ฮือฮา! นักการเมืองเยอรมันเปลือยกาย ชวนจัดทริปเซ็กซ์หมู่ที่ฝรั่งเศส หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

"นักการเมืองเยอรมัน จุดชนวนดราม่า! โพสต์ภาพเปลือย-ชวนร่วมทริป ‘เซ็กซ์หมู่’ หวังดันเศรษฐกิจท้องถิ่น"

กลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับชาติในประเทศเยอรมนี เมื่อ จูเลียน เฟอร์ราต (Julien Ferrat) นักการเมืองท้องถิ่นวัย 33 ปี จากเมืองมานน์ไฮม์ สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่ หลังเขาตัดสินใจโพสต์ภาพเปลือยของตนเองเพื่อโปรโมต "ทริปศึกษาดูงานการเมือง" ที่ไม่เหมือนใคร — ซึ่งมีจุดหมายปลายทางคือหมู่บ้านกัป ดาแกด (Cap d'Agde) ในฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของชาว “นูดิสต์” และผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบสวิงกิ้ง

เป้าหมายชัดเจน: ใช้ ‘เซ็กซ์ทัวร์’ ปลุกเศรษฐกิจเมือง

เฟอร์ราต ในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองท้องถิ่น Die Mannheime ได้เสนอไอเดียสุดล้ำโดยหวังให้ชาวเมืองเข้าร่วมทริปศึกษาดูงานความยาว 8 วัน ที่เน้นการเรียนรู้ว่าทำไมและอย่างไร “เซ็กซ์ทัวร์” และการท่องเที่ยวแนวนูดิสต์-สวิงกิ้งถึงสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของเมืองหนึ่งได้

“กัป ดาแกดเป็นศูนย์รวมระดับโลกของผู้คนที่หลงใหลในเสรีภาพทางเพศ” เฟอร์ราตระบุไว้ในบทความที่ตีพิมพ์ลงใน Mannheim Official Gazette เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยเขายังเผยภาพถ่ายที่เจ้าตัวเปลือยกายทั้งหมด มีเพียงป้ายกระดาษที่มีข้อความ “Political Education Trip to Cap d'Agde” ปิดบังอวัยวะเพศไว้เท่านั้น

เฟอร์ราตยืนยันว่า เขาต้องการนำแนวคิดการท่องเที่ยวรูปแบบนี้มาปรับใช้ในมานน์ไฮม์ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดกลางที่เผชิญปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวมาหลายปี “ทำไมเราไม่เรียนรู้จากโมเดลที่ได้ผลจริง?” เขาตั้งคำถาม พร้อมย้ำว่า หมู่บ้านนัดและกิจกรรมทางเพศในกัป ดาแกดเกิดขึ้นได้เพราะมีวิสัยทัศน์และการสนับสนุนจากรัฐ

ไม่ใช่แค่ทริป... แต่มีค่ายฝึกอบรมก่อนเดินทาง!

เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วม เฟอร์ราตยังเปิดเผยว่าจะมีการจัดค่ายฝึกอบรมก่อนออกเดินทาง ที่ Friesenheimer Insel ในเมืองมานน์ไฮม์ โดยกิจกรรมจะรวมไปถึง "การฝึกมีเพศสัมพันธ์กลางแจ้ง" เพื่อปรับทัศนคติและความกล้าให้กับผู้ร่วมทริป พร้อมย้ำชัดว่า ค่ายนี้จะไม่เปิดรับสื่อมวลชนเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วม

คำเชิญชวนของเฟอร์ราตระบุว่า “สำหรับพลเมืองที่อยากรู้อยากเห็น และมีใจเปิดกว้างเท่านั้น” พร้อมระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ เช่น ชายหาด ถือเป็นเรื่องปกติที่ Cap d’Agde และเป็นสิ่งที่ควรเปิดใจเรียนรู้ แทนที่จะตีตราว่าเป็นเรื่องผิดศีลธรรม

เสียงตอบรับหลากหลาย บางส่วนหนุน บางส่วนส่ายหน้า

ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 พฤษภาคม ระบุว่ามีผู้ลงทะเบียนสนใจเข้าร่วมทริปแล้วกว่า 75 คน และมีถึง 22 คนยืนยันเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ แยกเป็นชาย 14 คน และหญิง 8 คน โดยผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะต้องเข้ารับการประเมินทางจิตวิทยาก่อนเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าเข้าใจวัตถุประสงค์ของทริปอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม แนวคิดสุดโต่งของเฟอร์ราตก็ได้รับเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะ คริสเตียน เฮิททิง สมาชิกสภาเมืองมานน์ไฮม์และประธานพรรค CDU ประจำเขต กล่าวตำหนิว่า “แนวคิดนี้เป็นเรื่องงี่เง่า... มันท่อลายภาพลักษณ์ของการเมือง และดูน่าอับอายมากกว่าจะเป็นการศึกษาดูงานอย่างสร้างสรรค์”

เฟอร์ราตไม่หวั่นดราม่า: “ใครไม่สบายใจก็แค่วางหนังสือลง”

แม้จะถูกวิจารณ์หนัก เฟอร์ราตยังยืนยันในจุดยืนของตนอย่างไม่ลดละ โดยให้สัมภาษณ์ตอบโต้เสียงวิจารณ์ว่า “ไม่มีใครบังคับให้ไป ใครไม่พอใจ ก็แค่ไม่ต้องอ่านต่อ” พร้อมระบุว่า เขาเปิดกว้างต่อความเห็นต่าง และเชื่อว่าการทดลองสิ่งใหม่ๆ อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

“ถ้าเราสามารถเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องเพศ และเข้าใจว่ามันเป็นพลังทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง ก็จะเห็นว่าทริปนี้ไม่ใช่เรื่องลามก แต่คือโอกาส” เขากล่าว

ความเคลื่อนไหวที่เคยเป็นข่าว: ไม่ใช่ครั้งแรกที่เปลือย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟอร์ราตใช้เรือนร่างของตัวเองเพื่อสื่อสารทางการเมือง เมื่อปีที่แล้ว เขาเคยตีพิมพ์บทความแนะนำตัวเองในราชกิจจานุเบกษาของเมือง พร้อมภาพถ่ายเปลือยกายเต็มตัว ภายใต้แนวคิดว่า “นักการเมืองไม่ควรมีอะไรต้องปิดบัง” — และเขาก็หมายความตามนั้นแบบตรงตัว

เฟอร์ราตยังเคยเคลื่อนไหวประเด็นสิทธิเสรีภาพทางเพศมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงรณรงค์ให้เมืองมานน์ไฮม์เปิดโซนเปลือยกายอย่างถูกกฎหมาย และสนับสนุนการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกิจกรรมทางเพศอย่างเปิดเผย

การเมืองหรือการตลาด? เส้นแบ่งที่ถูกตั้งคำถาม

คำถามที่ตามมาคือ “นี่คือการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือการสร้างกระแสเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว?” นักวิชาการหลายรายในเยอรมนีต่างวิพากษ์ว่าสิ่งที่เฟอร์ราตทำ อาจเข้าข่ายใช้สื่อสาธารณะเพื่อโปรโมตพฤติกรรมส่วนตัว ภายใต้หน้ากากของ ‘การศึกษาทางการเมือง’

ด้านโฆษกสำนักงานบริหารเมืองมานน์ไฮม์ ได้ออกแถลงการณ์เพียงสั้นๆ ว่า “เทศบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทความดังกล่าว และไม่ได้ให้การสนับสนุนแนวคิดของสมาชิกสภาอย่างเป็นทางการ” พร้อมย้ำว่า ราชกิจจานุเบกษาของเมืองเปิดพื้นที่ให้สมาชิกสภาทุกคนแสดงความเห็นอย่างอิสระ โดยมีขอบเขตทางกฎหมายกำกับ

เซ็กซ์เพื่อเศรษฐกิจ หรือการเมืองที่ไร้กรอบ?

ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ กับแนวคิดของจูเลียน เฟอร์ราต ชัดเจนว่าเขาได้ดึงความสนใจจากสาธารณชนได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ตามมาคือคำถามถึงความเหมาะสม ขอบเขตทางศีลธรรม และความเป็นมืออาชีพของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ทริป “ศึกษาดูงานทางเพศ” ครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงการท่องเที่ยวแบบเปลือยกายธรรมดา แต่คือสนามทดลองทางการเมืองที่สะท้อนถึงจุดเปลี่ยนของโลกยุคใหม่ ที่เสรีภาพ ความเปิดกว้าง และแนวคิดนอกกรอบ เริ่มเข้ามาท้าทายกรอบจริยธรรมเดิมอย่างเต็มรูปแบบ

 แล้วคุณล่ะ? คิดอย่างไรกับทริปการเมืองเชิงเพศเช่นนี้...คือนวัตกรรม หรือเรื่องพิลึก?