Truck Stop Killer ฆาตกรที่สะสม ความกลัว ไว้ในกล้องถ่ายรูป
ภาพจาก เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม
วันนี้ผมมีเรื่องจริงจากอเมริกา ที่ใครฟังก็ต้องรู้สึกทั้งสะเทือนใจ ทั้งขนลุกไปพร้อม ๆ กัน เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1990 แล้ว แต่ทุกครั้งที่ถูกเล่าขาน มันก็ยังหลอนอยู่เหมือนเดิม เพราะมันเกี่ยวข้องกับ "ภาพถ่ายสุดท้าย" ของเด็กสาววัย 14 ปี ที่ถูกฆาตกรโรคจิตจับตัวไป และใช้ความกลัวของเธอเป็นเหมือนของสะสมส่วนตัว
จุดเริ่มต้นของฝันร้าย
ย้อนกลับไปในปี 1990 เด็กสาวชื่อ เรจิน่า เคย์ วอลเตอร์ส เธออายุเพียง 14 ปีเองครับ กำลังอยู่ในวัยที่โลกทั้งใบควรจะสดใส เต็มไปด้วยอนาคต แต่ดันมาตกอยู่ในเงื้อมมือของฆาตกรที่อเมริกาเรียกกันว่า “Truck Stop Killer” หรือชื่อจริงคือ โรเบิร์ต เบน โรดส์
โรดส์เป็นคนขับรถบรรทุกข้ามรัฐครับ ฟังดูเหมือนอาชีพปกติ แต่ความจริงเขามีงานอดิเรกที่โหดเหี้ยมสุด ๆ คือการล่าเหยื่อระหว่างเส้นทางที่ขับรถผ่านไป
ฆาตกรที่ไม่ได้ฆ่าทันที
ความน่ากลัวของโรดส์คือ เขา ไม่ฆ่าเหยื่อทันที แต่ชอบ "เล่น" กับความกลัวของพวกเธอก่อน เขาจะบังคับให้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แล้วค่อย ๆ กดดันเหยื่อไปเรื่อย ๆ
กับเรจิน่า เขาให้เธอใส่ชุดดำ รองเท้าส้นสูง ทั้งที่มันดูเป็นชุดที่ผู้ใหญ่ใส่ ไม่ใช่เด็กวัยแค่ 14 แบบเธอเลย แล้วเขาก็พาเธอไปที่โรงนาร้าง ก่อนจะหยิบกล้องขึ้นมา
ภาพสุดท้ายที่เล่าทุกอย่าง
ภาพนั้นคือ "หลักฐานชิ้นโหด" ที่ตำรวจเจอทีหลัง…
ในภาพ เรจิน่ายืนอยู่ในโรงนาร้าง ใส่ชุดดำ รองเท้าส้นสูง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด เหมือนรู้ชะตากรรมตัวเองว่า ออกไปไม่ได้แล้ว
แค่ได้เห็นภาพนี้ คุณจะรู้เลยว่าความกลัวมันถูกจับเอาไว้ในเลนส์จริง ๆ ใครที่เคยดูภาพนี้ต่างพูดเหมือนกันว่า "มันเป็นภาพที่ทำให้หัวใจหนักอึ้ง"
ไม่นานหลังจากถ่ายภาพนั้น เธอก็ถูกโรดส์ฆ่า…
ภาพถ่ายที่กลายเป็นหลักฐาน
ตำรวจตามคดีนี้อยู่พักใหญ่ครับ กว่าที่เขาจะโดนจับได้ก็ปี 1992 ซึ่งตอนนั้นหลักฐานสำคัญที่สุดก็คือ ภาพถ่ายที่โรดส์ถ่ายเหยื่อไว้
ศาลตัดสินให้โรดส์ จำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ทัณฑ์บน แต่ถึงอย่างนั้น ความขนลุกยังไม่จบ เพราะตำรวจสงสัยว่าเขาอาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมมากกว่า 50 ศพ เลยทีเดียว
Truck Stop Killer คือใครกันแน่
โรดส์ไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าเพื่อความสะใจแค่นั้น แต่เขาเหมือนเป็น “นักสะสมความกลัว” เขาชอบถ่ายภาพเหยื่อเก็บไว้ในอิริยาบถที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น คล้าย ๆ ว่าเขาไม่ได้ต้องการแค่ชีวิตของเหยื่อ แต่ต้องการ "ความทรงจำสุดท้าย" ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวด้วย
ถ้าไม่มีภาพถ่าย…
คำถามที่น่าคิดคือ ถ้าไม่มีภาพถ่ายพวกนั้น โรดส์จะถูกจับได้ไหม?
เพราะสมัยนั้น (ยุค 70-90) ยังไม่มีกล้องวงจรปิดเยอะเหมือนตอนนี้ การตามจับฆาตกรโหด ๆ เลยยากมาก และเหยื่อส่วนใหญ่ที่ถูกเลือกก็มักเป็น คนไร้บ้าน, โสเภณี, หรือคนที่สังคมไม่ตามหา
นั่นแปลว่าถ้าไม่มีหลักฐานเด็ด ๆ อย่างภาพถ่ายที่เขาบันทึกไว้ โรดส์อาจจะยังลอยนวล และยังมีเด็กสาวอีกหลายคนที่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับเรจิน่า
ทำไมยุค 70-90 มีฆาตกรต่อเนื่องเยอะ
นี่คือสิ่งที่นักอาชญวิทยาหลายคนเคยตั้งคำถามครับ เพราะช่วงนั้นอเมริกาเต็มไปด้วยฆาตกรโรคจิตแบบต่อเนื่อง (Serial Killer) อย่าง Ted Bundy, John Wayne Gacy, Jeffrey Dahmer … และรวมถึงเจ้า Truck Stop Killer คนนี้ด้วย
สาเหตุหลัก ๆ ก็คือ
-
เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า ไม่มี DNA ไม่มี CCTV
-
เหยื่อส่วนมากเป็นคนชายขอบ ทำให้ตำรวจไม่รีบร้อนตามคดี
-
และที่สำคัญ… มันคือ "ยุคทอง" ของคนโรคจิตที่หากินกับความกลัวของคนอื่น
ชีวิตที่ถูกพรากไป
สิ่งที่ทำให้คนอินกับคดีนี้หนัก ๆ คือ เรจิน่าแค่เด็กสาววัย 14 หน้าตาน่ารักมาก หลายคนบอกว่าโตไปอาจเป็นดาราได้เลย แต่ชีวิตเธอต้องจบลงเพราะความวิปริตของผู้ชายโรคจิตคนหนึ่ง
ลองคิดดูสิครับ… จากเด็กสาวที่มีความฝัน อนาคตอีกยาวไกล กลายเป็นแค่ "ภาพถ่ายสุดท้าย" ที่เล่าเรื่องความกลัวก่อนความตาย
สุดท้าย…อยากชวนทุกคนคิด
คดีนี้มันไม่ได้แค่บอกเราว่าโลกมันโหดร้ายแค่ไหน แต่มันตอกย้ำว่า หลักฐานเล็ก ๆ อย่างภาพถ่าย สามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้จริง ๆ
และมันยังสะท้อนว่า ต่อให้ฆาตกรจะพยายามปิดบังแค่ไหน สุดท้าย "ความจริง" ก็ยังหาทางเปิดเผยออกมาอยู่ดี
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ ถ้าเจอภาพถ่ายสุดท้ายแบบนี้กับตาตัวเอง จะยังกล้าดูต่อ หรือจะรีบปิดตาหนีเลย
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/kadeesayong/posts/ย้อนกลับไปปี-1990-เรจิน่า-เคย์-วอลเตอร์ส-เด็กสาววัยเพียง-14-ปี-ถูกพรากไปจากโลกนี/1300162834901194/
เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม













