ช็อกผู้โดยสาร! สาวมะกันแก้ผ้าคลั่ง กลางสนามบิน
คลิปไวรัลสะเทือนโซเชียล! สาวอเมริกันเมากัญชาคลุ้มคลั่งกลางสนามบินจาไมก้า ปาสิ่งของ กรีดร้อง เปลือยกาย และทำร้ายเจ้าหน้าที่
เหตุการณ์สุดช็อกที่กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติแห่งหนึ่งในประเทศจาไมก้า เมื่อมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวสาวชาวอเมริกันที่มีอาการคลุ้มคลั่งอย่างรุนแรง หลังจาก reportedly สูบกัญชา ก่อนจะแสดงพฤติกรรมที่สร้างความโกลาหลและตกตะลึงแก่ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่สนามบิน
คลิปดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Lea Fernando พร้อมคำเตือน “Viewer Discretion Is Advised” หรือ “ผู้ชมโปรดใช้วิจารณญาณ” เนื่องจากภาพในคลิปมีความรุนแรงและไม่เหมาะสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม
เหตุการณ์เริ่มต้น: จากการเมากัญชาสู่การอาละวาดไม่หยุด
จากข้อมูลที่ผู้โพสต์ระบุ หญิงสาวคนนี้ได้สูบกัญชาก่อนเดินทางขึ้นเครื่องบิน หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีอาการผิดปกติอย่างชัดเจน โดยในคลิปจะเห็นว่าเธอสวมเพียงบราเซียสีเขียวตัวเดียว ไม่สวมเสื้อผ้าชิ้นอื่น ทั้งกางเกงและรองเท้าถูกถอดออก
เธอนอนดิ้นอยู่กับพื้นสนามบิน กรีดร้องเสียงดัง และตะโกนบอกว่าต้องการมีเพศสัมพันธ์อย่างเร่งด่วน เสียงของเธอดังก้องไปทั่วบริเวณเกตผู้โดยสาร ทำให้คนรอบข้างตกใจและพากันถอยห่าง
จากความวุ่นวายสู่ความรุนแรง
อาการของเธอทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่กรีดร้องและดิ้นไปมา แต่เธอลุกขึ้นแล้วเริ่ม ขว้างปาสิ่งของ ที่อยู่ในมือใส่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ โดยไม่มีการเลือกเป้าหมาย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เธอหยิบข้าวของจากเคาน์เตอร์และจากพื้นมาโยนใส่คนรอบตัว จากนั้นก็เดินเปลือยกายไปมาทั่วพื้นที่ พร้อมตะโกนเสียงดังด้วยคำพูดที่ฟังไม่ออกชัดเจน บางช่วงคล้ายภาษาที่ไม่มีความหมาย
ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่แบบไม่คาดคิด
เจ้าหน้าที่สนามบินพยายามเข้ามาควบคุมสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร แต่กลับถูกหญิงสาวรายนี้ตอบโต้ด้วยพฤติกรรมรุนแรง
มีช่วงหนึ่งในคลิปที่เธอถอดรองเท้าแล้ว ขว้างใส่หน้าเจ้าหน้าที่ ที่เข้าใกล้ จากนั้นเธอพุ่งเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งแล้วใช้มือ บีบอวัยวะเพศ ของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ผงะถอยไปด้วยความเจ็บปวดและตกใจ
จุดพีคของเหตุการณ์: เปลือยกายหมดและถูกจับกุม
หลังจากนั้นไม่นาน เธอได้ถอดบราออกจนเหลือร่างกายเปลือยทั้งหมด ยังคงเดินไปมาและกรีดร้องเสียงดังอย่างต่อเนื่อง บรรดาผู้โดยสารหลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ ขณะที่บางคนรีบพาครอบครัวและเด็กเล็กออกห่างจากพื้นที่
ท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่หลายคนตัดสินใจเข้ารวบตัวเธอโดยพร้อมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายร่างกายทั้งตนเองและผู้อื่น พวกเขาใช้กำลังจับเธอนอนคว่ำลงกับพื้นแล้วมัดมือมัดเท้า ก่อนจะนำตัวออกจากพื้นที่ผู้โดยสารไปยังห้องควบคุม
ยังไม่ทราบสาเหตุแท้จริง
แม้ผู้โพสต์และหลายแหล่งข่าวออนไลน์จะรายงานว่าเธอมีอาการดังกล่าวเพราะสูบกัญชา แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากตำรวจหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจาไมก้าว่าสารที่เธอเสพคืออะไร และมีปริมาณเท่าใด
นักวิชาการบางรายตั้งข้อสังเกตว่า อาการเช่นนี้อาจเกิดจากการใช้กัญชาร่วมกับสารเสพติดชนิดอื่น หรืออาจเป็นภาวะทางจิตเวชที่เกิดขึ้นกะทันหัน (Acute Psychosis) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสารเสพติดโดยตรง
ปฏิกิริยาของผู้คนในโลกออนไลน์
คลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังการโพสต์ โดยมีคนเข้าชมหลายล้านครั้งและถูกแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก หลายคนแสดงความตกใจต่อพฤติกรรมของหญิงสาว และวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบจากการใช้กัญชาในปริมาณมากหรือในสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม
บางความเห็นกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการเสพกัญชาโดยไม่ควบคุม อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อสภาพจิตใจและการควบคุมตนเอง ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งมองว่าไม่ควรตัดสินสาเหตุเพียงจากการคาดเดา ต้องรอการตรวจสอบทางการแพทย์
ประเด็นด้านกฎหมายและความปลอดภัย
ในหลายประเทศ รวมทั้งจาไมก้า มีกฎหมายควบคุมการเสพและครอบครองกัญชา แม้ว่าบางพื้นที่จะมีการผ่อนปรนในด้านการใช้เพื่อการแพทย์หรือสันทนาการ แต่การใช้จนเกิดพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่นยังถือเป็นความผิด
หากการสอบสวนยืนยันว่าเธอทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ อาจต้องเผชิญข้อกล่าวหาหลายกระทง เช่น ทำร้ายร่างกาย, ลามกอนาจารในที่สาธารณะ, และก่อความไม่สงบ ซึ่งแต่ละข้อหามีโทษทั้งจำคุกและปรับ
บทเรียนจากเหตุการณ์
เหตุการณ์นี้กลายเป็นกรณีศึกษาให้กับหน่วยงานด้านความปลอดภัยในสนามบินทั่วโลก เพราะแสดงให้เห็นว่าเพียงคนเดียวที่มีพฤติกรรมรุนแรง สามารถสร้างความวุ่นวายและกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้มากเพียงใด
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่า ควรมีการอบรมเจ้าหน้าที่สนามบินให้สามารถรับมือกับผู้โดยสารที่อยู่ในภาวะมึนเมาหรือมีอาการทางจิตได้อย่างปลอดภัย และควรเพิ่มระบบคัดกรองผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมผิดปกติก่อนเข้าสู่พื้นที่สำคัญ
สรุปสถานการณ์ปัจจุบัน
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า หญิงสาวชาวอเมริกันรายนี้ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการหรือไม่ และถูกคุมตัวไว้ที่ใด แต่คาดว่าทางการจาไมก้าจะต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดทั้งด้านสุขภาพจิตและประวัติการใช้สารเสพติดของเธอ
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด และยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าการสูญเสียการควบคุมตนเองในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะสนามบิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องรักษาความปลอดภัยสูง อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ร้ายแรงทั้งต่อผู้ก่อเหตุและผู้อื่น





















