ย้อยรอยคดีสะเทือนขวัญ "Amanda Todd" เด็กสาวที่เป็นเหยื่อของโซเชียลและการถูกบูลลี่ จนนำมาซึ่งการฆ่าตัวตายในที่สุด
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2012 เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญกับเด็กหญิงรายหนึ่ง ซึ่งก่อนการเสียชีวิตเธอได้โพสคลิปวีดีโอเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เธอกำลังเจอ ด้วยการเขียนบรรยายความรู้สึกต่างๆที่เธอเจอทั้งการโดนรังควานและบูลลี่เหยี่ยดหยาบเธอบนโลกออนไลน์ หลังจากนั้นเพียง 1 เดือนเธอก็เสียชีวิต
อแมนดา ท็อดด์ (Amanda Todd) เด็กสาวที่ในขณะนั้นอายุเพียง 13 ปี เกิดในบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนนาดา ขณะนั้นเธอกำลังศึกษาอยู่เกรด 7 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง อแมนดา ก็เหมือนเด็กสาวทั่วไปเธอร่าเริงสดใส เธอชอบร้องเล่นเต้นรำผ่านแชทวีดีโอบนโลกออนไลน์อยู่เป็นประจำ เธอชอบที่จะให้คนสนใจและยอมรับเธอเหมือนเด็กทั่วๆไปในขณะนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งมีผู้ชายหนึ่งแอดเธอเข้ามาเป็นเพื่อน ก่อนที่เขาจะหวานล้อมให้เธอโชว์หน้าอกของเธอ อแมนดา ไม่รู้ถึงผลที่จะตามมาหลังจากที่เธอถลกเสื้อขึ้นเปลือยหน้าอกตามที่ผู้ชายนั้นบอก ผู้ชายคนดังกล่าวก็ได้ทำการเซฟภาพเปลือยของเธอเอา และนี่คือจุดเริ่มต้นของฝันร้าย
อแมนดา ท็อดด์ ได้รับข้อความฉบับหนึ่งจากคนแปลกหน้าที่ส่งมาถึงเธอ มันคือจดหมายข่มขู่ที่มาพร้อมภาพเปลืองหน้าอกของเธอ เธอตกใจกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก อแมนดา เริ่มเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ผู้ชายคนดังกล่าวเริ่มข่มขู่ อแมนด้า หนักขึ้นเขารู้ทั้งที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัว โรงเรียน หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆของเธอ จนเรื่องราวของเธอเริ่มบานปลาย หลังผู้ชายคนดังกล่าวสวมรอยเป็นเธอผ่านเฟสบุ๊คพร้อมทั้งเผยแพร่ภาพของเธอให้เพื่อนๆในโรงเรียนได้รับรู้ จนเธอถูกมองว่าชอบเรียกร้องความสนใจ ถูกเพื่อนๆในโรงเรียนบูลลี่และกลั่นแกล้ง จนในที่สุดเธอต้องย้ายโรงเรียน
อแมนดา ท็อดด์ ยังคงถูกตามรังควานจากชายคนดังกล่าวไม่เลิก ถึงแม้เธอจะย้ายโรงเรียนแล้วก็ตาม เขายังคงทำเหมือนกับที่เคยทำ ทั้งข่มขู่และคุกคาม เธอโดนเพื่อนๆบูลลี่หนัก บางคนถึงขั้นตบตีเพราะคิดว่าเธอไปแย่งแฟน อแมนดา ถูกบูลลี่ล้อเลียน กลั้นแกล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีที่ในโรงเรียนให้เธอหนี ไม่มีที่ให้ซ่อนตัวบนโลกออนไลน์ อแมนดา ถูกชายแปลกหน้าข่มขู่คุกคามจนเธอเกิดความเครียด มิหม่ำซ้ำเธอยังถูกบูลลี่จากเพื่อนในโรงเรียน จนเธอไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว เธอต้องคอยหลบๆซ่อนๆ เพื่อหนีจากการถูกบูลลี่
ความเครียมและวิตกกังวลของเธอ เริ่มเพิ่มมากขึ้นจนเธอเริ่มทำร้ายตัวเอง ทั้งการกรีดข้อมือ การกินยาเกินขนาด จนครอบครัวต้องรีบพาเธอไปล้างท้องที่โรงพยาบาล หมอระบุว่าเธอป่วยเป็นโรคเครียดและซึมเศร้า ถึงแม้เธอทำขนาดนี้เพื่อนๆในโรงเรียนหลายๆคนก็ยังคงมองว่าเธอเรียกร้องความสนใจ บางคนยังแช่งให้เธอไปตายอีกด้วย เธอไม่เล่นโซเชียลอีกเลยและมักจะเก็บตัวอยู่คนเดียวจนเวลาผ่านไป
ในปี 2012 อแมนดา ท็อดด์ ในขณะนั้นเธอมีอายุ 15 ปี ก็ได้ตัดสินใจกลับมาเล่นโซเชียลอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่เศร้า บรรยากาศที่ดูหม่นหมอง พร้อมกับข้อความที่เขียนด้วยลายมือ บอกเล่าเรื่องราวที่เธอพบเจอมาตลอดเวลาหลายปี ที่สร้างความทุกข์ทรมาณให้กับเธอ และหลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือน อแมนดา ท็อดด์ ก็ได้เสียชีวิตลงจากการฆ่าตัวตาย
หลังการเสียชีวิตของ อแมนดา ท็อดด์ ครอบครัวของเธอไม่อยู่เฉยพวกเขาเดินหน้าตามล่าคนที่ทำร้ายลูกสาวของเขา แต่การจะหาตัวผู้กระทำผิดในโลกออนไลน์นั้นเป็นเรื่องที่ยากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แต่ในที่สุดก็มีคนแจ้งเบาะแสเฟสบุ๊คของคนร้าย ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำเร็จ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจากเฟสบุ๊คที่ติดต่อกับ อแมนดา หลังจากตำรวจแกะรอยอยู่นานก็ได้ทราบว่า เขาคือ เอดิน โคแบน เป็นคนเนเธอร์แลนด์ ที่ก่ออาญชกรรมประเภทนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ในหลายๆประเทศ
จากการสืบสวน เอดิน โคแบน (Aydin Coban) ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด เขายืนยันว่าไม่ได้กระทำการแบล็คเมลล์ อแมนดา ท็อดด์ ถึงอย่างนั้นหลักฐานในคดีอื่นๆของเขาก็ยังสามารถเอาผิดเขาได้และถูกจับกุมดำเนินคดีทันทีในเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนมายังแคนนาดาในเวลาต่อมา
ในปี 2565 ที่ผ่านมา เอดิน โคแบน จะถูกตัดสินจากศาลเขตบริติช โคลัมเบีย ประเทศ แคนนาดา ว่ามีความผิดทางกฎหมายอาญา ในคดีการครอบครองภาพถ่ายลามกอนาจารของผู้เยาว์ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ รวมคดีล่อล่วงผู้เยาว์ และคดีข่มขู่คุกคาม เอดิน โคแบน ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 13 ปี ถือเป็นการสิ้นสุดคดีของ อแมนดา ท็อดด์ หลังจากที่ครอบครัวของเธอต่อสู้กับคดีมาอย่างยาวนานจนผู้กระทำผิดถูกลงโทษในที่สุด
นี่คือเรื่องราวที่น่าเศร้าของ อแมนดา ท็อดด์ เด็กหญิงที่เป็นเหยื่อจากโลกโซเชียลและการบูลลี่ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับความโหดร้ายของโลกใบนี้ จนในที่สุดเธอตัดสินใจหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ถือเป็นบทเรียนในหลายๆเรื่องทั้งการเล่นโซเชียลอย่างมีสติ อย่าใช้คำพูดที่ต้องพึ่งระวังเพราะบางครั้งอาจทำให้ใครหลายคนต้องเจ็บเพราะมัน และผู้ปกครองที่ต้องคอยสอดส่องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายแบบเธอคนนี้ อแมนดา ท็อดด์

















