ขับไม่ถึง 10 นาที! เจอผู้โดยสารขอ “สไลด์หนอน” กลางเบาะหลัง
เตือนภัยคนขับรถยนต์ผ่านแอปฯดัง! เหตุการณ์จริงกลางทองหล่อ ผู้โดยสารตีสองสุดหลอน ทำพฤติกรรมอุจาดบนเบาะหลัง - จบที่โรงพักพร้อมภาพหลักฐาน
ในยุคที่การขับรถผ่านแอปพลิเคชันกลายเป็นอาชีพเสริมและรายได้หลักของคนไทยจำนวนมาก การรับผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทางไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติในทุกวัน... แต่ใครจะคิดว่า การขับรถตอนตีสอง จะกลายเป็น เหตุการณ์สุดหลอน ที่คนขับต้องจดจำไปตลอดชีวิต
ล่าสุดในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อดัง “คนขับ Bolt Thailand. (สำหรับไว้โชว์ยอดเท่านั้น)” ได้มีการแชร์เรื่องราวที่ทำให้คนขับทั้งหลายต้องหนาว ๆ ร้อน ๆ เพราะผู้โพสต์ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองอย่างตรงไปตรงมา โดยเล่าเหตุการณ์ที่เจอ ผู้โดยสารย่านทองหล่อ ที่มีพฤติกรรม ไม่เหมาะสมอย่างรุนแรง จนสุดท้ายต้องไปจบที่โรงพัก พร้อมภาพถ่ายหลักฐานชัดเจน
เหตุการณ์จริงจากคนขับ Bolt: “คิดว่าคงไม่กล้าหรอก ที่ไหนได้...”
โพสต์ต้นทางระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วง ตีสองกว่า ๆ โดยเขาเป็นคนขับรถยนต์ที่วิ่งรับงานผ่านแอปฯ Bolt ซึ่งขณะนั้นได้รับแจ้งเตือนว่ามีผู้โดยสารเรียกรถจาก Chow Cafe ย่านทองหล่อ ไปยัง ลาดพร้าว 27
ในตอนแรก เมื่อกดรับงานก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ที่แปลกก็คือ แชตจากผู้โดยสารส่งเข้ามาทันทีหลังจากกดยืนยัน โดยเนื้อหาในแชตนั้น...เกินกว่าที่จะคาดคิด
“ขอชักว่าวเบาะหลัง”
คำขออันไม่เหมาะสมดังกล่าว ทำให้คนขับถึงกับงง แต่ด้วยสัญชาตญาณและความคาดหวังว่า “คงไม่กล้าทำจริง” จึงเลือกที่จะไม่ตอบข้อความนั้น และเดินหน้ารับงานต่อไป
เพียง 10 นาที แต่กลายเป็นฝันร้ายบนเส้นทางจากทองหล่อ
คนขับเล่าว่าเส้นทางจากทองหล่อไปลาดพร้าว 27 ใช้เวลาราว ๆ 10 นาที จึงคิดว่าไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้นมาก และผู้โดยสารคงจะอายเกินกว่าจะทำสิ่งไม่เหมาะสมเช่นในแชต แต่...สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงกันข้าม
“พอถึงเส้นผังเมืองหันไปดู แม่งกำลังสาวเลย...เลยถาม เฮ้ยมึงทำอะไร!? มันรีบเก็บหนอน!”
คำว่า “สาว” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพศหญิง แต่หมายถึง พฤติกรรมช่วยตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นบนรถขณะกำลังขับเคลื่อนไปตามถนนอย่างเงียบ ๆ กลางดึก กลายเป็นฝันร้ายของผู้ขับรถที่ไม่เคยคิดว่าต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์ลามกและละเมิดขนาดนี้ในชีวิตจริง
จากคำขอที่ควรถูกปฏิเสธ สู่การดำเนินคดีจริง
เมื่อเห็นว่าผู้โดยสารกระทำจริง คนขับไม่รอช้า รีบพาผู้โดยสารไปส่งที่ สถานีตำรวจ และได้ แจ้งความพร้อมนำภาพหลักฐาน ที่ถ่ายไว้ในรถเพื่อยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยหวังให้ผู้โดยสารรายนี้ มีประวัติติดตัว เพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำซ้อนกับผู้ขับคนอื่นอีก
ในโพสต์ยังกล่าวต่ออย่างเผ็ดร้อนว่า
“มันเบลมกลับมาด้วยว่า ก็รับมันขึ้นมาเองทั้งที่มันบอกแล้ว... พอเหอะ Pride Month ผ่านไปแล้ว แต่ความ...ยังค้างอยู่!”
ถ้อยคำแรงสะท้อนความรู้สึกอัดอั้นของคนขับที่ไม่ได้รับการเคารพจากผู้โดยสารแม้แต่น้อย และยังถูกพยายามโยนความผิดกลับมาอีกด้วย
สังคมออนไลน์แห่แชร์ เตือนภัยให้คนขับรถทุกแอปฯ ตั้งสติ!
เมื่อโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนกลุ่มเฟซบุ๊กและโลกโซเชียล สังคมออนไลน์ต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด ส่วนใหญ่ให้กำลังใจผู้ขับที่กล้าแจ้งความ และไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้เงียบหาย เพราะหากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมลามกเช่นนี้ก็อาจไปก่อเหตุซ้ำกับผู้ขับคนอื่น ๆ ได้อีก
“เจอแบบนี้น่ากลัวจริง ๆ”
“ขอชื่นชมคนขับที่ไม่ยอมเงียบ”
“อย่าเพิ่งรับใครตอนดึก ๆ ถ้าไม่มั่นใจ”
“Bolt ต้องมีกลไกให้แจ้งพฤติกรรมผู้โดยสารได้ด้วย”
หลายคนยังเรียกร้องให้แอปฯ ที่ให้บริการเรียกรถ เช่น Bolt, Grab, inDrive ฯลฯ มีระบบ แจ้งเตือนผู้โดยสารพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือ Blacklist เพื่อคัดกรองความปลอดภัยให้กับผู้ขับในอนาคต
อุทาหรณ์เตือนใจ: ความปลอดภัยของคนขับ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
เหตุการณ์นี้เป็น ตัวอย่างชัดเจนของความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้แม้ขณะทำงานธรรมดา ๆ ในชีวิตประจำวันของคนขับแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งคนขับมักจะไม่มีโอกาสได้คัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า และการขอรายละเอียดผ่านแชตก็ไม่ใช่การันตีว่าจะปลอดภัย
บางคนอาจคิดว่า “ก็รับเองทั้งที่มีแชตเตือนแล้ว” แต่ความจริงคือ คนขับหลายคนต้องวิ่งงานเพื่อเงินเลี้ยงครอบครัว และต้องรับทุกงานที่เข้ามา ไม่สามารถเลือกได้มากนัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่งานหายาก
ข้อเสนอเพื่อความปลอดภัย:
เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต นี่คือข้อเสนอจากผู้ใช้งานในโซเชียลที่เห็นว่า แพลตฟอร์มเรียกรถควรมีระบบดูแลคนขับมากกว่านี้
1. ระบบแจ้งเตือนพฤติกรรมผู้โดยสารแบบละเอียด เช่น คำพูดลามก พฤติกรรมไม่เหมาะสม
2. ระบบ Blacklist สำหรับผู้โดยสารที่ถูกแจ้งซ้ำ ๆ จากคนขับหลายคน
3. ฟีเจอร์ยืนยันตัวตนผู้โดยสาร ด้วยบัตรประชาชนหรือใบหน้า
4. การบันทึกเสียง/ภาพในรถ ผ่านกล้องติดรถ (โดยแจ้งล่วงหน้า)
5. สายด่วนฉุกเฉินจากแอปฯ สำหรับคนขับโดยเฉพาะ
สรุป: อาชีพคนขับแอปฯ ต้องได้รับความปลอดภัยเท่ากันกับผู้โดยสาร
การขับรถผ่านแอปฯ ไม่ใช่อาชีพที่ปลอดภัยเสมอไป คนขับต้องเจอกับสถานการณ์คาดไม่ถึงแทบทุกวัน และในขณะที่หลายแพลตฟอร์มให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสาร แต่บางครั้ง คนขับกลับเป็นฝ่ายที่ถูกละเลย
เหตุการณ์ของผู้ขับ Bolt รายนี้ควรเป็น อุทาหรณ์ สำหรับทุกคนในวงการ ไม่ว่าจะเป็นคนขับ ผู้โดยสาร หรือผู้บริหารแพลตฟอร์ม เพื่อร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมในการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย
หากคุณเป็นคนขับแอปฯ หรือเคยเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน อย่าลังเลที่จะแชร์ประสบการณ์ของคุณไว้ในคอมเมนต์ เพื่อร่วมเป็นพลังในการเรียกร้องให้ทุกแพลตฟอร์มคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับให้มากกว่านี้






















