หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คดีปริศนา "เสื้อกั๊กมนุษย์" : การตามล่าฆาตกรสุดโหด

เนื้อหาโดย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

เรื่องราวที่เราจะพาไปเจาะลึกวันนี้คือคดีฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญที่ทิ้งปมปริศนาไว้มากมาย เกี่ยวข้องกับชายผู้มีประวัติการข่มเหงผู้หญิงและลงมือก่อเหตุฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด

ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1999 ที่เมืองคราคูฟ ประเทศโปแลนด์ เรือลำหนึ่งขณะกำลังเทียบท่าได้พบสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในใบพัด ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพียงวัสดุทั่วไป แต่เมื่อตรวจสอบในเช้าวันรุ่งขึ้น กลับพบว่ามันคือ ผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งถูกตัดและเย็บอย่างประณีตคล้ายเสื้อกั๊ก การตรวจสอบทางการแพทย์ยืนยันว่าผิวหนังนี้เป็นของ คาช่า โซวา หญิงสาววัย 23 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 1998

คาช่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยผู้เงียบขรึมและขี้อาย พฤติกรรมเธอเปลี่ยนไปหลังจากการเสียชีวิตของพ่อในปี 1996 เธอเริ่มเก็บตัวมากขึ้น และหลังจากกลับจากสหรัฐอเมริกา เธอก็เริ่มหลงใหลในไลฟ์สไตล์อิสระและเปลี่ยนตัวเองไปหลายอย่าง ก่อนหายตัวไปเธอลาออกจากมหาวิทยาลัยโดยที่แม่ไม่ทราบ และเพื่อนๆ เล่าว่าเธอไปพบบางคนที่ไม่รู้จักชื่อ เพื่อนยังสังเกตเห็นว่าคาช่าย้อมผมเป็นสีดำและเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว นอกจากนี้ยังเคยแนะนำตัวเองกับเพื่อนร่วมงานที่อื่นว่าชื่อ แองจี้

คดีของคาช่าดำเนินไปอย่างล่าช้า ตำรวจไม่มีเบาะแสชัดเจน จนกระทั่งได้รับพัสดุปริศนาในเดือนพฤษภาคม 1999 ซึ่งภายในมีศีรษะที่ถูกตัดและไม่มีผิวหนัง ซึ่งทำให้ตำรวจเชื่อว่าเป็นฝีมือฆาตกรคนเดียวกันกับคดีของคาช่า ไม่นานหลังจากนั้นชายชราคนหนึ่งได้แจ้งตำรวจว่าหลานชายของเขา วลาดิเมียร์ เป็นผู้ลงมือสังหารพ่อของตัวเองอย่างเหี้ยมโหด ด้วยการลอกผิวหนังออกจากศีรษะของพ่อเพื่อทำหน้ากาก การกระทำที่น่าตกใจของวลาดิเมียร์ทำให้ตำรวจคิดว่าเขาอาจเกี่ยวข้องกับคดีของคาช่าด้วย อย่างไรก็ตาม การสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าวลาดิเมียร์มีหลักฐานยืนยันว่าเขาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในวันที่คาช่าหายตัวไป ทำให้เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าพ่อตัวเองเท่านั้น

คดีของคาช่ากลับเข้าสู่ทางตันอีกครั้ง แต่เทคโนโลยีใหม่ๆ ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ทำให้ตำรวจสามารถวิเคราะห์ผิวหนังที่พบได้อย่างละเอียด พบว่าผิวหนังอยู่ในน้ำมาหลายสัปดาห์ มีพืชพันธุ์จากนอกเมืองติดอยู่ และมีรอยฟกช้ำที่บ่งชี้ว่าผู้กระทำมีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้

จนกระทั่งปี 2017 เกือบ 20 ปีหลังจากคดีซบเซา ตำรวจได้รับจดหมายลึกลับจากชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าเพื่อนของเขาชื่อ โรเบิร์ต วอกี้ อายุ 52 ปี เป็นฆาตกร เมื่อตำรวจไปสอบถาม โรเบิร์ตแสดงท่าทีปกป้องตัวเองอย่างรุนแรงและปฏิเสธว่าไม่รู้จักคาช่า พฤติกรรมที่น่าสงสัยนี้ทำให้ตำรวจเริ่มสืบประวัติของเขา

พบว่าโรเบิร์ตเติบโตในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เขาเคยทำงานในห้องแล็บที่รับหน้าที่ชำแหละศพ และเรียนด้านสัตววิทยา ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับผิวหนังทั้งของมนุษย์และสัตว์ นอกจากนี้ เขายังมีประวัติการทำร้ายสัตว์ โดยเฉพาะการฆ่ากระต่ายในโรงเรียนโดยไม่มีเหตุผล และยังแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและผิดปกติในการพูดถึงผู้หญิง และเคยไปที่หลุมศพของคาช่าพร้อมนำจดหมายไปทิ้งไว้

ระหว่างการสืบสวน ตำรวจพบว่าโรเบิร์ตมีประวัติการสอดแนมและทำร้ายผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะกับคาช่า เขาใช้เวลาหลายปีในการติดตามและบงการให้เธอเปลี่ยนตัวเองตามที่เขาชอบ ในวันที่คาช่าหายตัวไป โรเบิร์ตได้ล่อลวงเธอไปยังห้องใต้ดินที่บ้านในป่า ทรมานและลอกผิวหนังของเธอออกในขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่ โรเบิร์ตบันทึกทุกขั้นตอนการกระทำของเขาอย่างละเอียดในไดอารี่ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าเป็นเขา

นอกจากนี้ยังพบเลือดของคาช่าที่บ้านของโรเบิร์ต ยืนยันว่าเป็นของเธอ หลังการค้นบ้านและพบไดอารี่ ตำรวจจึงจับกุมโรเบิร์ตในที่สุด แม้เขาจะปฏิเสธ แต่หลักฐานชัดเจน ศาลตัดสินให้เขามีความผิดและรับโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ได้รับการปล่อยตัว

เรื่องราวของโรเบิร์ต วอกี้ ชายผู้มีความเชี่ยวชาญในการชำแหละศพ และความปรารถนาอันผิดปกติที่ต้องการสวมใส่ผิวหนังของเหยื่อ ได้จบลงในเรือนจำ ชายผู้นี้คงคิดว่าเขาจะรอดพ้นจากความผิด แต่ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผยหลังจาก 20 ปี

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
3 จังหวัดในประเทศไทย ที่มีจำนวนประชากรน้อยกว่า 2 แสนคนจีนให้เตรียมมอบเงิน สนับสนุนให้เขมร 100,000 ดอลลาร์สาวเขมรดูหมิ่นประเทศไทย นายจ้างไล่ออกทันที พร้อมแจ้งความดำเนินคดีคนเขมรเริ่มตาสว่าง พึ่งรู้ว่าตัวเองถูกหลอกจากรัฐบาล ไม่มี ไม่พบ ไม่เจอ สูญหาย จึงออกมาเรียกร้องความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของทหารเขมรจี๋-เมย์ ตอบแล้วคบกันสถานะใดรำวงยิ่งยง 4 ภาค พร้อมช่วยคนไทยในยามทุกข์ยาก !!แนวปฏิบัติ "ช่องอานม้า" จัดกำลังฝ่ายละ 5 นายสาวกระบี่เดือด! มีปากเสียงน้องชาย ก่อนคว้าปืนยิง กระสุนถูกแฟนน้องเจ็บ10 เรื่องเล็กๆ ของร่างกายที่คุณอาจไม่เคยรู้ แต่รู้แล้วจะว้าว!สมานโซล! เสียงดนตรีคือชีวิต และชีวิตส่งเซอร์ไพรส์ให้ทุกวัน ทะยานสู่รอบไฟนอล “Thailand Band Wars”Sapiosexual การตกหลุมรักเพราะความฉลาด เช็กลิสต์ และเทคนิคมัดใจมาแล้ว! เลขเด็ด "เจ้าแม่ตะเคียน" งวดวันที่ 16 สิงหาคม 68..เลขไหนเข้าวิน ส่องเลย!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ฮุนเซนโมโหมาก!! ประกาศกร้าวจะไม่ส่งคนไข้เขมรมาไทยแล้ว!!หลางตาสุจย์ ลั่น อย่าไปเชื่อรูปตัดต่อ กรณีหลุดภาพสายลับ "นายพลสุจ" จากประเทศไทยรำวงยิ่งยง 4 ภาค พร้อมช่วยคนไทยในยามทุกข์ยาก !!10 เรื่องเล็กๆ ของร่างกายที่คุณอาจไม่เคยรู้ แต่รู้แล้วจะว้าว!ระบบอาวุธจรวดของไทย ที่ทันสมัยและมีอำนาจทำลายล้างมากที่สุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
“โลกแบน” ยังไม่หายไปไหน:ทำไมคนยุค AI ยังเชื่อแบบนั้น?เงินเดือน 15,000 ทำไมเก็บเงินไม่ได้สักที? (ทั้งที่คิดว่าไม่ได้ใช้เยอะ)10 เรื่องเล็กๆ ของร่างกายที่คุณอาจไม่เคยรู้ แต่รู้แล้วจะว้าว!เมืองสำคัญในประเทศลาว ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นจังหวัดของประเทศไทย
ตั้งกระทู้ใหม่