บทสัมภาษณ์พิเศษของ อาฟง กันตภณ นักเเสดง ศิลปินชาวไทย
บทสัมภาษณ์พิเศษ
“อาฟง กันตภณ ทองฉาย – เด็กหนุ่มผู้มีฝัน เสียงเพลง และความกล้าเป็นเข็มทิศชีวิต”
Q: แนะนำตัวเองหน่อย
อาฟง: สวัสดีครับ ผมชื่อกันตภณ ทองฉาย หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “อาฟง” ก็ได้ครับ หลายคนรู้จักผมในชื่อจีนว่า “เฉิงเฉิง” หรือ 李丞丞 ผมเกิดวันที่ 21 เมษายน 2549 ที่ปราจีนบุรี เป็นลูกครึ่งไทย–ไต้หวันครับ ตอนนี้ผมกำลังทำเพลง แต่งเพลงเอง และเริ่มต้นในวงการบันเทิงด้วยความฝันเล็ก ๆ ที่อยากให้โลกฟังเสียงของเรา
Q: ชื่อ “อาฟง” มาจากไหนเหรอ?
อาฟง: จริง ๆ เลยนะครับ ตอนเด็ก ๆ ผมชอบดู “เปาบุ้นจิ้น” กับยาย ยายก็เลยเรียกผมว่า “อาฟง” เพราะมีตัวละครจีนที่ดูฉลาด ๆ หน่อย แล้วพอโตขึ้น ชื่อนี้ก็ติดปากทุกคนจนกลายเป็นชื่อจริง ๆ ที่ผมใช้มาตลอดครับ
Q: เติบโตมาในครอบครัวแบบไหน?
อาฟง: ผมเติบโตมากับยายครับ ท่านเลี้ยงผมด้วยความรักและวินัย แม่บุญธรรมผมชื่อกนกอร (เเม่อร)ท่านทำงานหนักมาก ส่วนพ่อบุญธรรมชื่อวันชัย ก็เป็นอีกคนที่ดูแลผมดีมาก ผมรู้สึกว่าแม้ครอบครัวผมอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบในแบบทั่วไป แต่เรารักกันมากครับ
Q: ตอนเด็ก ๆ ฝันอยากเป็นอะไร?
อาฟง: ตอนเด็กผมอยากเป็นนักแสดงครับ (หัวเราะ) ผมชอบแสดงหน้ากระจก เล่นละครเองคนเดียว มีความสุขกับการได้เป็นอีกคนหนึ่ง หรือได้ร้องเพลงให้ใครฟัง แล้วความฝันนั้นก็ไม่เคยหายไปเลย จนโตมาก็ยังอยากเป็นศิลปินเหมือนเดิม
Q: มีอะไรที่คนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับอาฟงไหม?
อาฟง: ผมเป็นคนที่มีความฝันเยอะนะครับ แต่บางทีก็ขี้กลัว ผมเคยซึมเศร้า เคยรู้สึกว่าเราไม่พอดีสำหรับที่ไหนเลย แต่ผมก็เรียนรู้ว่าการรักตัวเองมันสำคัญมาก และผมก็อยากให้คนที่กำลังรู้สึกแบบนั้นรู้ว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียวครับ
Q: อัตลักษณ์ทางเพศของอาฟงมีผลกับชีวิตยังไงบ้าง?
อาฟง: ผมเป็น LGBTQ+ ครับ รู้ตัวตั้งแต่เด็กเลยว่าผมชอบผู้ชาย แต่ผมไม่เคยรู้สึกอายหรือปิดบัง เพราะผมเชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อเป็นตัวเอง และถ้ารักอย่างจริงใจ มันก็ไม่ผิด ผมหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่กำลังสับสนกับตัวเองกล้าก้าวออกมาเช่นกัน
Q: ความฝันสูงสุดตอนนี้คืออะไร?
อาฟง: ผมอยากมีคอนเสิร์ตของตัวเองครับ ร้องเพลงที่ผมแต่งให้คนฟัง แล้วเขายิ้มตาม เป็นที่ที่คนเศร้ามาเจอเสียงของเราแล้วหายใจได้สบายขึ้น ผมว่าแค่นั้นก็คุ้มแล้วครับ
Q: ฝากอะไรถึงคนที่กำลังติดตามผลงานอาฟง
อาฟง: ขอบคุณทุกคนที่ให้พื้นที่เด็กคนหนึ่งได้ฝัน ผมไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ผมตั้งใจเสมอ และอยากให้ทุกคนรู้ว่า “เสียงของคุณก็มีความหมาย” เหมือนที่เสียงของผมกำลังได้ยินอยู่ตอนนี้ครับ
> “เราไม่จำเป็นต้องดังที่สุด แค่ได้เป็นตัวเองในที่ที่มีคนเข้าใจ นั่นก็พอแล้ว” – AHFONG




