ภาพยนตร์ "ข้าวฟ่างออกรวง ข้าวบาร์เลย์สุก" โศกนาฏกรรมแห่งความรักและการดิ้นรนในยุคแรกเริ่มสาธารณรัฐจีน
ในบรรดาดวงดาวที่เจิดจรัสของภาพยนตร์จีน มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เปล่งประกายโดดเด่นไม่เหมือนใคร นั่นคือเรื่อง "高粱地里大麦熟" (ข้าวฟ่างออกรวง ข้าวบาร์เลย์สุก) ภาพยนตร์ไต้หวันออกฉายในปี 1984 กำกับโดย หยาง ลี่กั๋ว (杨立国) และนำแสดงโดย จาง อ้ายเจีย (张艾嘉) กับ หวัง ต้าว (王道) ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องในยุคแรกเริ่มของสาธารณรัฐจีน ถักทอเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักและชีวิตที่น่าสะเทือนใจ
เรื่องราวเปิดฉากขึ้นเมื่อ คู่บ่าวสาว ที่เพิ่งแต่งงานต้องเผชิญกับแรงกดดันอันหนักหน่วงของชีวิต เพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับครอบครัว สามี (รับบทโดย หวัง ต้าว) จำใจต้องจากภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน (รับบทโดย จาง อ้ายเจีย) เพื่อไปทำงานหนักที่ซุนเจียไถทางตะวันออกเฉียงเหนือ สองปีอันยาวนานเต็มไปด้วยความคะนึงหาและห่วงใยซึ่งกันและกัน ในที่สุดสามีก็กลับมาหาภรรยา ทั้งสองสร้างบ้านเล็กๆ ที่เรียบง่ายแต่แสนอบอุ่นขึ้นในกระท่อมไม้บนภูเขา พวกเขาใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแบบชายหาหญิงทอผ้า สามีทำงานหนัก ภรรยาดูแลบ้าน ในยามว่างก็พิงอิงกัน แม้ชีวิตจะขัดสนแต่ก็เต็มไปด้วยความหวานชื่น และในไม่ช้าพวกเขาก็ให้กำเนิด พยานรัก ตัวน้อย
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมกลับพลิกผันอย่างกะทันหัน ในเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทครั้งหนึ่ง สามีได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องนอนติดเตียง เมื่อ เสาหลักของครอบครัวล้มลง รายได้ก็ขาดสะบั้น ภรรยามองสามีที่ป่วยหนักและลูกน้อยที่ยังแบเบาะ หัวใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและไร้หนทาง เพื่อรักษาสามีและเลี้ยงดูบุตร เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำยอมนำตัวเองไปจำนำที่ โรงน้ำชาหลานเซียงกวน และนับจากนั้นเธอก็ต้องเดินบนเส้นทางแห่งความอัปยศอดสูเพื่อความอยู่รอด
ในวันที่ต้องอยู่ในโรงน้ำชา ภรรยาพยายามอย่างหนักในการรับแขก และส่งเงินที่ได้กลับไปที่บ้าน เธอเต็มไปด้วยความหวังว่าสามีจะหายป่วยเร็วๆ นี้ และใช้เงินก้อนนี้ลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไถ่ถอนตัวเธอออกจากนรก อย่างไรก็ตาม หลังจากสามีหายป่วย เขาก็ไม่ได้ทำงานอย่างจริงจังตามที่ภรรยาคาดหวัง เขาถูกความยากลำบากของชีวิตบีบคั้นจนหายใจไม่ออก หวังจะรวยทางลัดด้วยการพนัน ผลลัพธ์คือเขาไม่เพียงแต่เสียเงินเก็บทั้งหมด แต่ยังเสียเงินค่าตัวที่ภรรยาแลกมาด้วยศักดิ์ศรีจนหมดเกลี้ยง
ในเวลานี้ ชะตากรรมได้ซัดโหมใส่คู่สามีภรรยาคู่นี้อีกครั้ง แขกคนหนึ่งที่ภรรยาให้บริการเป็น ผู้ตรวจการ (รับบทโดย ก่วน ก่วน) ที่เกิดความรักใคร่ในตัวเธอ หลังจากได้เลื่อนตำแหน่งและร่ำรวยขึ้น ผู้ตรวจการตัดสินใจไถ่ถอนตัวภรรยาและรับเธอไปเป็น ภรรยาน้อย เมื่อต้องเผชิญกับทางเลือกนี้ ภรรยาตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้านหนึ่งคือสามีที่จมปลักอยู่ในโคลนตมและไม่สามารถไถ่ถอนตัวเธอได้ และลูกน้อยที่ยังเล็ก อีกด้านหนึ่งคือโอกาสที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ระทม ผู้ตรวจการพาภรรยาไปพบสามี สัญญาว่าจะส่งลูกเรียน และหางานให้สามีทำ และกล่าวตรงๆ ว่าด้วยความสามารถของสามี คงไม่มีวันไถ่ถอนภรรยาออกจากโรงน้ำชาได้ตลอดชีวิต ในที่สุด เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอันโหดร้าย สามีจำยอมด้วยความเจ็บปวด และภรรยาก็จำต้องยอมรับการจัดสรรของโชคชะตาอย่างช่วยไม่ได้
ในช่วงท้ายของภาพยนตร์ ภรรยาที่ได้เป็นภรรยาน้อยแล้วกับอดีตสามียังคงตัดใจจากกันไม่ได้ พวกเขามักจะแอบนัดพบกันในไร่ข้าวฟ่างเพื่อระบายความในใจซึ่งกันและกัน ภาพยนตร์ปิดฉากลงด้วยภาพของทั้งสองที่อยู่ด้วยกันอย่างอ่อนโยนในไร่ข้าวฟ่าง ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกและถอนหายใจไม่รู้จบให้กับผู้ชม
"高粱地里大麦熟" แสดงให้เห็นอย่างลึกซึ้งถึงการดิ้นรนอย่างไร้พลังของคนตัวเล็กๆ ท่ามกลางกระแสธารแห่งโชคชะตาในยุคนั้นที่วุ่นวายและผู้คนยากไร้ มันสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างความงดงามของความรักกับความโหดร้ายของความเป็นจริง ความรู้สึกที่แท้จริงของสามีภรรยาที่เคยมีต่อกันได้แตกสลายไปภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วงของชีวิต ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ยังวิเคราะห์เจาะลึกถึงธรรมชาติของมนุษย์ ความอ่อนแอและการจมดิ่งของสามี ความแข็งแกร่งและความสิ้นหวังของภรรยา ล้วนถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความทุกข์ยากของชีวิตและความซับซ้อนของมนุษย์อย่างแท้จริง






















