ฉาววงการสงฆ์! พระลพบุรีถ่ายคลิปแซ่บ-แชตล่อแหลม ดราม่าว่อนโซเชียล
สะเทือนใจวงการสงฆ์! พระนิสิตลาว วัดลพบุรี โดนแฉคลิปช่วยตัวเอง โซเชียลเดือด จนต้องลาสิกขา
กลายเป็นประเด็นร้อนที่สร้างความสะเทือนใจในวงการสงฆ์และสังคมไทย หลังจากเพจชื่อดังในโลกโซเชียลได้นำภาพและคลิปวิดีโอที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบและสถานที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดลพบุรี มานำเสนอจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธที่รู้สึกผิดหวังและไม่อาจยอมรับพฤติกรรมเหล่านี้ได้
เหตุการณ์โซเชียลแฉ คลิปพระช่วยตัวเองในวัด
จากภาพและคลิปที่ถูกเผยแพร่ในเพจโซเชียลชื่อดัง “CSI LA” เผยให้เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งในเครื่องแบบพระสงฆ์ กำลังถ่ายคลิปช่วยตัวเองอย่างโจ่งแจ้งในพื้นที่วัดแห่งหนึ่งของอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยพฤติกรรมที่ปรากฏในคลิปนี้สร้างความรู้สึกไม่พอใจและสะเทือนใจต่อพุทธศาสนิกชนอย่างยิ่ง เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยอย่างรุนแรง และยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเสื่อมโทรมของวงการสงฆ์ในสายตาของประชาชน
ข้อความในเพจได้ระบุว่า “พระรูปนี้ชอบถ่ายคลิปโชว์ช่วยตัวเองโดยใช้สถานที่และเครื่องแบบพระภิกษุอย่างโจ่งแจ้ง ศาสนาจะเสื่อมเพราะคนเลวปะปนอยู่ในผ้าเหลือง ถึงเวลาชำระวงการพระให้สะอาดเพื่อคนดีจะได้อยู่ต่อไป” นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนจากชาวบ้านในพื้นที่ที่รู้สึกผิดหวังและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง
ทีมข่าวลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดตะลุง หมู่ 6 ต.ตะลุง อ.เมืองลพบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง หลังจากได้รับเบาะแสและข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงหลักฐานต่าง ๆ ที่ถูกนำเสนอในโซเชียลมีเดีย
เมื่อเดินทางไปถึงพบว่ามีการประชุมของพระสงฆ์ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ซึ่งได้สอบถามและขอความร่วมมือจากผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการบันทึกภาพและการรายงานข่าว โดยทางผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์อย่างชัดเจน
พระรูปดังกล่าวคือใคร? นักศึกษาพระนิสิตจาก สปป.ลาว
จากการตรวจสอบพบว่า พระภิกษุที่ถูกกล่าวถึงชื่อว่า พระคุสสติ ชินวิโส อายุ 25 ปี เป็นพระนิสิตจาก สปป.ลาว ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเพื่อศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยพักอาศัยอยู่ที่วัดตะลุงเป็นการชั่วคราวเพื่อการศึกษา
อย่างไรก็ตาม พระคุสสติไม่ใช่พระสังกัดวัดตะลุงโดยตรง แต่เป็นนักศึกษาพระจากต่างประเทศที่มาศึกษาที่นี่ ซึ่งภาพและคลิปที่ถูกเผยแพร่เป็นภาพจากช่วงที่ท่านลาออกจากสามเณรและอยู่ระหว่างจะอุปสมบทเมื่อ 2 ปีก่อน นอกจากนี้ ภาพในคลิปไม่ได้ถูกถ่ายที่วัดตะลุงแต่อย่างใด
การแสดงความรับผิดชอบและการลาสิกขา
พระคุสสติ ชินวิโส ได้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ยอมลาสิกขาบททันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อวงการพระสงฆ์และพระพุทธศาสนาในประเทศไทย พร้อมยืนยันว่าพฤติกรรมในคลิปถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมและไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย
ทางด้านพระครูพิทักษ์ปริยัติกิจ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี เจ้าอาวาสวัดตะลุง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พระคุสสติเป็นนักศึกษาพระที่มากจาก สปป.ลาว เข้ามาศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ และพักอยู่ที่วัดตะลุงตั้งแต่ก่อนวันเข้าพรรษาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยญาติโยมได้นำมาฝากไว้ ซึ่งภาพและคลิปที่ถูกเผยแพร่เป็นภาพเก่าที่ถ่ายในช่วงก่อนบวชพระ
ความเสียหายต่อวงการสงฆ์และการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายวีระ จำลอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ได้ประสานงานกับพระครูวิธานธรรมวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด และหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับเพจโซเชียลและสำนักข่าวบางแห่งที่อาจนำเสนอข่าวในลักษณะที่บิดเบือนและสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของวัดและพระสงฆ์ในพื้นที่ โดยทางคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจะหารือร่วมกับพระผู้ใหญ่ในการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
เสียงสะท้อนจากชาวบ้านและสังคม
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างแสดงความผิดหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้มงวดกับการตรวจสอบพระสงฆ์ในทุกวัดอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก
“เราไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ได้ในฐานะพุทธศาสนิกชน พระควรเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่ทำเรื่องแบบนี้ให้เสื่อมเสีย” ชาวบ้านท่านหนึ่งกล่าว
ความสำคัญของการชำระล้างวงการสงฆ์เพื่อรักษาความศรัทธาของประชาชน
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่วงการสงฆ์ต้องมีการกำกับดูแลและชำระล้างภายใน เพื่อรักษาความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา และป้องกันไม่ให้คนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอยู่ในผ้าเหลือง
การตรวจสอบอย่างเข้มงวดและการรับผิดชอบอย่างจริงจังของพระคุสสติ ที่ได้ลาสิกขาออกไปในครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และเป็นสัญญาณให้วงการสงฆ์ตื่นตัวกับปัญหาที่อาจทำให้ศาสนาเสื่อมโทรมได้
สรุป
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะสร้างความผิดหวังแก่พุทธศาสนิกชนและสังคมไทยอย่างมาก แต่การดำเนินการที่รวดเร็วของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี และการแสดงความรับผิดชอบของพระคุสสติ ชินวิโส ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการฟื้นฟูความน่าเชื่อถือและความบริสุทธิ์ของวงการสงฆ์ไทย
ประชาชนและชาวพุทธยังคงเฝ้ารอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเข้มงวด และตรวจสอบพระสงฆ์ทุกวัดอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องและรักษาความบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนาไว้ให้ยั่งยืนต่อไป
---






