รวบ 6 คนไทย! ลอบข้ามแดนกลับปอยเปต หวังทำงานคาสิโนอีกครั้ง
ทหารพรานสกัดจับ 6 คนไทยลักลอบข้ามแดนไปทำงานคาสิโนฝั่งปอยเปต เผยเบื้องหลังถูกจ้างเดือนละ 2 หมื่น – แอบใช้ช่องทางธรรมชาติหลังเข้าไม่ได้ตามระบบปกติ
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังล่าสุดเจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา โดยชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ฉก.อรัญประเทศ) ภายใต้การควบคุมของกรมทหารพรานที่ 13 (โดย ร้อย ทพ.1304) สามารถสกัดจับกุมคนไทยจำนวน 6 ราย ขณะพยายามลักลอบข้ามแดนออกจากประเทศไทยไปยังฝั่งประเทศกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายคือ “บ่อนคาสิโน” ในฝั่งปอยเปต
จับได้คาช่องทางธรรมชาติ ขณะรอผู้นำทางในป่าแนวชายแดน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณช่องทางธรรมชาติแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านบ้านใหม่โคกสะแบง ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักถูกใช้เป็นจุดลักลอบข้ามแดนอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากภูมิประเทศที่เปิดโล่งและมีแนวป่าไม้บางช่วงที่เอื้ออำนวยต่อการลอบเดินทาง เจ้าหน้าที่ทหารพรานซึ่งออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนเป็นประจำ ได้สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวต้องสงสัย จึงเข้าตรวจสอบและพบกลุ่มชาย-หญิงชาวไทยรวม 6 คนกำลังรวมตัวกันอยู่ใกล้จุดนัดหมาย โดยมีข้อมูลว่ากำลังรอผู้นำทางจากฝั่งกัมพูชาให้พาเดินเท้าข้ามพรมแดนไปยังพื้นที่ฝั่งปอยเปต
ทั้งหมดสารภาพเป็นพนักงานคาสิโน ได้รับค่าจ้าง 20,000 บาทต่อเดือน
หลังจากจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งทั้ง 6 รายให้การตรงกันว่า พวกตนเคยทำงานเป็นพนักงานใน “บริษัท คราวน์ คาสิโน” ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยได้รับค่าจ้างเฉลี่ยคนละ 20,000 บาทต่อเดือน งานที่ทำมีทั้งงานบริการลูกค้า แม่บ้าน และดูแลระบบทั่วไปภายในคาสิโน โดยส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว
เหตุลอบเข้าเพราะระบบปิด-ขาออกไม่ได้ตามด่านปกติ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องใช้ช่องทางธรรมชาติครั้งนี้คือ ภายหลังจากที่แต่ละคนได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยในช่วงวันหยุด โดยอ้างว่าเพื่อประทับตราหนังสือเดินทางและจัดการเอกสารบางอย่างให้ถูกต้องตามระเบียบข้ามแดน แต่เมื่อต้องการกลับไปทำงานที่ฝั่งปอยเปตอีกครั้ง กลับไม่สามารถผ่านด่านพรมแดนได้ตามปกติ เนื่องจากทางการไทยได้มีการยกระดับมาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด
ช่วงเวลาดังกล่าวมีการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด อีกทั้งมีการคัดกรองคนเข้าออกอย่างหนัก ทำให้กลุ่มแรงงานเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตามวิธีปกติ
มีคนในฝั่งปอยเปตช่วยจัดหา "เส้นทางลัด" ลอบเข้าอีกครั้ง
ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานได้ตามระบบ กลุ่มคนไทยทั้ง 6 คนจึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานในฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานในคาสิโนเดียวกัน ซึ่งยังคงอยู่ในปอยเปต เพื่อช่วยประสานหา “ผู้นำทาง” หรือคนที่รู้จักช่องทางธรรมชาติตามแนวป่า เพื่อนำพาพวกตนกลับเข้าไปทำงานอีกครั้งโดยหลีกเลี่ยงด่านตรวจอย่างเป็นทางการ
ตามข้อมูลที่สอบสวนเบื้องต้น ระบุว่า ผู้นำทางได้จัดจุดนัดพบให้กับแรงงานกลุ่มนี้บริเวณป่ารอยต่อชายแดน แต่เจ้าหน้าที่ทหารพรานซึ่งลาดตระเวนในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดสงสัยพฤติกรรม จึงเข้าตรวจสอบและพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายลักลอบข้ามแดน จึงควบคุมตัวไว้ได้ก่อนที่จะเดินทางไปถึงฝั่งกัมพูชา
ทหารส่งมอบตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยควบคุมตัวทั้ง 6 รายส่งมอบให้กับสถานีตำรวจภูธรคลองลึก เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหาเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการควบคุมการเดินทางข้ามแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต
สะท้อนปัญหาแรงงานไทยในกาสิโนชายแดน
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่กรณีแรกของการลักลอบข้ามแดนไปทำงานในบ่อนคาสิโนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะบริเวณปอยเปต ซึ่งถือเป็นเมืองคาสิโนที่ได้รับความนิยมจากนักพนันทั่วภูมิภาค และมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เลือกเดินทางไปทำงานที่นั่น โดยบางคนเดินทางเข้าออกอย่างถูกกฎหมาย แต่บางส่วนกลับเลือกใช้เส้นทางผิดกฎหมาย เนื่องจากความล่าช้าในระบบเอกสาร หรือข้อจำกัดด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดขึ้นในช่วงหลัง
ช่องว่างของกฎหมายและความเสี่ยงของแรงงานไทย
ปัญหานี้สะท้อนถึง “ช่องว่าง” ของการจัดการแรงงานไทยในพื้นที่ชายแดนที่ยังไม่มีระบบจัดระเบียบที่ชัดเจนและยืดหยุ่นพอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีงานรองรับอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางได้เพียงเพราะข้อกำหนดด้านเอกสารล่าช้า หรือเจ้าหน้าที่ไม่มีการพิจารณาตามความเหมาะสม ส่งผลให้บางคนตัดสินใจ “ลัดขั้นตอน” ด้วยการเสี่ยงข้ามแดนทางป่า แม้รู้ว่าจะผิดกฎหมาย
ไม่เพียงแต่จะตกอยู่ในความเสี่ยงด้านกฎหมาย หากถูกจับกุม แรงงานเหล่านี้ยังอาจถูกเอาเปรียบจากกลุ่มนำทางที่เรียกเก็บค่าบริการแพง หรือพาไปส่งผิดที่จนตกอยู่ในอันตราย และบางกรณีอาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ด้วย
ภาครัฐควรเร่งทบทวนมาตรการและหาช่องทางรองรับแรงงานถูกกฎหมาย
ในขณะที่ฝ่ายความมั่นคงมีหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยชายแดน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ฝ่ายที่ดูแลแรงงานและนโยบายต่างประเทศควรเร่งพิจารณาแนวทางที่เป็นธรรมสำหรับแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความต้องการแรงงานสูงอย่างปอยเปต เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานไทยต้องหันไปพึ่ง “ช่องทางธรรมชาติ” ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง
เหตุการณ์การจับกุมคนไทย 6 คน ขณะพยายามลักลอบข้ามแดนไปทำงานในบ่อนคาสิโนฝั่งกัมพูชา ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบแรงงานข้ามแดนที่ยังต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะตราบใดที่ยังไม่มีระบบที่ชัดเจนและยืดหยุ่นต่อแรงงานเหล่านี้ เหตุการณ์ลักลอบข้ามแดนก็คงจะยังเกิดขึ้นอีกต่อเนื่อง และอาจรุนแรงยิ่งขึ้น




