปีชื่อ สตีเวน ฮิก โบกรถและได้พบกับ เจฟฟรี ดาเมอร์ เพื่อนร่วมวัยผู้ที่จะกลายเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่เหี้ยมโหดที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา ดาเมอร์อาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านกลางป่า หลังพ่อแม่หย่าร้างและทิ้งให้เขาอยู่โดยไม่มีการควบคุม ฮิกถูกล่อลวงกลับบ้านและถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ดาเมอร์ใช้ดัมเบลฟาดและรัดคอเหยื่อจนเสียชีวิต ก่อนจะชำแหละศพทิ้งชิ้นส่วนในถุงขยะ ละลายบางส่วนด้วยกรด และโปรยกระดูกที่เหลือในป่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอันมืดมิดของเขา
หลังจากการฆาตกรรมครั้งแรก ดาเมอร์ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ดื่มเหล้าหนัก และจมดิ่งในความคิดบิดเบี้ยว แม้จะพยายามเข้าร่วมกองทัพและทำงานในเยอรมนี แต่เขากลับไปติดเหล้าและล่วงละเมิดทหารอย่างน้อย 2 นาย เขาถูกปลดประจำการอย่างมีเกียรติแต่กลับใช้ชีวิตไร้ทิศทางในฟลอริดา ก่อนจะกลับมาอยู่กับยายที่มิลวอกี
บ้านของคุณยายกลายเป็นฉากหลังของการฆาตกรรมอีกหลายครั้ง ในปี 1987 สตีเวน ทูโอมี เป็นเหยื่อรายแรกที่ถูกฆ่าในโรงแรมและศพถูกนำกลับมาชำแหละที่บ้านคุณยาย ดาเมอร์เก็บหัวเหยื่อไว้ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นเขาก็ฆ่า เจมส์ ด็อกโทรอร์ เด็กชายวัย 14 ปี และ ริชาร์ด เกร์เรโร โดยใช้วิธีวางยา รัดคอ ชำแหละ และเก็บชิ้นส่วนไว้ กลิ่นเหม็นและพฤติกรรมแปลกๆ ทำให้คุณยายสงสัย และในที่สุดเธอก็ขอให้เขาย้ายออกไปในเดือนกันยายน ปี 1988
ดาเมอร์ย้ายไปยังอพาร์ตเมนต์หมายเลข 213 ซึ่งกลายเป็นห้องแห่งความตายของเขา ที่นี่เขาฆ่า แอนโทนี เซีย และเก็บศีรษะกับอวัยวะเพศไว้ เขาถูกจับและจำคุกสั้นๆ ในข้อหาล่อลวงเด็ก แต่เมื่อพ้นโทษ เขากลับมายังห้อง 213 พร้อมความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น
ในห้องพักแห่งนี้ ดาเมอร์เริ่มลงมือฆ่าโดยไม่ปิดบังตัวตน เขาฆ่า เรย์มอนด์ สมิธ และถ่ายภาพศพในท่าทางต่างๆ ก่อนจะชำแหละ ต้มชิ้นส่วน และเก็บหัวกะโหลกไว้ เขาพยายามทดลอง “สร้างซอมบี้มนุษย์” โดยการเจาะกะโหลกเหยื่อและกรอกกรดเข้าไป แต่ก็ล้มเหลว เพื่อนบ้านเริ่มร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นและเสียงแปลกๆ แต่ดาเมอร์ก็หลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ทุกครั้ง
จุดจบของดาเมอร์มาถึงในเดือนกรกฎาคม ปี 1991 เมื่อ เทรซี เอ็ดเวิร์ดส์ เหยื่อรายสุดท้าย สามารถหลบหนีออกมาจากห้อง 213 ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น ศพ และชิ้นส่วนมนุษย์ และแจ้งตำรวจ ตำรวจพบกะโหลกมนุษย์ 7 ชิ้น ชิ้นส่วนร่างกายแช่แข็งในตู้เย็น และภาพถ่ายการชำแหละศพจำนวนมาก ดาเมอร์ถูกจับกุมและให้การสารภาพนานกว่า 60 ชั่วโมง โดยไม่แสดงท่าทีสำนึกผิด เขาจำรายละเอียดการฆ่าเหยื่อทั้ง 17 รายได้อย่างแม่นยำ และบอกว่าการฆ่าทำให้เขารู้สึกเติมเต็มแต่ก็ว่างเปล่าในเวลาต่อมา
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปี 1992 ศาลตัดสินให้เจฟฟรี ดาเมอร์ มีความผิดในทุกข้อหาและไม่เข้าข่ายผู้ป่วยทางจิต เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตรวม 957 ปี ในเรือนจำโคลัมเบีย เขามักถูกแยกขังเดี่ยวเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้ต้องขังหลายคนก็ยังแสดงความไม่พอใจ
ในที่สุด วันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 1994 ดาเมอร์ถูกฆ่าตายในห้องน้ำของเรือนจำโดย คริสโตเฟอร์ สคาวเวอร์ ผู้ต้องขังที่มีประวัติทางจิตเวชและแสดงความรังเกียจพฤติกรรมของดาเมอร์ สคาวเวอร์อ้างว่าพระเจ้าสั่งให้ทำ และดาเมอร์เองก็มักจะหยอกล้อเพื่อนนักโทษด้วยมุกเกี่ยวกับการกินคน การเสียชีวิตของดาเมอร์ในวัย 34 ปี ทำให้คดีของเขาสิ้นสุดลงอย่างไม่มีการอุทธรณ์ เถ้ากระดูกของเขาถูกแบ่งให้พ่อและแม่ ไม่มีพิธีศพ ไม่มีหลุมฝังศพใดๆ ทิ้งไว้






















