แฉอีกระลอก! เจ้าอาวาสเมืองคอน โดนกล่าวหาพลอดรักสีกา
แฉสนั่น! ปมเจ้าอาวาสวัดดังเมืองคอนกับภาพหลุดสีกา คกก.สรุปไม่ปาราชิกแต่ต้องออกจากตำแหน่ง – ด้านชาวบ้านสวนกลับ “จัดฉาก-แบล็กเมลคนแก่ 79 พรรษา”
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงในวงกว้างขณะนี้ สำหรับกรณีที่มี หญิงสาวรายหนึ่งร้องเรียนผ่านเพจดัง “พี่หลวงย้อย มาแล้ว” กล่าวหาเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสีกา พร้อมแนบหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่มีลักษณะชวนให้เข้าใจว่าเป็นการพลอดรักกัน
แม้ทาง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะออกมาระบุว่าเหตุการณ์ไม่ถึงขั้น “ปาราชิก” แต่ก็มีมติให้ เจ้าอาวาสต้องพ้นจากตำแหน่งและหาวัดพำนักใหม่ ขณะที่ ชาวบ้านจำนวนมากออกมาปกป้องเจ้าอาวาส พร้อมเปิดเผยเบื้องหลังสุดอึ้งว่าอาจเป็น “การจัดฉากแบล็กเมลเพื่อเรียกเงิน” มากกว่าเป็นเรื่องผิดศีล
จุดเริ่มต้นของดราม่า: ภาพหลุดเจ้าอาวาสกับหญิงสาวปริศนา
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เพจ “พี่หลวงย้อย มาแล้ว” ซึ่งเป็นเพจที่เปิดรับข้อมูลร้องเรียนจากประชาชน ได้โพสต์เรื่องราวของหญิงรายหนึ่งที่ระบุว่า เธอมีภาพหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างเจ้าอาวาสวัดใน จ.นครศรีธรรมราช กับสีกา ซึ่งต่อมาส่งผลให้เรื่องดังกล่าวถูกส่งต่ออย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ และกลายเป็นประเด็นสังคมในทันที
เจ้าอาวาสชี้แจงผ่านกรรมการสอบสวน: “ถูกจัดฉาก-แบล็กเมล”
ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข่าว เจ้าอาวาสวัดที่ถูกกล่าวหาได้เดินทางมาชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวน โดยอธิบายว่าเหตุการณ์ในภาพเป็นการจัดฉากโดยหญิงสาวสองคนที่ต้องการเรียกเงินจากตน
เจ้าอาวาสอ้างว่า ในวันเกิดเหตุ เด็กสาวรายหนึ่งได้ ขอเงิน 500 บาท พร้อมกับพยายามล้วงกระเป๋า แต่ไม่ได้รับเงิน และจากนั้นก็ ถ่ายภาพเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการข่มขู่ และ พยายามโทรศัพท์ขอเงินอย่างต่อเนื่อง
แม้เจ้าอาวาสจะยืนยันว่า ไม่เคยให้เงินแม้แต่บาทเดียวตลอด 4 ปี แต่ในภายหลังหญิงสาวรายดังกล่าวก็กลับมา เรียกร้องเงินจำนวน 5,000 บาท โดยขู่จะปล่อยภาพให้เป็นข่าว ซึ่งเจ้าอาวาสปฏิเสธที่จะให้เงิน จึงนำไปสู่การร้องเรียนผ่านเพจดังกล่าว
สาวผู้ร้องเรียนยอมรับ “เคยรับเงินเดือนละ 5,000 บาทจากเจ้าอาวาสนานหลายปี”
ในเวลาต่อมา วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 หญิงสาวผู้ร้องเรียน ซึ่งใช้ชื่อสมมติว่า น.ส.กิ่ง อายุ 27 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พระครูซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวน โดยยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยรับเงินจากเจ้าอาวาสเป็นรายเดือน เดือนละ 5,000 บาท ตั้งแต่ปี 2564 รวมยอดกว่า 200,000 บาท
เธอยืนยันว่า รับเงินในฐานะเป็น “ลูกบุญธรรม” ไม่ใช่เงินที่ได้จากการแบล็กเมลหรือคลิปหลุดแต่อย่างใด พร้อมทั้งระบุว่า เหตุที่นำภาพมาเปิดเผยในช่วงนี้ เพราะเจ้าอาวาสไม่ได้ให้เงินอีกแล้ว และต้องการให้คนในศาสนา “ไม่เป็นมารศาสนา”
คณะกรรมการสรุป: ไม่ถึงขั้น “ปาราชิก” แต่พ้นจากตำแหน่ง
หลังจากการไต่สวนและรวบรวมข้อมูล คณะกรรมการได้มีมติว่า การกระทำของเจ้าอาวาสไม่เข้าข่ายความผิดถึงขั้นปาราชิก เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวจริง และภาพที่มีถูกจัดฉากโดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า
แต่เพื่อความเหมาะสมและเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในอนาคต จึงมีมติให้เจ้าอาวาสพ้นจากตำแหน่งและหาวัดพำนักใหม่ นอกพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนา
เปิดเบื้องหลังสุดอึ้ง! แผนจัดฉากจาก “ความขัดแย้งในครอบครัว”
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการคือ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องเรียน (น.ส.กิ่ง) และหญิงสาวในภาพ (น.ส.ทิว) ซึ่งเป็น ลูกพี่ลูกน้องกัน แต่กลับ มีความบาดหมางส่วนตัว และไม่คุยกันมานานหลายปี โดย น.ส.กิ่ง เผยว่า เคยเห็นน.ส.ทิว เข้าออกวัดบ่อยจึงตามไปดู และ แอบถ่ายภาพที่ดูคล้ายกับการนอนพาดขาเจ้าอาวาส
เธอระบุว่าไม่ได้เห็นการกระทำล่วงเกินทางเพศโดยตรง เพียงแต่ตีความจากภาพที่เห็น ซึ่งต่อมา เจ้าอาวาสมีท่าทีตกใจและพยายามต่อรองด้วยเงิน เพื่อไม่ให้เผยแพร่ภาพดังกล่าว
ชาวบ้านในพื้นที่สวนกลับเสียงดัง “จัดฉากแน่นอน – เจ้าอาวาสอาพาธ อายุ 79 พรรษา จะทำอะไรไหว?”
ในขณะที่ข่าวลือกำลังแพร่สะพัด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดใน อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นวัดที่ตกเป็นข่าว โดยพบว่า ชาวบ้านจำนวนมากยังคงเดินทางมาทำบุญกับเจ้าอาวาสตามปกติ
ชาวบ้านหลายคนระบุว่า ไม่เชื่อข่าวดังกล่าว เพราะเจ้าอาวาสเป็นผู้เคร่งครัดทางศาสนา อายุถึง 79 ปีแล้ว และยังมีอาการอาพาธอยู่ จึงไม่มีทางที่จะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสีกาได้ พร้อมระบุว่า หากเป็นเรื่องจริง ชาวบ้านคงรวมตัวกันขับไล่ไปแล้ว แต่ ความจริงคือไม่มีใครอยากให้เจ้าอาวาสย้ายออกไปเลย
ประเด็นทางกฎหมายที่ตามมา: ข่มขู่-กรรโชกทรัพย์?
หนึ่งในข้อสรุปสำคัญจากคณะกรรมการสอบสวนคือ การเสนอให้เจ้าอาวาสแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงสาวรายดังกล่าวในข้อหากรรโชกทรัพย์ และข่มขู่ทำให้เสียชื่อเสียง โดยทางกฎหมายไทยถือว่าการขู่กรรโชกเพื่อเรียกรับเงิน ถือเป็นความผิดอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งในกรณีนี้ หากพบว่ามีการรับเงินต่อเนื่องหลายเดือน แลกกับการไม่เปิดเผยภาพ อาจเข้าองค์ประกอบความผิดดังกล่าว
สรุปภาพรวมดราม่าเจ้าอาวาสเมืองคอน:
ประเด็น รายละเอียด
เจ้าอาวาสถูกกล่าวหา มีภาพอยู่ใกล้ชิดสีกา ถูกระบุว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม
คำชี้แจง ถูกจัดฉาก-ขอเงินไม่ให้เลยถูกข่มขู่ด้วยภาพ
ผลสอบ ไม่ถึงขั้นปาราชิก แต่ต้องพ้นตำแหน่งเจ้าอาวาส
ชาวบ้าน ยืนยันเจ้าอาวาสเป็นพระดี อยู่มาเกือบ 60 ปี ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย
ข้อกฎหมาย อาจเข้าข่ายความผิดฐานกรรโชกทรัพย์และข่มขู่
บทเรียนจากคดีนี้: เมื่อภาพถ่ายถูกใช้เป็นอาวุธแบล็กเมลในวงการสงฆ์
กรณีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญที่สังคมควรตระหนักถึง โดยเฉพาะในเรื่อง การใช้เทคโนโลยี เช่น ภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอในการแบล็กเมล หรือใส่ร้ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว อาจทำลายชื่อเสียงของบุคคลผู้บริสุทธิ์โดยไม่เป็นธรรม
ในขณะเดียวกัน พระภิกษุก็ต้องรักษา วินัยสงฆ์ และหลีกเลี่ยงสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดข้อครหา เพราะ แม้ไม่มีมูลความผิดทางกฎหมายก็อาจส่งผลเสียหายทางศีลธรรมและศรัทธาสาธารณะ
หากคุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ เห็นด้วยหรือไม่กับมติของคณะกรรมการ และคิดว่าฝ่ายใดควรได้รับความเป็นธรรมมากกว่ากัน? แสดงความคิดเห็นด้านล่างและร่วมแชร์เพื่อสะท้อนมุมมองของคุณ





















