ยาคุมสำหรับผู้ชาย!! ฉีดครั้งเดียว ป้องกันได้ 2 ปี จริงหรือหลอก?
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เวลาพูดถึงการคุมกำเนิด คนมักนึกถึงผู้หญิงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการกินยาคุม ฉีดยาคุม ฝังยาคุม หรือใส่ห่วงคุมกำเนิด ในขณะที่ผู้ชายมีตัวเลือกจำกัดอยู่แค่ถุงยางอนามัยหรือการทำหมัน ซึ่งทั้งสองวิธีก็มีข้อจำกัด ถุงยางอาจขาดหรือหลุดได้ และการทำหมันก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างถาวรและหลายคนไม่กล้าทำ เพราะยังอยากมีลูกในอนาคต
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการแพทย์และเทคโนโลยีเริ่มหันมาสนใจการพัฒนาวิธีคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายมากขึ้น โดยเฉพาะแนวคิด “ยาคุมสำหรับผู้ชาย” ที่หลายคนเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้แนวคิดนั้นกำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างความฮือฮาที่สุดคือ “ยาคุมแบบฉีดสำหรับผู้ชาย” ที่ชื่อว่า ADAM ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Contraline จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ADAM ไม่ใช่ยาฉีดในความหมายของการฉีดเข้ากล้ามหรือเข้ากระแสเลือดเหมือนยาคุมผู้หญิง แต่เป็นเจลพิเศษที่ฉีดเข้าไปในท่อนำอสุจิ หรือที่เรียกว่า Vas deferens ซึ่งเป็นท่อที่ทำหน้าที่ลำเลียงอสุจิจากอัณฑะออกไปสู่ท่อปัสสาวะเพื่อผสมกับน้ำอสุจิ การฉีดเจลนี้เข้าไป จะทำให้ท่อนำอสุจิถูกอุดไว้ อสุจิจึงไม่สามารถออกมาได้แม้จะมีการหลั่งน้ำอสุจิ ทำให้ไม่สามารถทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ได้
สิ่งที่ทำให้ ADAM น่าสนใจมาก คือเป็นเทคโนโลยี Non-hormonal หรือไม่ใช้ฮอร์โมน ซึ่งแตกต่างจากยาคุมสำหรับผู้หญิงที่มักจะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือโปรเจสเตอโรน การไม่ใช้ฮอร์โมน ทำให้ผู้ชายไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงอย่างความต้องการทางเพศลดลง อารมณ์แปรปรวน หรือปัญหาสุขภาพระยะยาวที่มักเกิดกับยาฮอร์โมน
การทดสอบในห้องทดลองและกับอาสาสมัครผู้ชายในสหรัฐฯ พบว่าหลังจากฉีด ADAM เพียง 30 วัน ปริมาณอสุจิในน้ำอสุจิลดลงถึงเกือบ 100% และหลังผ่านไป 24 เดือนยังไม่พบอสุจิในน้ำอสุจิเลย ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพการคุมกำเนิดที่สูงมากใกล้เคียงกับการทำหมัน แต่นักวิจัยระบุว่า ADAM สามารถ “ย้อนกลับได้” หากผู้ชายต้องการกลับมามีบุตร โดยแพทย์สามารถทำหัตถการเพื่อนำเจลออกจากท่อนำอสุจิได้ ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ ADAM แตกต่างจากการทำหมันถาวร
ข้อดีอีกอย่างที่หลายคนให้ความสนใจ คือการฉีด ADAM นั้นไม่จำเป็นต้องทำซ้ำทุกเดือนหรือทุกปี เพราะจากการทดลอง แค่ฉีดครั้งเดียวอาจสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานถึง 2 ปีหรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งสะดวกกว่าการใช้ถุงยางทุกครั้ง หรือการกินยาคุมที่ต้องกินทุกวันอย่างมาก นอกจากนี้ การไม่ต้องใช้ฮอร์โมนยังช่วยลดความเสี่ยงผลข้างเคียงที่อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวของผู้ชายได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ ADAM จะดูเป็นความหวังใหม่ แต่งานวิจัยยังอยู่ในขั้นการทดลองและต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2-4 ปีกว่าจะพร้อมวางขายจริงในตลาด เพราะนักวิจัยยังต้องพิสูจน์เรื่องความปลอดภัยระยะยาว ความสามารถในการมีลูกได้จริงหลังนำเจลออก และผลกระทบใดๆ ต่ออวัยวะสืบพันธุ์หรือสุขภาพโดยรวมของผู้ชาย ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าช่วงแรกอาจมีราคาสูงกว่าวิธีคุมกำเนิดทั่วไป เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำหัตถการ
ถึงอย่างนั้น กระแสตอบรับต่อแนวคิดยาคุมสำหรับผู้ชายเป็นไปในเชิงบวกมาก เพราะผู้ชายหลายคนรู้สึกว่าตนเองควรมีบทบาทในการช่วยคุมกำเนิด ไม่อยากให้ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายรับภาระหรือเสี่ยงผลข้างเคียงแต่เพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งยังให้ความรู้สึก “แฟร์” มากขึ้นในความสัมพันธ์ และช่วยให้คู่รักวางแผนครอบครัวได้อย่างมั่นใจและเท่าเทียม
ในอนาคต หาก ADAM หรือยาคุมแบบฉีดสำหรับผู้ชายรุ่นอื่นๆ ผ่านการทดสอบสำเร็จและได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของแต่ละประเทศ มันอาจกลายเป็นนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการคุมกำเนิดอย่างแท้จริง และเปลี่ยนภาพจำที่ว่า “การคุมกำเนิดคือเรื่องของผู้หญิง” ไปตลอดกาล
แม้วันนี้จะยังต้องรออีกสักพัก แต่ยาคุมแบบฉีดสำหรับผู้ชายก็เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าที่แสดงให้เห็นว่า โลกของการวางแผนครอบครัวกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ “แบ่งเบาภาระ” ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงมากขึ้น และในอนาคตเราอาจได้เห็นผู้ชายเข้าคลินิกเพื่อ “ฉีดยาคุม” อย่างเป็นเรื่องปกติก็เป็นไปได้
















