ยา PrEP และ ยา PEP ต่างกันอย่างไร? ยาก่อนเสี่ยงกับยาหลังเสี่ยง ใช้ให้ถูก ป้องกันได้จริง
หลายคนยังสับสนระหว่าง ยา PrEP และ ยา PEP ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันเชื้อ HIV เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญในเรื่องของ "ช่วงเวลา" และ "วิธีการใช้" การเข้าใจความต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้ยาได้อย่างถูกต้องและป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้จักยา PrEP (เพร็พ): เกราะป้องกัน "ก่อน" มีความเสี่ยง
PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) คือยาสำหรับ "ป้องกันล่วงหน้า" เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ HIV แต่มีไลฟ์สไตล์ที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
-
ใช้เมื่อไหร่?: กิน "ก่อน" จะมีความเสี่ยง
-
วิธีการใช้: กินยาต่อเนื่องทุกวัน (Daily PrEP) เพื่อให้มีระดับยาในเลือดเพียงพอที่จะป้องกันเชื้อได้เสมอ
-
ใครที่ควรใช้?: ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นประจำ เช่น มีคู่นอนหลายคน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางสม่ำเสมอ, หรือมีคู่นอนที่ติดเชื้อ HIV
-
ประสิทธิภาพ: สูงถึง 99% ในการป้องกัน HIV หากกินยาสม่ำเสมอ
รู้จักยา PEP (เป็ป): ตัวช่วยฉุกเฉิน "หลัง" มีความเสี่ยง
PEP (Post-Exposure Prophylaxis) คือยาสำหรับ "ป้องกันฉุกเฉิน" หลังจากที่เพิ่งมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อมา
-
ใช้เมื่อไหร่?: กิน "หลัง" จากมีความเสี่ยง (เช่น ถุงยางแตก, ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)
-
วิธีการใช้: ต้องเริ่มกินให้เร็วที่สุด ภายใน 72 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุ และต้องกินยาติดต่อกันทุกวันจนครบ 28 วัน
-
ใครที่ควรใช้?: ผู้ที่เจอเหตุการณ์เสี่ยงแบบไม่คาดฝัน และไม่ได้ป้องกันไว้ล่วงหน้า
-
ประสิทธิภาพ: ป้องกันได้ประมาณ 80-90% หากเริ่มยาเร็วและกินครบคอร์ส
ตารางเปรียบเทียบ PrEP vs PEP ให้เข้าใจง่าย
หัวข้อ | ยา PrEP (ป้องกันก่อนเสี่ยง) | ยา PEP (ป้องกันหลังเสี่ยง) |
ช่วงเวลาใช้ | ก่อนมีความเสี่ยง (วางแผนล่วงหน้า) | หลังมีความเสี่ยง (กรณีฉุกเฉิน) |
วิธีการกิน | กินต่อเนื่องทุกวัน | กินทันที (ใน 72 ชม.) และกินต่อเนื่อง 28 วัน |
เหมาะกับใคร | ผู้มีความเสี่ยงเป็นประจำ | ผู้ที่เจอเหตุฉุกเฉิน ไม่ได้ตั้งใจ |
ราคาโดยประมาณ | 1,000 - 3,400 บาท/เดือน | 3,000 - 9,500 บาท/คอร์ส (28 วัน) |
ข้อควรรู้ที่สำคัญที่สุด
-
ต้องพบแพทย์เสมอ: ทั้ง PrEP และ PEP เป็นยาควบคุมพิเศษ ห้ามซื้อกินเอง ต้องผ่านการตรวจเลือดและประเมินโดยแพทย์เท่านั้น
-
ไม่ป้องกันโรคอื่น: ยาทั้งสองชนิดป้องกันได้แค่ HIV เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ (เช่น ซิฟิลิส, หนองใน) ได้ จึงยังจำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยเสมอ
-
ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้: ควรรับยาจากโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงยาปลอมที่ไม่มีประสิทธิภาพและอาจเป็นอันตราย
สรุปง่ายๆ: ถ้าคุณมีไลฟ์สไตล์ที่เสี่ยงเป็นประจำ PrEP คือการวางแผนป้องกันที่ดีที่สุด แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน PEP คือทางออกฉุกเฉินที่ต้องทำแข่งกับเวลา ทั้งสองวิธีคือเครื่องมือป้องกัน HIV ที่มีประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้อย่างถูกต้องภายใต้การดูแลของแพทย์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ยา PrEP และ ยา PEP ต่างกันอย่างไร?

















