ฝันร้ายที่กลายเป็นจริง หญิงสาวหนีสามีเจอ 4 ชายรุมโทรมซ้ำ ถูกรถไฟทับขาขาด
เรื่องราวอันน่าสะเทือนขวัญได้เกิดขึ้นที่รัฐหรยาณา ประเทศอินเดีย เมื่อหญิงสาววัย 35 ปี ต้องเผชิญกับโชคชะตาอันเลวร้ายที่เริ่มต้นจากปัญหาภายในครอบครัว และจบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่สถานีรถไฟ
หญิงสาวเล่าว่าเธอถูกสามีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง เพียงเพราะเธอปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากเธอเพิ่งสูญเสียลูกชายวัย 3 ขวบไปเมื่อเดือนก่อน ทำให้เธอมีภาวะทางจิตใจที่บอบช้ำและหวาดกลัวการใกล้ชิด สามีของเธอยังข่มขู่เธอด้วยคำพูดที่น่าสะพรึงกลัวว่า "ถ้าเธอไม่ยอมมีอะไรกับฉัน คนข้างนอกจะข่มขืนเธอ" คำขู่ที่ทำให้เธอตัดสินใจหอบข้าวของหนีออกจากบ้านในคืนนั้น
เธอเดินเท้ามาถึงสถานีรถไฟปานิพัต และได้พบกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าสามีของเธอส่งมาตามหา และจะพาเธอไปพักที่บ้าน "ภรรยา" ของเขา ชายคนนั้นชักชวนเธอเข้าไปในตู้รถไฟที่ว่างเปล่า โดยอ้างว่าสัมภาระของเขาอยู่ในนั้น แม้จะลังเล แต่ด้วยคำพูดปลอบโยนของชายคนนั้น เธอก็เดินตามเข้าไปโดยไม่รู้เลยว่ากำลังก้าวเข้าสู่กับดักมรณะ
ภายในตู้รถไฟ ชายแปลกหน้าพยายามข่มขืนเธอ เธอพยายามหนีแต่ถูกชาย 2-3 คนขวางทางไว้ สุดท้ายเธอถูกชาย 4 คนรุมข่มขืนอย่างทารุณ โดยไม่สนใจคำวิงวอนขอความเมตตาของเธอ
หลังจากกลุ่มชายผู้ก่อเหตุจากไป หญิงสาวก็ตกอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสและสับสน รายงานข่าวระบุว่าเธอติดอยู่ที่รางรถไฟและถูกรถไฟทับขาขาดได้รับบาดเจ็บสาหัส บางรายงานกล่าวว่าเธอสับสนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเหยียบตกคูน้ำเสีย แต่บางรายงานระบุว่าเธอถูกชายทั้ง 4 คนผลักลงไปที่รางรถไฟ
ขณะนี้หญิงสาวกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สามีของเธอได้แจ้งความกับตำรวจเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนว่าภรรยาของเขาหายตัวไป โดยกล่าวว่าเธอเคยหายตัวไปก่อนหน้านี้แต่ก็กลับมาเอง
ตำรวจได้จัดตั้งทีมสืบสวนพิเศษเพื่อตรวจสอบคดีนี้ภายใต้ข้อหา "รุมข่มขืน" และ "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส" โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟเพื่อระบุตัวผู้ต้องสงสัย ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ตำรวจได้จับกุมชายต้องสงสัย 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นช่างเทคนิคของการรถไฟ และกำลังสืบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องมากกว่านี้หรือไม่
นอกจากนี้ หญิงสาวยังได้ให้การกับตำรวจว่าเธอถูกสามีทำร้ายร่างกายและข่มขืนภายในชีวิตสมรสมาเป็นเวลานาน เธอกล่าวว่า "หากวันนั้นฉันไม่ได้หนีออกจากบ้าน บางทีเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ฉันก็รู้สึกไม่ปลอดภัยในบ้านของตัวเองเช่นกัน"












