เปิดประวัติ “ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์” อดีตผู้ประกาศข่าว กล้าท้าชน ส.ว.ดังคดีล่วงละเมิด
เปิดประวัติ “ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์” จากลีดเดอร์จุฬาฯ สู่ที่ปรึกษาวุฒิสภา หญิงแกร่งผู้กล้าลุกขึ้นสู้หลังถูก ส.ว. ล่วงละเมิดทางเพศ
จากเหตุการณ์อื้อฉาวที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ณ เวลานี้ ไม่มีชื่อใดที่ถูกกล่าวถึงมากไปกว่า “ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์” หญิงสาววัย 39 ปี ที่กล้าหาญลุกขึ้นมาประกาศเปิดโปงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รายหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเธออย่างรุนแรงภายในคอนโดมิเนียมหรูย่านบางซื่อ
เหตุการณ์นี้ได้สะเทือนทั้งวงการการเมืองไทย สังคมออนไลน์ และสื่อมวลชนต่างให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ไม่ใช่เพียงเพราะความร้ายแรงของข้อกล่าวหา แต่ยังเป็นเพราะ ประวัติและเส้นทางชีวิตของผู้เสียหายอย่าง “ณัฐสินี” นั้นไม่ธรรมดาเลย และนั่นทำให้ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอในฐานะ “ผู้หญิงที่กล้าทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง”
ประวัติส่วนตัวและการศึกษา: จากจามจุรีสู่วงการบันเทิง
ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อเดิมว่า “ขวัญ ณัฐสินี” สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะวิทยาศาสตร์ สาขาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ด้วยโปรไฟล์ที่โดดเด่น ทั้งหน้าตา ความสามารถ และบุคลิกที่มั่นใจ ทำให้เธอได้รับคัดเลือกเป็น ลีดเดอร์จุฬาฯ รุ่นที่ 67 ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ได้รับการยอมรับสูงในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัย
เส้นทางชีวิตของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่ในรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบไม่นาน ณัฐสินีได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง โดยเคยเข้าประกวด มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2007 และสามารถทะลุเข้าสู่รอบ 6 คนสุดท้ายได้สำเร็จ
นอกจากนั้น เธอยังเคยมีผลงานในวงการบันเทิง อาทิ การเป็นนางแบบ, ถ่ายโฆษณา และปรากฏตัวในภาพยนตร์ไทยเรื่อง “The Detective” เมื่อปี 2007 ซึ่งยิ่งตอกย้ำความสามารถรอบด้านของเธอ
เส้นทางสู่วงการข่าวและบทบาทใหม่ในวุฒิสภา
หลังจากเว้นช่วงจากวงการบันเทิง ณัฐสินีได้เปลี่ยนแปลงเส้นทางอาชีพอีกครั้ง โดยหันมาทำงานด้านข่าวสารมวลชน และกลายเป็น ผู้ประกาศข่าวกีฬา ทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี ภายใต้ชื่อ “Kwan Natthasinee” ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในหมู่คนดูมากขึ้น ด้วยสไตล์การนำเสนอข่าวที่มั่นใจ ทันสมัย และเข้าถึงง่าย
ต่อมาเธอได้เข้าสู่แวดวงการเมือง โดยรับตำแหน่ง ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการศึกษานโยบายและติดตามเสนอกฎหมาย ของวุฒิสภา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตของเธอ การได้รับบทบาทในหน่วยงานระดับสูงเช่นนี้ไม่เพียงแสดงถึงความสามารถ แต่ยังสะท้อนถึงความไว้วางใจในศักยภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่เติบโตมาจากทั้งโลกบันเทิงและวงการข่าว
จากความไว้ใจสู่การละเมิด: คดีฉาวสะเทือนวุฒิสภา
ความสัมพันธ์ระหว่าง ณัฐสินี และ ส.ว. รายหนึ่ง เริ่มต้นจากการรู้จักกันในแวดวงงาน เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองได้มีการติดต่อพูดคุยในลักษณะเป็นทางการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวใด ๆ
แต่เหตุการณ์ที่พลิกชีวิตเธอกลับเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเกิดของ ส.ว. รายดังกล่าว เมื่อเธอส่งข้อความอวยพรวันเกิด และได้รับการชักชวนให้ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ย่านบรรทัดทอง หลังจบมื้ออาหาร ส.ว. ได้อาสาขับรถไปส่งเธอที่บ้าน แต่เมื่อถึงหน้าบ้าน เธอกลับถูกดึงตัวกลับเข้ารถอย่างไม่ทันตั้งตัว
จากคำให้การของผู้เสียหาย ส.ว. รายนี้พยายามขอมีเพศสัมพันธ์ และเมื่อเธอปฏิเสธ ก็พาเธอไปยังคอนโดของตนในย่านบางซื่อ พร้อมใช้กำลังพาขึ้นห้อง โดยเธอเกิดอาการแพนิคและหมดแรงขัดขืน
ในห้องพัก ส.ว. ได้ลวนลามเธอโดยการจับหน้าอก เลียใบหู และใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ รวมทั้ง พยายามบังคับให้เธอใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ แต่ผู้เสียหายได้ขู่กลับว่าจะกัดและร้องไห้ขอให้หยุดการกระทำทั้งหมด ซึ่งในที่สุดเขาก็ยอม และพาเธอกลับไปส่งบ้าน
โพสต์ประกาศนัดสื่อ เปิดโปง-ยื่นร้องจริยธรรม
หลังเหตุการณ์ผ่านไปหลายวัน ณัฐสินี ได้ตัดสินใจลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของตนเอง ด้วยการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.เตาปูน และโพสต์ข้อความเชิญชวนสื่อมวลชนผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว ให้ร่วมทำข่าวการแถลงเปิดใจ
ข้อความบางส่วนระบุว่า:
“ขออนุญาตเชิญ และขอส่งข่าวให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคารพรักทุกท่านนะคะ #รักตัวเองให้มากๆ #ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ #เอาชนะความกลัวให้ได้”
เธอนัดหมายสื่อมวลชนในวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ โรงอาหารรัฐสภา (ฝั่ง ส.ส.) เพื่อให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจบการแถลงข่าว ณัฐสินีจะเดินทางพร้อมทนายความเพื่อ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการลงโทษทางวินัยกับ ส.ว. รายที่ถูกกล่าวหา
แรงสนับสนุนจากสังคม – จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงกรณีของบุคคลหนึ่ง แต่กำลังกลายเป็น แรงกระเพื่อมที่เขย่าความเชื่อมั่นต่อระบบการเมือง สังคมไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ต่างออกมาแสดงความเห็นและส่งกำลังใจให้กับเธอ เพราะการลุกขึ้นมาเปิดเผยเรื่องราวเช่นนี้ ย่อมต้องใช้ความกล้าและความเข้มแข็งอย่างมหาศาล
คำถามสำคัญในตอนนี้คือ วุฒิสภาจะมีท่าทีอย่างไรต่อกรณีนี้? จะตรวจสอบอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมาหรือไม่? หรือสุดท้ายเรื่องนี้จะถูกปล่อยให้เงียบหายตามครรลองเดิม ๆ ของการเมืองไทย?
สรุป
“ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์” คือภาพแทนของผู้หญิงไทยยุคใหม่ที่กล้าทวงคืนศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้การล่วงละเมิดทางเพศถูกซุกไว้ใต้พรมอีกต่อไป เธอไม่เพียงแต่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ยังอาจเป็น “เสียง” ให้กับผู้หญิงอีกนับพันที่เคยเผชิญชะตาเดียวกัน

















