ฉาวสนั่น! นักท่องเที่ยวสเปน กรอกเบียร์ใส่งวงช้าง คนแห่จี้เอาผิด
เดือดทั้งโซเชียล! นักท่องเที่ยวสเปนโพสต์คลิปเทเบียร์กรอกงวงช้างป่าในเคนยา ทางการเร่งสอบสวน
คลิปสุดพิเรนทร์จุดชนวนดราม่า
โลกออนไลน์ทั่วโลกกำลังร้อนระอุ หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด นักท่องเที่ยวชายชาวสเปนรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอสุดพิเรนทร์ลงบนอินสตาแกรม โดยคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นภาพเขากำลัง "เทเบียร์ยี่ห้อดังของเคนยา" ลงไปในงวงของช้างป่าที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าในประเทศเคนยา
คลิปนี้มาพร้อมคำบรรยายเชิงขบขันว่า “ขอจิบเบียร์กับเพื่อนที่มีงา” ก่อนจะถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วภายหลังจากถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะจากชาวเคนยาที่มองว่านี่คือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นการล่วงละเมิดสัตว์ป่าอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม คลิปนี้ได้ถูกแชร์ต่อและถูกพูดถึงไปอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นประเด็นที่หน่วยงานภาครัฐและองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าในเคนยาต้องเร่งสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง
ยืนยันเหตุเกิดจริง – ช้างในคลิปคือ “บูพา”
สื่อต่างประเทศตรวจสอบและยืนยันแล้วว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงที่ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าโอล โจกิ (Ol Jogi Conservancy) ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงในเคนยา
โดยช้างในคลิปถูกระบุว่าเป็น “บูพา” (Bupa) ช้างพลายที่มีนิสัยเป็นมิตรและคุ้นเคยกับการปรากฏตัวในเส้นทางท่องเที่ยว จนกลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวหลายรายในพื้นที่ การกระทำของนักท่องเที่ยวชาวสเปนจึงถูกมองว่ามีความร้ายแรงเป็นพิเศษ เพราะเป็นการละเมิดสัตว์ที่คนท้องถิ่นให้ความรักและดูแลอย่างใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่ช็อก! – “ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง”
เจ้าหน้าที่ของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าโอล โจกิ ออกมาแสดงความตกใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์นี้ พร้อมยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ “ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด” เนื่องจากกฎระเบียบในพื้นที่อนุรักษ์ห้ามมิให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้หรือสัมผัสสัตว์ป่าโดยตรงอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน หน่วยงานบริการสัตว์ป่าเคนยา (Kenya Wildlife Service – KWS) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ ก็ได้ประกาศเริ่มต้นกระบวนการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีการเก็บหลักฐานทั้งจากวิดีโอที่เผยแพร่ รวมถึงตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของนักท่องเที่ยวรายนี้อย่างละเอียด
พบพฤติกรรมฝ่าฝืนซ้ำซาก
จากการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของนักท่องเที่ยวชาวสเปนคนนี้ พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฝ่าฝืนกฎของเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า
ก่อนหน้านี้ เขาเคยโพสต์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นการ ป้อนแครอทและสัมผัสตัวแรด ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โอล เปเจตา (Ol Pejeta Conservancy) ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎอย่างชัดเจนเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ของเขตอนุรักษ์ฯ ยืนยันว่า การสัมผัสตัวแรดถือเป็นสิ่งต้องห้าม เนื่องจากแรดเป็นสัตว์ป่าที่ไม่ควรถูกทำให้คุ้นชินกับมนุษย์ และอาจเกิดอันตรายได้ทั้งต่อคนและต่อสัตว์เอง การที่นักท่องเที่ยวรายนี้มีพฤติกรรมซ้ำซาก ทำให้เรื่องราวยิ่งถูกจับตามองมากขึ้น
เสียงสะท้อนจากผู้เชี่ยวชาญ
ดร.วินนี คิรู นักชีววิทยาและนักอนุรักษ์ช้างชาวเคนยา แสดงความผิดหวังอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชี้ว่าเป็นการกระทำที่อันตรายทั้งต่อสัตว์และต่อมนุษย์
“การให้ช้างดื่มเบียร์เป็นเรื่องที่ไม่เพียงแต่ผิดกฎหมาย แต่ยังเสี่ยงต่อสุขภาพของสัตว์อย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจผิด ๆ ให้นักท่องเที่ยวคิดว่าสามารถเข้าใกล้หรือให้อาหารสัตว์ป่าได้ ทั้งที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างเคร่งครัด”
ดร.คิรู ยังเสริมว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึง ความล้มเหลวด้านการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่อนุรักษ์ในแอฟริกา และจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ไม่ใช่ครั้งแรกของปัญหาพฤติกรรมนักท่องเที่ยว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากมีกลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถไปขวางเส้นทางการอพยพของ ฝูงวิลเดอบีสต์ (Wildebeest) ใน เขตสงวนแห่งชาติมาไซมารา (Maasai Mara National Reserve) ซึ่งทำให้สัตว์แตกตื่นและอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
เหตุการณ์ทั้งสองสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ไม่เคารพกฎระเบียบ กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเคนยา และอาจกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศในฐานะหนึ่งในจุดหมายปลายทางซาฟารีที่สำคัญที่สุดของโลก
การตอบสนองของภาครัฐและการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวเคนยาออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า จะ ใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น กับผู้ประกอบการทัวร์ รวมถึงบังคับให้มีการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวก่อนเข้าสู่เขตอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย
นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงการปรับเพิ่มโทษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนกฎ เช่น การปรับเงินในอัตราสูง การแบนการเข้าประเทศ หรือแม้แต่การดำเนินคดีทางกฎหมาย หากพบว่ามีการกระทำที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า
มิติด้านสังคมออนไลน์ – เมื่อคอนเทนต์ “ขำ ๆ” กลายเป็นเรื่องร้ายแรง
สิ่งที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรายนี้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในฐานะ “คอนเทนต์ตลก” แต่เมื่อเข้าสู่โลกออนไลน์กลับถูกตีความว่าเป็น การละเมิดสิทธิของสัตว์ป่า และสร้างผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับที่เจ้าของคลิปตั้งใจ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสังคมออนไลน์ให้ความเห็นว่า กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของ “ความรับผิดชอบบนโซเชียลมีเดีย” เพราะสิ่งที่อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องตลก สามารถขยายผลกลายเป็นปัญหาสังคมระดับนานาชาติได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
บทสรุป
กรณีของนักท่องเที่ยวชาวสเปนที่เทเบียร์ใส่ช้างป่าในเคนยา ไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวโลกตกตะลึง แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน ที่บางครั้งเลือกสร้างคอนเทนต์แปลก ๆ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา
ขณะนี้ทางการเคนยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มกระบวนการสอบสวนแล้ว และหลายฝ่ายคาดหวังว่าจะมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันเหตุลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การตระหนักว่า สัตว์ป่าควรได้รับการเคารพและปกป้อง การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ควรมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การสร้างคอนเทนต์ที่นำมาซึ่งความเดือดร้อนและความเสียหายทั้งต่อสัตว์และต่อชุมชนท้องถิ่น





