แข็งค้างไม่ใช่เรื่องดี! ระวังภาวะน้องชายแข็งตัวเกิน 4 ชั่วโมง เสี่ยงพิการถาวร
ความปรารถนาที่จะมีสมรรถภาพทางเพศที่ยอดเยี่ยมและคงทนยาวนานเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายหลายคน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวนานเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเสมอไป? ตรงกันข้าม มันอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะทางการแพทย์ที่เรียกว่า "ภาวะองคชาตแข็งค้าง" (Priapism) ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ความเสียหายถาวรได้
ภาวะองคชาตแข็งค้างเป็นสภาวะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวอย่างต่อเนื่องผิดปกติ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นทางเพศ และไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพอ่อนตัวได้เอง แม้จะมีการหลั่งน้ำอสุจิแล้วก็ตาม โดยทั่วไป หากการแข็งตัวคงอยู่เกิน 4-6 ชั่วโมง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นภาวะนี้
ภาวะนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลัก:
-
ภาวะขาดเลือด (Ischemic Priapism): เป็นชนิดที่พบบ่อยกว่า เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดดำในองคชาต ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนออกจากองคชาตได้ นำไปสู่การขาดเลือดและออกซิเจนในเนื้อเยื่อ ซึ่งมักจะมีอาการปวดร่วมด้วย
-
ภาวะไม่ขาดเลือด (Non-Ischemic Priapism): เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด หรือมักเกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บ ซึ่งทำให้เลือดไหลเข้าสู่องคชาตมากเกินไป ภาวะนี้มักจะไม่ทำให้เกิดอาการปวด และพบน้อยกว่า
รายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขแห่งชาติอังกฤษ (NHS) ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยภาวะองคชาตแข็งค้างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในปี 2021 มีผู้ป่วยถึง 393 รายที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% จากปี 2020 ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 41 ปี แต่ก็พบได้ในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 70-90 ปีเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญจาก NHS วิเคราะห์ว่าสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นคือ การใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศเกินขนาด เช่น ยาไวอากร้า รวมถึงการใช้สารเสพติดผิดกฎหมายอย่างยาไอซ์หรือโคเคน ซึ่งอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่อันตรายนี้ได้
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการองคชาตแข็งตัวนานเกิน 4-6 ชั่วโมง โดยไม่มีสาเหตุจากการกระตุ้นทางเพศ หรือมีอาการปวดรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด การรักษาภาวะองคชาตแข็งค้างสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ยา การผ่าตัด หรือการประคบน้ำแข็ง ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของภาวะ
หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การเกิดพังผืดในองคชาต และภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศถาวร ซึ่งหมายความว่าอวัยวะเพศจะไม่สามารถแข็งตัวได้อีกต่อไปในอนาคต
ดังนั้น การที่น้องชายแข็งตัวนานเกินไป ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามหรือภาคภูมิใจ แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทางการแพทย์ที่ร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตทางเพศและคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากแพทย์หากพบอาการดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอย่างถาวร












