ดราม่าร้อน! 'เก่ง ลายพราง' ตกที่นั่งลำบาก ตร.เล็ง 3 ข้อหาอนาจารนักร้องสาว
นักร้องสาวลูกทุ่งร้องเรียน ถูก “เก่ง ลายพราง” ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตำรวจเร่งรัดสอบสวนคดี
กรณีที่สร้างความสนใจอย่างกว้างขวางในวงการบันเทิงและสังคมออนไลน์ เมื่อ นักร้องสาวลูกทุ่งชื่อดัง เดินทางเข้าพบตำรวจเพื่อ ลงบันทึกประจำวัน หลังจากอ้างว่าเธอถูก นายปัญญา ยิ้มอำไพ หรือที่รู้จักในชื่อ “เก่ง ลายพราง” อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังชักชวนให้ไปที่บ้าน แต่เกิดเหตุการณ์ที่เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
ตามข้อมูลที่เปิดเผย เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากนักร้องสาวไป ทานข้าวกับนายเก่ง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยรัชดาซอย 7 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ในระหว่างที่อยู่บ้านของนายเก่ง นักร้องสาวมีท่าทีผิดปกติ และเกิดความหวาดกลัวว่าอาจได้รับอันตราย จึงตัดสินใจ หลบหนีออกจากบ้าน และนั่งแท็กซี่กลับที่พัก แต่ยังคงถูกนายเก่ง ติดตามไปถึงที่พัก จนเกิดเหตุการณ์ที่ ถูกทำร้ายร่างกายและทรัพย์สิน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง เช้ามืดวันที่ 6 กันยายน 2568 ซึ่งต่อมาเป็นข่าวที่ถูกนำเสนออย่างกว้างขวางในสื่อออนไลน์และสื่อข่าวต่าง ๆ
การดำเนินคดีและความคืบหน้าของตำรวจ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ต.อ. ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ได้เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ตำรวจได้ ประชุมพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเป็นระบบ
โดยขณะนี้ สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 2 ครั้ง และสำนวนคดีได้ข้อเท็จจริงราว 80-90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ จะต้องสอบเพิ่ม ทั้งนี้มีการนัดหมายให้ผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งติดตามพยานที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ เช่น
พนักงานร้านอาหาร
คนขับ Bolt ที่พาผู้เสียหายกลับที่พัก
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอนโด
พยานคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงช่วงเกิดเหตุ
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวเพิ่มเติมว่า จากพยานหลักฐานเบื้องต้น เหตุการณ์นี้อาจเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ได้แก่
1. บังคับ ขืนใจผู้อื่นให้กระทำหรือไม่กระทำการใด
2. หน่วงเหนี่ยวกักขัง
3. กระทำอนาจารผู้อื่น
สำหรับข้อหาอื่น ๆ เช่น ทำร้ายร่างกาย จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม รวมถึง การข่มขู่, อาวุธปืน และยาเสพติด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป หากพบความผิดชัดเจน ตำรวจจะเรียกนายเก่งมารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย
รายละเอียดเหตุการณ์ตามคำให้การผู้เสียหาย
นักร้องสาวให้การว่าหลังจากไปทานข้าวกับนายเก่งที่ร้านอาหารในซอยรัชดา 7 เธอถูกชักชวนให้ไปบ้านของเขา ซึ่งระหว่างอยู่ที่บ้าน มีท่าทีที่ทำให้เธอรู้สึก หวาดกลัวและไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีพฤติกรรมและคำพูดบางอย่างที่ผิดปกติ
เมื่อตระหนักถึงอันตราย เธอตัดสินใจ หลบหนีออกจากบ้าน และนั่งแท็กซี่กลับที่พักของตนเอง แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เนื่องจาก นายเก่งติดตามเธอไปยังที่พัก และได้กระทำการที่ส่งผลต่อร่างกายและทรัพย์สินของเธอ
พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่าย การทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ซึ่งตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยานเพื่อประกอบสำนวนคดี
การทำงานของตำรวจและแนวทางการสอบสวน
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน ของสน.ห้วยขวาง ได้ทำงานอย่างเข้มข้นเพื่อให้สำนวนคดีมีความสมบูรณ์และชัดเจนที่สุด ซึ่งรวมถึงการสอบปากคำพยานทุกฝ่ายที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งพนักงานร้านอาหาร, คนขับแท็กซี่, รปภ.คอนโด และพยานที่อยู่ในช่วงเวลาเกิดเหตุอื่น ๆ
เจ้าหน้าที่จะใช้ พยานหลักฐานและภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นข้อมูลสนับสนุนการสอบสวน เพื่อให้การดำเนินคดีมีความรัดกุม และสามารถ ออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ ตำรวจยังตรวจสอบข้อมูล อาวุธปืนและยาเสพติด หากพบหลักฐานชัดเจน ก็จะบรรจุในสำนวนคดีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จากข้อมูลเบื้องต้น พฤติกรรมของนายเก่ง อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เช่น
มาตรา 276/277 บังคับให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือไม่กระทำการใดโดยไม่ยินยอม
มาตรา 309 หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น
มาตรา 278/279 กระทำอนาจารต่อบุคคลอื่นโดยไม่ยินยอม
รวมถึง การข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาตามหลักฐานและพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ผลกระทบต่อผู้เสียหายและการป้องกัน
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงส่งผลต่อ ร่างกายและทรัพย์สิน ของนักร้องสาวเท่านั้น แต่ยังสร้างความ หวาดกลัวและกระทบต่อสภาพจิตใจ การเข้ารับคำปรึกษาทางกฎหมายและจิตวิทยาเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อฟื้นฟูความมั่นใจและความปลอดภัย
นอกจากนี้ เหตุการณ์ยังเป็น สัญญาณเตือนสังคม ให้ระมัดระวังการพบปะบุคคลที่ไม่รู้จักหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะนักบันเทิงและบุคคลสาธารณะ
การตอบสนองของสังคมและความสนใจสื่อ
หลังจากข่าวถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ประชาชนและแฟนคลับของนักร้องสาวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดี เพื่อความยุติธรรม
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคนกล่าวว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็น ความเสี่ยงต่อผู้หญิงในพื้นที่เมืองใหญ่ และควรมีมาตรการป้องกันอย่างจริงจัง เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด การตรวจสอบข้อมูลผู้ติดต่อ และการมีช่องทางแจ้งเหตุฉุกเฉิน
สรุป: การดำเนินคดีและสิทธิของผู้เสียหาย
กรณีนี้ถือเป็น คดีสำคัญเกี่ยวกับความรุนแรงต่อสตรีและผู้หญิงในวงการบันเทิง ซึ่งมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายข้อกฎหมาย
1. ผู้เสียหายเข้ารับคำปรึกษาและแจ้งความ เพื่อให้เกิดการดำเนินคดีตามกฎหมาย
2. ตำรวจสน.ห้วยขวาง ทำงานอย่างเข้มข้น รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำทุกฝ่าย
3. พยานและหลักฐาน เช่น พนักงานร้าน, คนขับแท็กซี่, รปภ. และภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นสิ่งสำคัญต่อสำนวนคดี
4. ผู้ต้องหาจะถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา หากหลักฐานเพียงพอตามกฎหมาย
สำหรับสังคมทั่วไป เหตุการณ์นี้เป็น บทเรียนสำคัญ ในการระมัดระวังความปลอดภัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะผู้ที่ต้องพบปะผู้คนจำนวนมากในชีวิตประจำวัน
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
งดจ้าง vs เลิกจ้าง ต่างกันยังไง? ไม่เข้าใจมีสิทธิ “พัง” แบบไม่รู้ตัว!
คฤหาสน์ 5 พันล้านของอดีตนางเอกดังกลายเป็น "รังแมลงสาบ" พร้อมเผยภาพสุดขนลุก
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
สัตว์กินพืชที่อันตรายที่สุด
นักท่องเที่ยวสวมแว่นอัจฉริยะ คุกคามโสเภณีไทย ก่อนนำคลิปไปเผยแพร่บนโซเชียล
หวยปีใหม่ 2568 — ส่องแนวทาง “เลขเด็ด” จากหลายสำนักดัง เคาะแล้ว!
เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลก
ถอดรหัสบุคลิกภาพสุดขั้ว: ทำความรู้จัก "ไซโคพาธ" จากกรณีศึกษาในซีรีส์ Mouse
คนถนัดซ้ายมี IQ สูงกว่าคนที่ถนัดขวา ทั้งยังมีพรสวรรค์5อย่างที่คนถนัดขวาเทียบไม่ติด
คฤหาสน์ 5 พันล้านของอดีตนางเอกดังกลายเป็น "รังแมลงสาบ" พร้อมเผยภาพสุดขนลุก
ด่วน จัดเริ่มแล้ว สันติภาพไม่มีอยู่จริง กัมพูชายิงก่อน กัมพูชายิงเครื่องยิงลูกระเบิดใส่ไทย พื้นที่ ช่องอานม้า
กองทัพลาวเสริมกำลังทหาร " ตามแนวชายแดนเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ปะทะกับกัมพูชา
ประชาชนช็อกเสียชีวิต 1 รายระหว่างรอการอพยพไปยัง ศูนย์พักพิง
เคยคลิปวีดีโอทหารกัมพูชาประกาศอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ชายแดน