ส่อง 2 หนุ่มหล่อครบเครื่อง “เบสท์-โอ๊ต” พร้อมเป็นตัวแทนสู้ศึกเวทีใหญ่ ‘MISTER INTERNATIONAL 2025’
ก่อนที่คืนนี้จะรู้ผลว่าใครจะมง ‘MISTER INTERNATIONAL THAILAND 2025’ (MIT 2025) ขอเปิดใจ 2 หนุ่มหล่อตัวเก็งว่าเขาพร้อมที่จะเป็นตัวแทนสายสะพาย ‘THAILAND’ สู้ศึกบนเวทีระดับโลกอย่าง ‘MISTER INTERNATIONAL 2025’ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดอีกครั้งหนึ่ง
หนุ่มคนแรก MI16 “โอ๊ต-พชรพล สุขสำราญ” หนุ่มวัย 21 ปี มีตำแหน่งชนะเลิศจากเวที ‘MISTER LOOKER THAILAND 2025’ การันตีความหล่อครบเครื่อง สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาจาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี สาขาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ มีความสามารถด้านการเรียนเป็นเลิศ โดยเฉพาะในขณะที่เรียนชั้น ม.4 สามารถสอบเทียบชั้น ม.6 ได้ และมีสกิลการใช้ภาษาอังกฤษในระดับดีมาก โอ๊ตเป็นคนที่รักการออกกำลังกาย ชื่นชอบการเล่นกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะ มวยไทย ฟุตบอล และบาสเก็ตบอล จึงทำให้ในปัจจุบันทำงานด้านฟิตเนสอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังสนใจเรื่องแฟชั่น ชอบแต่งตัว และมีไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยพลังบวก
โอ๊ต พชรพล เปิดใจถึงเหตุผลเข้าร่วมประกวด MIT 2025 ว่า MIT เป็นเวทีที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับหนุ่มไทยเป็นอย่างมาก เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นแสดงศักยภาพของความเป็นสุภาพบุรุษในทุกมิติ ผ่านกาย วาจา และใจ สอดคล้องกับหลักพระพุทธศาสนาคือ การประพฤติดีตาม ‘กุศลกรรมบถ 10’ คือ กายกรรม วจีกรรม และมโน (ใจ)กรรม สำหรับศักยภาพของผมนั้นมีมีขีดจำกัด ผมพร้อมตั้งแต่วินาทีแรกที่สมัครเข้าร่วมประกวดเวที MIT ผมมองข้ามช็อตไปถึงเวทีระดับโลกอย่าง ‘MISTER INTERNATIONAL THAILAND 2025’ นอกจากศักยภาพที่เต็มเปี่ยมแล้ว ผมจะนำความเป็น SOFT POWER ของประเทศไทยคือ 5 F ถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย และสามารถนำมาปรับใช้ในการสร้างสรรค์และผลักดันให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ประกอบ 1.อาหาร (Food) อาหารไทยเป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 2. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) อุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ไทยมีการเติบโตและได้รับความสนใจจากต่างประเทศ 3. แฟชั่น (Fashion) การออกแบบแฟชั่นไทยมีเอกลักษณ์และสามารถนำมาต่อยอดได้ 4. ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) มวยไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในระดับสากล และ 5.เทศกาลประเพณีไทย (Festival) เทศกาลและประเพณีไทยมีความสวยงามและน่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยว
ในหลักการทำงานให้ประสบผลสำเร็จนั้น โอ๊ตบอกว่า ชอบความเป็นทีมเวิร์กครับ สังคมไทยในยามนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องผนึกพลังความเป็นทีมเวิร์กให้มากขึ้น แล้วเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจะไปด้วยกันไปได้ไกล การทำงานร่วมกันนั้นเราต้องบรรลุเป้าหมายเดียวกัน โดยมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน และมีการสื่อสาร ประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุผลสำเร็จ
โอ๊ตยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชานั้น คงไม่มีใครอยากให้เกิดคือ เพราะสงครามมีแต่ความสูญเสีย การสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นนั้นไม่จำเป็นต้องทำสงครามกัน ขอเป็นกำลังใจให้กับทหาร เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน จงปลอดภัยและขอให้สถการณ์สงบสุขจงกลับคืนโดยเร็วที่สุดครับ
ส่วนหนุ่มอีก 1 คน คือ MI 25 ‘เบสท์-สิทธิพงษ์ อิ่มเสถียร’ สจ๊วตหนุ่มวัย 33 ปี ที่ด้านภาษาไม่ต้องห่วง สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ(ธุรกิจการบิน) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน มีดีกรีความหล่อครบสูตรกับตำแหน่งผู้ชนะเลิศ ‘Manhunt Thailand 2019’ นอกจากเป็นสจ๊วตแล้วยังเป็นนักแสดงที่มีผลงานละครมากแล้วหลายเรื่อง อาทิ ปล้นลอยฟ้า, แคนสองแผ่นดิน, คุ้งเสน่ห์ และ มรกตสีรุ้ง ทางช่อง 7HD และล่าสุดกับผลงานละครผาแดงนางไอ่ ทางช่องวัน31 ที่เรตติ้งพุ่งกระฉูด พร้อมทั้งยังมีเป็นนักดนตรีอีกด้วย
เบสท์ สิทธิพงษ์ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินเข้าร่วมประกวดบนเวที MIT หลังร้างราเวทีไปถึง 6 ปี ด้วยกัน โดยเขากล่าวว่า เวลาและโอกาสเป็นสองสิ่งที่ผมไม่เคยปล่อยทิ้งไป เพราะเมื่อมันมาแล้วเราไม่ไขว่คว้าไว้ มันก็จะเป็นของคนอื่นในทันที แล้วเราจะมาเสียใจในภายหลังนั้นไม่ได้ สำหรับ MIT เป็นเวทีที่มีคุณภาพคับแก้วมอบเวลาและโอกาสที่ดีให้กับผู้ชายทุกคนที่มีคุณสมบัติตามที่เวทีต้องการ ผมจึงไม่ปล่อยผ่านไปอย่างแน่นอน เบสท์ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งคงจะเสียงดังไม่พอเท่ากับ เบสท์ในฐานะ ‘MISTER INTERNATIONAL THAILAND 2025’ ผมพร้อมที่จะเป็นตัวแทนสวมสายสะพาย THAILAND ไปประกวดวบนเวที ‘MISTER INTERNATIONAL 2025’ ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพด้วย ผมพร้อมที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับเพื่อน ๆ จากทั่วโลกครับ
“เสียงดังของผมในที่นี้หมายถึง การขอความร่วมมือร่วมใจจากฝ่ายต่าง ๆ และพี่น้องคนไทยในการทำกิจกรรมหรือความร่วมมือใด ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติครับ”
เมื่อถามว่า อะไรที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ‘MISTER INTERNATIONAL THAILAND 2025’ เบสท์ตอบอย่างมั่นใจว่า การเป็นบุคคลสาธารณะที่ทำงานบริการเพื่อส่วนรวมครับ เพราะทุกวันนี้ผมเป็นทั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และเป็นนักแสดง เป็นต้นทุนที่ดีของการทำงานและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน การที่เราได้พบปะผู้คนมากมาย ทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับคนส่วนใหญ่ได้ แล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่าง
มีความสุข ไม่ใช่ให้คนส่วนใหญ่ปรับตัวเข้าหาเรา และผมจะถืออยู่อย่างหนึ่งว่า 'ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง’
“สูตรสำเร็จในการทำงานของผมคือ การทำงานอย่าง Professional หรือมืออาชีพ การประพฤติตัวและปฏิบัติงานในลักษณะที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย การตรงต่อเวลา และความมุ่งมั่นในการทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงมาตรฐานขององค์กรและจรรยาบรรณวิชาชีพ”
นอกจากนี้เบสท์ ยังฝากความห่วงใยไปถึงทหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนคนไทยทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ความไม่สงบของชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ปลอดภัยและกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
(ภาพ : MISTER INTERNATIONAL THAILAND 2025/THAILAND BEAUTY PAGEANT/INTERNET)






















