โดม ปกรณ์ ลัม เอาจริง! สั่งทนายจัดการคดีคุกคาม
“โดม ปกรณ์ ลัม” ไม่ทน! เจอคอมเมนต์คุกคามบนโซเชียล ประกาศส่งทนายจัดการ พร้อมแซวกลับแฟนคลับสุดขำ
ในยุคโซเชียลมีเดียที่ทุกการเคลื่อนไหวของคนดังสามารถกลายเป็นกระแสได้เพียงเสี้ยววินาที “โดม ปกรณ์ ลัม” นักร้อง-นักแสดงหนุ่มหล่อขวัญใจแฟนๆ หลายเจน ก็เพิ่งจะประสบกับปรากฏการณ์โซเชียลทอล์กออฟเดอะทาวน์แบบไม่ทันตั้งตัว
เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่โดมตั้งใจจะไลฟ์สดผ่านโซเชียล เพื่อแชร์ไลฟ์สไตล์สุขภาพดีให้กับแฟนๆ โดยเฉพาะสูตรทำน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ที่เขาภูมิใจนำเสนอ ซึ่งในตอนแรกบรรยากาศก็เป็นไปอย่างชิลๆ มีการพูดคุย ตอบคำถามแฟนคลับ และบอกเล่าเคล็ดลับการเลือกวัตถุดิบ แต่สิ่งที่กลายเป็น “จุดโฟกัสหลัก” ของชาวเน็ตกลับไม่ใช่สูตรเครื่องดื่ม หากแต่เป็น “กางเกงสีขาวรัดรูป” ที่โดมใส่ในวันนั้น
จากไลฟ์สุขภาพ สู่ไวรัลข้ามคืน
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังไลฟ์สดจบ ภาพและคลิปบางช่วงก็ถูกตัดไปแชร์ต่อในหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, TikTok และ X (Twitter เดิม) พร้อมแคปชั่นแซวสนั่นโซเชียล ความตั้งใจดีที่อยากให้คนดูแลสุขภาพ กลับกลายเป็นกระแสไวรัลด้วยเหตุผลที่เจ้าตัวเองก็คงคาดไม่ถึง
เมื่อกระแสเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ และคอมเมนต์จำนวนมากพุ่งเป้าไปที่รูปลักษณ์และการแต่งกาย โดมจึงตัดสินใจ “เปลี่ยนชุดกลางไลฟ์” เพื่อความสบายใจของทั้งตัวเองและผู้ชม พร้อมยิ้มรับสถานการณ์อย่างมืออาชีพ แต่ถึงจะเปลี่ยนชุดแล้ว ความสนใจของชาวเน็ตก็ยังไม่ลดลง
คอมเมนต์แซวล้นเพจ
หลังเหตุการณ์วันนั้น โดมพบว่าแทบทุกโพสต์บนเพจของตนเต็มไปด้วยคอมเมนต์แซว โดยเฉพาะจากแฟนคลับผู้หญิงที่ดูจะสนุกกับการหยอกล้อแบบ “คุกคามเชิงขำ” จนบางครั้งก็เกินขอบเขตความสบายใจของเจ้าตัว
แม้โดมจะเป็นคนอารมณ์ดีและรับมุกได้ แต่การแสดงออกที่มากเกินไปก็เป็นสิ่งที่เขามองว่าควรถูกจัดการอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานว่าการคอมเมนต์ถึงใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ควรอยู่ในขอบเขตที่สุภาพ
โดมเคลื่อนไหว – ประกาศส่งทนายจัดการ
ล่าสุด โดมได้ออกมาโพสต์ข้อความบน Facebook ส่วนตัว พร้อมน้ำเสียงกึ่งจริงกึ่งขำ โดยระบุว่า
“สำหรับสาวๆ ที่มาคอมเมนต์คุกคามผมในเพจ ผมเอาเรื่องส่งทนายแล้วนะครับ”
ข้อความนี้แม้จะมีความขำขัน แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าเจ้าตัวต้องการสื่อสารถึงแฟนๆ ว่า เรื่องการแซวหรือคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องเล็ก แม้จะเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ก็ตาม
นอกจากนี้ โดมยังเสริมคอมเมนต์ต่อท้ายที่ทำเอาชาวเน็ตหัวเราะกันลั่น เช่น
“ในบางเคส ทนายผมได้ส่องโปรไฟล์แล้วแจ้งว่า คุ้มครับ”
“ส่วนใครที่อยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง แนะนำให้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ด่วน ก่อนที่ทนายผมจะเข้าไปส่องครับ”
“ทนายผมฝากมาเตือนว่า อย่าให้อีกครั้งที่ 100 นะ!!!”
“ย้ำ! สาวๆ นะครับ!! ใครแก่ ไม่เกี่ยว!!!”
“สรุป รอดเกือบหมด!! เพราะแก่!!”
“ถ้าโพสต์ของผมไปกระทบกระเทือนจิตใจป้าๆ คนไหน ด่าผมกลับได้เลยครับ!! ผมถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สาธุ”
การเล่นมุกแบบนี้ทำให้หลายคนมองว่า โดมสามารถจัดการสถานการณ์ที่อาจตึงเครียดให้กลายเป็นเรื่องขำขันได้อย่างชาญฉลาด ขณะเดียวกันก็ยังส่งสารสำคัญเกี่ยวกับการเคารพซึ่งกันและกันในโลกออนไลน์
มิติของ “คุกคามทางเพศ” ในมุมของคนดัง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับโดม ปกรณ์ ลัม สะท้อนปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือ การคุกคามทางเพศในเชิงขำขันมักถูกมองข้ามเมื่อเหยื่อเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะคนดังที่มีภาพลักษณ์หล่อเหลาและมั่นใจในตัวเอง หลายคนอาจมองว่ามันเป็นแค่การหยอกล้อ ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร แต่ในความเป็นจริง ความรู้สึกไม่สบายใจและการถูกละเมิดขอบเขตก็เกิดขึ้นได้ไม่ต่างจากผู้หญิง
ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมออนไลน์หลายคนเคยให้ความเห็นว่า การคอมเมนต์รูปลักษณ์หรืออวัยวะร่างกายของผู้อื่นในเชิงทางเพศ โดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นการคุกคามทางเพศ แม้จะเป็นเพียงตัวอักษรในคอมเมนต์ก็ตาม และยิ่งเมื่อกระทำซ้ำๆ ก็สามารถสร้างความกดดันต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำได้
ปฏิกิริยาจากแฟนๆ
หลังโดมโพสต์ข้อความประกาศ “ส่งทนายจัดการ” กระทู้และคอมเมนต์ในโซเชียลก็แตกออกเป็นสองกระแส บางคนมองว่ามุกนี้ตลกและเป็นการเล่นกับแฟนคลับอย่างเข้าใจกัน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าแม้จะตลก แต่ก็เป็นการเตือนอย่างจริงจังที่ทุกคนควรรับฟัง
มีแฟนคลับจำนวนมากเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจ พร้อมยอมรับว่าบางครั้งอาจจะเผลอพิมพ์เกินขอบเขตเพราะคิดว่าเป็นเรื่องขำๆ และสัญญาว่าจะระมัดระวังการใช้คำพูดมากขึ้น
บทเรียนจากเหตุการณ์
กรณีของโดม ปกรณ์ ลัม เป็นตัวอย่างที่ดีว่าคนดังไม่จำเป็นต้องเงียบหรือปล่อยผ่านเมื่อเจอการคุกคามบนโซเชียล แม้ในกรณีนี้จะถูกจัดการด้วยอารมณ์ขัน แต่ก็ยังคงเป็นการตั้งมาตรฐานให้แฟนคลับและผู้ติดตามเห็นว่าการแสดงความเห็นต้องอยู่ในกรอบความเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง การเคารพซึ่งกันและกันในโลกออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะโซเชียลมีเดียไม่ใช่พื้นที่ที่ไร้ขอบเขต การพิมพ์คอมเมนต์เพียงไม่กี่คำอาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและภาพลักษณ์ของอีกฝ่ายได้มากกว่าที่คิด
สรุป
แม้เหตุการณ์นี้จะเริ่มจากความบังเอิญและจบลงด้วยเสียงหัวเราะ แต่สารสำคัญที่ “โดม ปกรณ์ ลัม” ส่งออกมาก็ชัดเจน — การคุกคามไม่ใช่เรื่องเล่น และไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์จะปกป้องขอบเขตของตนเองได้


