พระ-สีกา แชตหวานเกินห้ามใจ! คำพูดชวนใจสั่น ส่งจูบผ่านมือถือกลางจีวร
สะเทือนวงการสงฆ์! พระปริยัติธาดา ยอมสึกแล้ว หลังมีข่าวสัมพันธ์ฉาว "สีกากอล์ฟ" - แชตหวาน เซลฟี่คาผ้าเหลือง
เมื่อความศรัทธาถูกสั่นคลอนจากพฤติกรรมของพระสงฆ์ผู้ดำรงสมณเพศด้วยความเคารพจากพุทธศาสนิกชน กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจนกลายเป็นข่าวฉาวสะเทือนวงการ ล่าสุดกรณีของ พระปริยัติธาดา (พระสมนึก ฐิตเมโธ ป.ธ.7.ตร.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีข่าวพัวพันความสัมพันธ์ลับกับหญิงสาวที่เรียกกันว่า “สีกากอล์ฟ” ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสื่อมวลชนและประชาชนทั่วประเทศ
หลังจากมีการเปิดเผยภาพแชตหวานและ เซลฟี่คาผ้าเหลือง ที่ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างพระสงฆ์รูปนี้กับหญิงสาว ล่าสุดมีรายงานว่า พระปริยัติธาดา ได้ลาสิกขาแล้วอย่างเป็นทางการ ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ท่ามกลางคำถามและความไม่พอใจจากสังคมต่อพฤติกรรมของพระในยุคปัจจุบัน
เปิดฉากข่าวฉาว: พระปริยัติธาดา กับสีกากอล์ฟ - แชตหวาน “ส่งจูบไปด้วย”
เรื่องราวเริ่มต้นจากการหลุดของแชตข้อความสนทนาระหว่าง พระปริยัติธาดา กับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า “สีกากอล์ฟ” โดยข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่า "ศีล" ที่พระภิกษุพึงมี
จากบทสนทนาในแชต มีการพิมพ์ข้อความหวานระหว่างกัน อาทิเช่น:
“คิดถึงนะคะพี่พระ”
“ส่งจูบไปด้วย”
“อย่าลืมคนที่รออยู่นะ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุดที่ทำให้สังคมตื่นตระหนกที่สุดคือ ภาพเซลฟี่ที่พระปริยัติธาดาส่งกลับ เป็นภาพของพระนั่งอยู่ในรถยนต์ สวมจีวรเต็มยศ พร้อมกับพิมพ์ข้อความกลับมาว่า "ส่งจูบไปด้วย" ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อสมณเพศและภาพลักษณ์ของสงฆ์ไทย
หายตัวจากวัดกัลยาณมิตร ก่อนโผล่สึกที่ระยอง
หลังจากภาพแชตและเรื่องราวความสัมพันธ์นี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ และกลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง พระปริยัติธาดา ได้หายตัวออกจากวัดกัลยาณมิตร โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และไม่มีผู้ใดสามารถติดต่อได้
ต่อมา มีรายงานว่า พระรูปดังกล่าวได้เดินทางไปยังวัดบ้านค่าย จังหวัดระยอง และได้ทำการ ลาสิกขาออกจากเพศบรรพชิต อย่างเป็นทางการ โดยเปลี่ยนจากผ้าเหลืองเป็นชุดขาว และจากนั้นก็หายตัวไปอีกครั้ง โดยไม่เปิดเผยจุดหมายปลายทาง
ชาวเน็ตวิพากษ์หนัก: “ผิดศีล - เสื่อมศรัทธา”
ทันทีที่ข่าวการสึกของพระปริยัติธาดาถูกเปิดเผยในวงกว้าง กระแสบนโลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มอย่าง X (Twitter), Facebook และ TikTok ต่างมีการแชร์ภาพแชตและข้อความเซลฟี่พร้อมติดแฮชแท็ก
#พระปริยัติธาดา #พระฉาว #สีกากอล์ฟ #เซลฟี่คาผ้าเหลือง #ข่าวพระมั่ว
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนต่างแสดงความผิดหวัง บางส่วนรู้สึกว่าการที่พระภิกษุซึ่งควรเป็นแบบอย่างทางธรรมกลับละเมิดศีลข้อสำคัญเช่นนี้ เป็นการ ทำลายความเชื่อมั่นต่อสถาบันพระพุทธศาสนา
หลายคนตั้งคำถามว่า การลาสิกขาโดยไม่ถูกลงโทษทางกฎหมาย หรือไม่มีการสืบสวนภายในทางสงฆ์ ถือเป็นเรื่องที่ปล่อยผ่านมากเกินไปหรือไม่ และมีการเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน
วัดกัลยาณมิตร: เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะคนเพียงหนึ่งรูป
วัดกัลยาณมิตร ถือเป็นวัดหลวงที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ มีพระเกจิอาจารย์และเจ้าอาวาสที่เคยเป็นผู้ใหญ่ในวงการสงฆ์มากมาย การที่พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสอย่าง พระปริยัติธาดา กลายเป็นข่าวฉาวเช่นนี้ นอกจากจะทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของคณะสงฆ์ในกรุงเทพมหานครอีกด้วย
พระอาวุโสรูปหนึ่งในวัดที่ไม่ประสงค์ออกนาม ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า
“อาตมารู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้กับคนใกล้ตัว คนที่มีการศึกษาสูงถึงปริญญาธรรมระดับ 7 กลับทำลายภาพพจน์สงฆ์ลงด้วยเรื่องแบบนี้”
บทเรียนสะท้อนสังคม: การละเมิดศีล ส่งผลไกลเกินกว่าแค่ตนเอง
กรณีของพระปริยัติธาดา เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างชัดเจนที่สะท้อนให้เห็นว่า การละเมิดศีล โดยเฉพาะศีลข้อปาฏิสัมภิทา (ห้ามมีเพศสัมพันธ์) นั้น ไม่ได้ส่งผลเฉพาะกับตนเอง แต่ยังส่งผลกระทบต่อศาสนา ต่อผู้ศรัทธา และต่อความรู้สึกของสังคมโดยรวม
เมื่อคนทั่วไปเริ่มรู้สึกว่า “พระก็ทำผิดได้” หรือ “พระยังแอบแชตหวานกับผู้หญิงได้เลย” จะกลายเป็น ชนวนบั่นทอนความศรัทธาในศาสนาอย่างเงียบ ๆ และอาจก่อให้เกิดการลดลงของการเข้าวัด ฟังธรรม หรือแม้แต่การทำบุญในระยะยาว
สรุป: ความสัมพันธ์ระหว่างพระสงฆ์กับสีกา ยังเป็นปัญหาที่ต้องจับตา
กรณีของ พระปริยัติธาดา กับสีกากอล์ฟ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้สังคมต้องตระหนักว่า ปัญหาพระมั่วสีกาไม่ได้เป็นเรื่องเล็กอีกต่อไป ยิ่งในยุคที่ทุกอย่างสามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้ผ่านโซเชียลมีเดีย ยิ่งต้องระวังพฤติกรรมและตรวจสอบกันให้รอบด้านมากยิ่งขึ้น
แม้พระปริยัติธาดาจะ สึกออกจากสมณเพศ แล้ว และจบเรื่องไปในทางรูปธรรม แต่อารมณ์ความรู้สึกของสังคมยังไม่จบ และยังมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระในวัดต่าง ๆ อย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
หากคุณมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ หรือมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา “พระมั่วสีกา” ที่ยังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย อย่าลืมร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณด้านล่าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยกันปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไปในสังคมไทย





















