เหยื่อรวมตัว! แจ้งจับ “ไรเดอร์ขุนแผน”ถ่ายคลิปแบล็กเมล
แฉพฤติกรรม “ไรเดอร์ขุนแผน” เหยื่อรวมตัวแจ้งจับ 5 ราย ถูกหลอกมีสัมพันธ์ ถ่ายคลิปแบล็กเมล-ทำร้ายร่างกาย
กลายเป็นประเด็นร้อนที่โลกโซเชียลจับตามองอย่างหนัก เมื่อค่ำคืนวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ได้เกิดเหตุการณ์หญิงสาวมากกว่า 5 ราย รวมตัวกันเข้าจับกุมชายหนุ่มรายหนึ่งที่ถูกขนานนามในสื่อว่า “ไรเดอร์ขุนแผน” หลังจากถูกร้องเรียนว่าหลอกมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวหลายราย ก่อนจะแอบถ่ายคลิปลับไว้ข่มขู่ และมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายซ้ำซาก จนทำให้หลายคนต้องลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตนเอง และรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
เหตุการณ์เกิดขึ้นกลางเมืองพัทยา ตำรวจเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์
เหตุเกิดหน้าร้านเช่ารถแห่งหนึ่ง ย่านพัทยากลาง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อกลุ่มหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อรวมตัวกันพร้อมหลักฐานและเข้าควบคุมตัว “นายบูม (นามสมมุติ)” อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร และเคยมีความสัมพันธ์กับผู้เสียหายหลายราย โดยพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหานั้นเกี่ยวข้องกับการ ข่มขู่ด้วยคลิปวิดีโอลับ ทำร้ายร่างกาย และก่อเหตุในลักษณะซ้ำซาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา รีบรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที หลังได้รับแจ้งเหตุจากประชาชน เมื่อไปถึงพบกลุ่มชายหญิงราว 10 คน รวมถึงผู้เสียหายที่กำลังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้
เสียงสะท้อนจากผู้เสียหาย: เริ่มจากแอปหาคู่ สู่ฝันร้ายที่ไม่มีวันลืม
หนึ่งในผู้เสียหายคือ นางสาวอร (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี เปิดเผยว่าเธอรู้จักกับนายบูมผ่านแอปหาคู่ชื่อดัง และเริ่มสานสัมพันธ์กันทั้งในแอปและผ่านเฟซบุ๊ก โดยฝ่ายชายใช้ภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือและเข้าหาเธอด้วยถ้อยคำอ่อนโยน แต่หลังจากตกลงคบหากันได้ไม่นาน ก็เริ่มแสดงพฤติกรรมรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ และที่ร้ายแรงที่สุดคือการ แอบถ่ายคลิปลับ แล้วข่มขู่ว่าหากเธอไม่ทำตามคำสั่ง จะนำคลิปไปเผยแพร่บนโซเชียล
ผู้เสียหายเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เธอรู้สึกกลัวและอับอายอย่างมาก จึงไม่กล้าบอกใคร กระทั่งพบว่าเธอไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่โดนกระทำเช่นนี้
หญิงสาวอีก 4 รายทยอยออกมาเปิดเผยความจริง
หลังจากมีการโพสต์เตือนภัยในเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้เสียหาย ทำให้หญิงสาวอีกหลายรายเริ่มกล้าออกมาแสดงตัว หนึ่งในนั้นคือ น.ส.จิ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ซึ่งเคยแจ้งความมาแล้วถึง 3 ครั้งในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานทั้งภาพการพ่นสีใส่รถจักรยานยนต์ การถูกข่มขู่ด้วยข้อความ และคลิปเสียง รวมถึงหลักฐานการถูกทำร้ายร่างกาย
น.ส.จิ เปิดเผยว่าเธอเคยพยายามตัดความสัมพันธ์กับนายบูม แต่กลับถูกตามรังควานทุกช่องทาง และต้องเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์หนีถึง 2 ครั้ง ยังไม่รวมการถูกข่มขู่ว่าจะส่งคลิปไปให้ญาติพี่น้องของเธอดูหากไม่ยอมกลับมาคบกัน
โซเชียลเดือด! คอมเมนต์ถล่มกว่า 1,000 ข้อความ
หลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในเพจเตือนภัยยอดนิยม ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งแสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของชายผู้ถูกกล่าวหา โดยมีการใช้คำว่า “ขุนแผนสายแบล็กเมล”, “ไรเดอร์ลวงโลก”, และ “ภัยใกล้ตัวที่ต้องระวัง” ติดเทรนด์ในกลุ่มเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ในคืนเดียวกัน
นายบูม ยอมรับบางข้อกล่าวหา แต่ปฏิเสธส่วนที่สำคัญ
ด้าน นายบูม (นามสมมุติ) ผู้ถูกกล่าวหา ให้การในเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองรู้จักผู้หญิงหลายคนผ่านแอปหาคู่จริง และยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งกับหลายคน แต่ปฏิเสธว่าไม่เคย แอบถ่ายคลิปวิดีโอ หรือ ข่มขู่ ใครโดยไม่มีการยินยอม เขายืนยันว่า ทุกความสัมพันธ์เป็นไปด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย
ส่วนในกรณีที่มีการทำลายทรัพย์สิน เช่น การพ่นสีใส่รถจักรยานยนต์ หรือข้อความข่มขู่ เขาอ้างว่า “อาจเป็นความเข้าใจผิด หรือมีผู้อื่นกระทำเพื่อกลั่นแกล้ง” และยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกาย
ตำรวจเตรียมเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ร.ต.ท.อนิรุจน์ เจ๊ะเหราะ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พัทยา ได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดในเบื้องต้น และได้ทำการจัดทำประวัติผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว พร้อมกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องแยกย้ายกันกลับเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุวุ่นวาย
เบื้องต้นตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งจากโซเชียลมีเดีย แชต บันทึกวิดีโอ และคำให้การของพยาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป หากพบว่ามีความผิดจริง จะมีการแจ้งข้อหาอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
บทเรียนสำคัญ: อันตรายจากแอปหาคู่และภัยไซเบอร์
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายที่แฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะ แอปพลิเคชันหาคู่ ที่แม้จะให้โอกาสผู้คนได้พบปะกันมากขึ้น แต่ก็กลายเป็นเครื่องมือให้มิจฉาชีพใช้หลอกลวงผู้บริสุทธิ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมไซเบอร์แนะนำว่า:
ควรหลีกเลี่ยงการแชร์ภาพหรือวิดีโอส่วนตัวที่มีความเสี่ยง
หากพบพฤติกรรมน่าสงสัย ควรบันทึกหลักฐานและแจ้งความทันที
อย่าปล่อยให้ความกลัวหรือความอับอายมาหยุดการเรียกร้องความยุติธรรม
สรุป: ไรเดอร์ขุนแผนถูกเปิดโปง เหยื่อรวมตัวขอความเป็นธรรม
คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่างของภัยจากความสัมพันธ์ออนไลน์ ซึ่งเริ่มต้นจากการพูดคุยในแอปหาคู่และจบลงด้วยการข่มขู่คุกคาม ชาวเน็ตต่างจับตาว่าทางตำรวจจะสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้หรือไม่ และจะสามารถปกป้องเหยื่อจากการถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและคลิปลับได้อย่างไร
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ความกล้าหาญของผู้หญิง 5 คนที่กล้าออกมาเปิดเผยเรื่องราว คือจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้สังคมตระหนักและหาทางป้องกันภัยในอนาคต
หากคุณเคยเผชิญเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน อย่าเก็บไว้คนเดียว ทุกเสียงของคุณมีค่า และอาจช่วยป้องกันไม่ให้ใครต้องเจ็บซ้ำอีก






















