ภูเก็ตเตือนภัย! คาดปีนี้ติดเชื้อ HIV สะสมกว่า 6,000 ราย กลุ่มชายขายบริการสูงสุด
ภูเก็ตวิกฤติ! สธ. คาดปี 2568 ผู้ติดเชื้อ HIV กว่า 6,000 ราย เร่งวางแผนยุติปัญหาเอดส์อย่างเร่งด่วน
จังหวัด ภูเก็ต กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ เมื่อกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่าในปี 2568 นี้ จะมีผู้ติดเชื้อ HIV/SIDA ในภูเก็ตมากกว่า 6,343 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 18.3% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในเขตสุขภาพที่ 11 ส่งผลให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินมาตรการควบคุมและยุติปัญหาเอดส์อย่างจริงจังและเร่งด่วน
การแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ในภูเก็ตเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูงที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี โดยเฉพาะ กลุ่มผู้ขายบริการทางเพศ, ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM), กลุ่มคนข้ามเพศ, และ ผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด ที่มีแนวโน้มติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มประชากรทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่ม เยาวชน เริ่มมีแนวโน้มการติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความจำเป็นในการวางแผนและมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต
การประชุมวางแผนยุทธศาสตร์ยุติปัญหาเอดส์
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดภูเก็ตได้จัดประชุม วางแผนยุทธศาสตร์ยุติปัญหาเอดส์ โดยมี นายธีระพงศ์ ช่วยชู ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน พร้อมด้วย แพทย์หญิงเหมือนแพร บุญล้อม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่ง
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นตลอด 2 วัน (19-20 สิงหาคม 2568) โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50 คน จากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน, เครือข่ายผู้ป่วย, องค์กรไม่แสวงผลกำไร และภาคประชาสังคม จุดประสงค์หลักคือ ระดมสมองร่วมกันเพื่อวางแนวทางปฏิบัติ ที่สามารถลดการแพร่ระบาดของ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาระบบติดตามผลให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต
จากข้อมูลและตัวเลขที่พบ จังหวัดภูเก็ตได้กำหนด เป้าหมายหลัก ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 ไว้ 3 ประการ ดังนี้
1. ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เหลือน้อยกว่า 11 รายต่อปี
การลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์เอดส์ เพราะหากสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อในประชากรทั่วไป และช่วยให้ระบบสาธารณสุขสามารถดูแลผู้ติดเชื้อได้อย่างมีคุณภาพ
2. ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากเอดส์ให้เหลือน้อยกว่า 15 รายต่อปี
การรักษาและเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างทันท่วงทีเป็นปัจจัยสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ การประชุมครั้งนี้มีการเน้นเรื่องการ เข้าถึงบริการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ติดเชื้อสามารถควบคุมโรคได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
3. ลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับ HIV ลง 90%
หนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการควบคุม HIV คือการตีตราและการเลือกปฏิบัติ ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อไม่กล้าเข้าถึงบริการทางการแพทย์และบริการสังคม จังหวัดภูเก็ตจึงมุ่งเน้นการ สร้างความเข้าใจและยอมรับในสังคม ผ่านการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนสิทธิของผู้ติดเชื้อ
กระบวนการ RRTTPR: หัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์
ในการประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้หารือและวางแนวทางการดำเนินงานโดยใช้ กระบวนการ RRTTPR ซึ่งประกอบด้วย 6 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่
1. เข้าถึง (Reach) – การเข้าถึงกลุ่มเสี่ยงและผู้ที่ยังไม่ทราบสถานะการติดเชื้อ
2. ชวน (Recruit) – การชักชวนให้กลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจและบริการทางการแพทย์
3. ตรวจ (Test) – การตรวจวินิจฉัยเชื้อ HIV อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
4. รักษา (Treat) – การเข้าถึงยาต้านไวรัสและการรักษาอย่างต่อเนื่อง
5. ป้องกัน (Prevent) – การให้ความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัย และการให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมเสี่ยง
6. คงอยู่ (Persist) – การติดตามผลและสนับสนุนผู้ติดเชื้อให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
กระบวนการ RRTTPR ถือเป็น เครื่องมือหลัก ในการยุติปัญหาเอดส์ของภูเก็ต เนื่องจากสามารถประเมินผลและปรับปรุงมาตรการได้ตามความเหมาะสมของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
ความสำคัญของการรวมพลังทุกภาคส่วน
การควบคุมการแพร่ระบาดของ HIV ไม่สามารถทำได้โดยหน่วยงานเดียว ต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน
แพทย์หญิงเหมือนแพร บุญล้อม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งสามารถตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
นอกจากนี้ การมีเครือข่ายผู้ติดเชื้อและองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วม ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการดำเนินมาตรการ ลดการตีตรา และสร้างความเข้าใจในสังคม ทำให้ผู้ติดเชื้อกล้าที่จะเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสังคมมากขึ้น
ผลกระทบของ HIV ในภูเก็ต
การแพร่ระบาดของ HIV ในภูเก็ตไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน แต่ยัง กระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภูเก็ตเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อาจเกิดความกังวลและลดความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อในกลุ่มเยาวชนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยังสะท้อนถึง ความจำเป็นในการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาและพฤติกรรมเสี่ยง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อในระยะยาว
แนวทางอนาคตและความมุ่งมั่นของจังหวัด
จังหวัดภูเก็ตตั้งเป้าหมายที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 ด้วยการดำเนินงานเชิงรุก ทั้งในด้านการตรวจวินิจฉัย การรักษา การป้องกัน และการลดการตีตรา
นอกจากการใช้กระบวนการ RRTTPR แล้ว จังหวัดยังให้ความสำคัญกับ การสร้างความตระหนักรู้ในสังคม และ การให้ความรู้ในโรงเรียนและชุมชน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในกลุ่มเยาวชน และสนับสนุนให้ผู้ติดเชื้อสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
“เป้าหมายของเราคือภูเก็ตต้องเป็นจังหวัดที่ปลอดภัยจาก HIV และผู้ติดเชื้อสามารถเข้าถึงการรักษาและบริการอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการตีตราหรือเลือกปฏิบัติ” แพทย์หญิงเหมือนแพรกล่าว
บทสรุป
สถานการณ์ HIV ในจังหวัดภูเก็ตยังคงน่าเป็นห่วง แต่ด้วย ความร่วมมือของทุกภาคส่วน, การวางแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และการใช้กระบวนการ RRTTPR เป็นเครื่องมือในการป้องกันและรักษา ผู้ติดเชื้อสามารถได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และเป้าหมายในการลดการแพร่ระบาดและยุติปัญหาเอดส์ในภูเก็ตมีความเป็นไปได้สูง
ภูเก็ตกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการต่อสู้กับ HIV หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จังหวัดสามารถเป็น ตัวอย่างของการยุติปัญหาเอดส์อย่างครบวงจร ให้กับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนได้




















