เคลียร์ทุกข้อสงสัยเลเซอร์กำจัดขน
เคลียร์ทุกข้อสงสัยเลเซอร์กำจัดขน
เลเซอร์กำจัดขน เป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวพรรณที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต่างก็หันมาสนใจการทำเลเซอร์กำจัดขนมากขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะยาว หลายคนอาจสงสัยว่าเลเซอร์กำจัดขนคืออะไร ทำงานอย่างไร เจ็บหรือไม่ และต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล บทความนี้จะอธิบายแบบละเอียด ครอบคลุมทุกประเด็น ตั้งแต่หลักการทำงาน วงจรเส้นขน ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ข้อดีข้อเสีย วิธีเตรียมตัวก่อนทำ การดูแลหลังทำ ไปจนถึงคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เลเซอร์กำจัดขนคืออะไร?
เลเซอร์กำจัดขน คือ กระบวนการกำจัดขนโดยใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ เลเซอร์จะส่งพลังงานลงไปยังรากขนหรือรูขุมขน โดยพลังงานแสงนี้จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในเส้นขน แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำลายรากขน ทำให้เส้นขนหลุดออกไปและชะลอการเกิดขนใหม่ เมื่อทำเลเซอร์กำจัดขนต่อเนื่องจำนวนเส้นขนจะลดลง ขนที่งอกใหม่จะบางลงและอ่อนลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนในระยะยาว
หลักการทำงานของเลเซอร์กำจัดขน
เลเซอร์กำจัดขนทำงานโดยอาศัยหลักการ "Selective Photothermolysis" คือการเลือกทำลายเฉพาะจุดเป้าหมาย (ในที่นี้คือรากขน) โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง ความยาวคลื่นของเลเซอร์จะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการดูดซึมเม็ดสีเมลานินในเส้นขน เมื่อพลังงานเลเซอร์ถูกดูดซึม พลังงานจะเปลี่ยนเป็นความร้อนและทำให้เซลล์รากขนถูกทำลาย ส่งผลให้เส้นขนหลุดออกและไม่สามารถงอกใหม่ได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม การทำเลเซอร์กำจัดขนจำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้ง เนื่องจากเส้นขนในร่างกายไม่ได้อยู่ในระยะเดียวกันทั้งหมด บางเส้นอยู่ในระยะเจริญเติบโต บางเส้นอยู่ในระยะพักหรือระยะหลุดร่วง ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน จึงต้องเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอเป็นคอร์ส
วงจรชีวิตของเส้นขนและความสำคัญต่อเลเซอร์กำจัดขน
เส้นขนของมนุษย์มีวงจรชีวิตที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะเจริญเติบโต (Anagen Phase)
ระยะนี้เส้นขนจะเชื่อมติดกับรากขนอย่างแน่นหนา มีเม็ดสีเมลานินจำนวนมาก ทำให้เลเซอร์กำจัดขนได้ผลดีที่สุด เนื่องจากพลังงานสามารถส่งลงไปทำลายรากขนได้โดยตรง - ระยะเปลี่ยนผ่าน (Catagen Phase)
เป็นระยะสั้น ๆ ที่เส้นขนเริ่มแยกตัวออกจากรากขนและหยุดการเจริญเติบโต ทำให้เลเซอร์กำจัดขนได้ผลน้อยลง เนื่องจากเลเซอร์ไม่สามารถส่งพลังงานไปถึงรากขนเต็มที่ - ระยะพักหรือระยะฟักตัว (Telogen Phase)
เส้นขนอยู่เฉย ๆ ในรูขุมขนและรอที่จะหลุดร่วงออกไป เมื่อถึงเวลาจะเข้าสู่วงจรใหม่อีกครั้ง การทำเลเซอร์กำจัดขนในช่วงนี้จะได้ผลต่ำ เนื่องจากเส้นขนไม่ได้เชื่อมต่อกับรากอย่างแน่นหนา
การทำเลเซอร์กำจัดขนจึงต้องทำหลายครั้งเพื่อให้สามารถทำลายเส้นขนที่อยู่ในระยะ Anagen ได้มากที่สุด
ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ในการกำจัดขน
ปัจจุบันมีเครื่องเลเซอร์หลายชนิดที่ใช้ในการกำจัดขน แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ได้แก่:
- Ruby Laser (694 nm)
เป็นเลเซอร์รุ่นเก่าที่ให้ผลดีกับผู้ที่มีผิวขาวและขนสีเข้ม แต่ไม่เหมาะกับผิวคล้ำเพราะเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ - Alexandrite Laser (755 nm)
ได้รับความนิยมมาก เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวถึงผิวสองสี สามารถกำจัดขนได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้าง - Diode Laser (800–810 nm)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวเข้มและขนหนา ให้ผลลัพธ์ที่ดีและเป็นที่นิยมในหลายคลินิก - Nd:YAG Laser (1064 nm)
เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำหรือผิวสองสีเข้ม เนื่องจากมีความยาวคลื่นที่ทะลุลงลึกได้ดี ลดโอกาสการไหม้ของผิว - IPL (Intense Pulsed Light)
แม้ไม่ใช่เลเซอร์แท้ แต่ก็ถูกนำมาใช้กำจัดขน โดยใช้แสงหลายช่วงคลื่น ผลลัพธ์จะไม่เข้มข้นเท่าเลเซอร์ จึงต้องทำหลายครั้งมากกว่า
บริเวณยอดนิยมที่ทำเลเซอร์กำจัดขน
- รักแร้: เพื่อความมั่นใจและลดปัญหากลิ่นกาย
- แขนและขา: เพื่อให้ผิวเรียบเนียนสวยงาม เหมาะกับผู้ที่ใส่ชุดเปิดผิวบ่อย
- บิกินีไลน์และบราซิเลียน: ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสะอาด
- หนวดและคาง: ได้รับความนิยมในผู้ชายที่ไม่อยากโกนบ่อย ๆ ลดโอกาสเกิดขนคุด
- ก้นและร่องก้น: แม้ไม่ใช่จุดเปิดเผย แต่ก็มีผู้สนใจทำเพื่อความสะดวกและความสะอาด
ข้อดีของการทำเลเซอร์กำจัดขน
- ลดจำนวนและความหนาของเส้นขนในระยะยาว
- ลดปัญหาขนคุดและการระคายเคืองจากการโกนหรือถอน
- ผิวเรียบเนียนและดูสะอาดขึ้น
- ช่วยประหยัดเวลาในการดูแลขนซ้ำ ๆ
- เมื่อทำครบคอร์ส ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าวิธีอื่น
- ไม่เป็นอันตรายหากทำโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมาตรฐาน
เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีขนหนา ขนดก หรือมีปัญหาขนขึ้นไว
- ผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียนและลดรอยดำจากการโกน
- ผู้ที่มีปัญหาขนคุดและผิวอักเสบจากการถอน
- ผู้ที่ไม่ต้องการกำจัดขนบ่อย ๆ และมองหาวิธีที่ให้ผลลัพธ์ยาวนาน
- ผู้ที่สุขภาพผิวแข็งแรง ไม่มีภาวะผิวไวแสงหรือโรคผิวหนังรุนแรง
เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีขนอ่อนหรือขนสีอ่อนมาก
- ผู้ที่มีสีผิวเข้มมาก เสี่ยงต่อรอยไหม้
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังหรือแผลเปิดในบริเวณที่จะทำ
- ผู้ที่ใช้ยาหรือครีมที่เพิ่มความไวต่อแสง
- ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นนูนหรือรอยดำง่าย
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน
- งดถอนหรือแว็กซ์ก่อนทำอย่างน้อย 3–4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดหรืออาบแดดก่อนทำ 1–2 สัปดาห์
- หยุดใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้ วิตามินเอ หรือเรตินอล
- โกนขนก่อนทำประมาณ 24 ชั่วโมง
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิด
ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขน
- ปรึกษาและประเมินสภาพผิว
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำ
- โกนขนให้เรียบ
- ทาเจลหรือประคบเย็น
- ใส่แว่นตาป้องกันแสงเลเซอร์
- ยิงเลเซอร์กำจัดขนตามบริเวณที่ต้องการ
- ประคบเย็นและทาครีมลดการอักเสบ
- รับคำแนะนำการดูแลหลังทำ
การดูแลหลังทำเลเซอร์กำจัดขน
- ประคบเย็นหากมีอาการแดงหรือแสบร้อน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการขัดถูหรือเกาผิว
- งดถอนหรือแว็กซ์ซ้ำในช่วงที่เข้าคอร์ส
- ใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ผิวแดงหรือร้อนชั่วคราว
- อาการบวมรอบรูขุมขน
- ผิวแห้งหรือลอกเป็นขุย
- รอยดำหรือรอยแดงหากไม่หลีกเลี่ยงแดด
- ในบางกรณีอาจเกิดผิวไหม้หากเครื่องไม่มีมาตรฐาน
คำถามที่พบบ่อย
- เลเซอร์กำจัดขนเจ็บไหม? โดยทั่วไปจะรู้สึกเพียงแค่เหมือนหนังยางดีด หรืออุ่น ๆ บนผิวเท่านั้น ความรู้สึกนี้ขึ้นกับสภาพผิวและบริเวณที่ทำ แต่ไม่ใช่อาการเจ็บรุนแรง และสามารถใช้เจลเย็นช่วยลดความรู้สึกได้
- ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลชัดเจนหลังจากทำประมาณ 4–6 ครั้ง แต่จำนวนครั้งอาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นกับปริมาณขน ความหนาแน่น สีผิว และเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ บางรายอาจต้องทำต่อเนื่องมากกว่า 6–8 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน
- ถาวรจริงไหม? เลเซอร์กำจัดขนช่วยลดจำนวนเส้นขนและทำให้ขนขึ้นใหม่ช้าลงและบางลง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่ไม่สามารถรับรองว่าขนจะหายไปถาวรทั้งหมด โดยปกติแนะนำให้ทำซ้ำปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์
- ต่างจาก IPL อย่างไร? เลเซอร์เป็นแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงลงลึกถึงรากขนได้ตรงจุด จึงให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า ส่วน IPL เป็นแสงกว้างหลายช่วงคลื่น ทำให้ประสิทธิภาพน้อยกว่าและต้องทำหลายครั้งมากกว่า
- ผิวบางลงไหม? เลเซอร์กำจัดขนไม่ทำให้ผิวบางลง เพราะพลังงานเลเซอร์จะโฟกัสไปที่รากขนโดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง แต่หลังทำผิวอาจบอบบางชั่วคราว จึงควรดูแลด้วยการทาครีมบำรุงและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
- ทำให้ผิวขาวขึ้นไหม? เลเซอร์กำจัดขนไม่ได้ทำให้ผิวขาวโดยตรง แต่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดรอยดำจากการโกนหรือถอนบ่อย ๆ และอาจทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้นในระยะยาว
สรุป
เลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการลดจำนวนเส้นขนในระยะยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและผิวเรียบเนียน โดยแม้จะต้องทำซ้ำหลายครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากว่าการโกน ถอน หรือแว็กซ์ และหากทำกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐาน จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด










