วัยรุ่นอิสลามโดนจับติดคุก หลังรุมโทรมเด็กหญิงชาวยิว
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] วัยรุ่นชาวมุสลิม วัย 13 ปี ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส 2 คน ถูกจับติดคุก เป็นระยะเวลา 7 ปี และ 9 ปีตามลำดับ [โทษสูงสุด 10 ปี] หลังจากที่พวกเขาได้ทำการ รุมโทรมเด็กหญิงชาวยิว วัย 12 ปี เนื่องจากมีความแค้นทางศาสนา
เหล่าผู้ต้องหากล่าวว่า "เราข่มขืนเธอ เพราะเราจับได้ว่าเธอ เป็นพวกยิว" และ "หากเธอไม่ใช่พวกยิว เราจะไม่ข่มขืนเธอเลย"
เหยื่อกล่าวว่า "ฉันจำเป็นต้องปลอมเป็น ผู้นับถืออิสลาม เพื่อที่จะทำให้ตัวเองปลอดภัย เนื่องจากเพื่อนๆที่โรงเรียน สนับสนุนปาเลสไตน์..."
ศาลกล่าวว่า "คำสั่งสอนทางศาสนาของผู้นับถือมุสลิม คือ การที่ผู้นับถือสามารถข่มขืนผู้นับถือศาสนาอื่นได้ โดยไม่ผิดกฎทางศาสนา และ ไม่ผิดกฎหมายในอาหรับ แต่การที่พวกเขามาข่มขืนในอิสราเอล หรือ ที่ไหนในโลก มันผิดกฎหมายทุกข้ออยู่ดี!!"
เหยื่อกล่าวอีกว่า "ฉันแจ้งความ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉัน ที่จะต้องพูดออกมา ฉันไม่ได้หวังว่าพวกเขาจะถูกจับกุมในเร็วๆนี้ แต่ฉันทำแบบนี้เพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งฉันหวังว่ามันปกป้องผู้อื่นได้..." และ "ฉันยังคงมีอาการข้างเคียง บางครั้งฉันนอนไม่หลับ ฉันเห็นภาพหลอน เมื่อย้อนนึกถึงอดีต..." และ "ฉันต้องเปลี่ยนนิสัยประจำวันของฉัน" และ .มีบางอย่างที่ฉันไม่ทำอีกต่อไป ซึ่งก่อนที่ฉันจะถูกข่มขืน ฉันมักจะออกไปข้างนอกคนเดียว และ ฉันไม่เข้าหาผู้คน เหมือนแต่ก่อนด้วย..."
เหล่าผู้ต้องหา ตระโกนทิ้งท้ายในศาลว่า "พวกยิวนั้น สกปรก!!"













