โซเชียลถล่ม! พนง.ทำร้ายเด็กเอ็นฯ อ้างคืนเงินไม่ครบ จุดชนวนรวมตัววุ่น
ดราม่าพัทยา! พนักงานโรงแรมกระชากผมเด็กเอ็นฯ อ้างคืนเงิน 1,000 บาท – ผู้เสียหายลั่น ลูกค้าไม่เคยร้องเรียน เตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด
เมื่อไม่นานมานี้ โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอและข้อความเล่าเหตุการณ์สุดฉาวที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวปรากฏให้เห็นภาพพนักงานโรงแรมกระชากศีรษะของหญิงสาวที่มาทำงาน เอนเตอร์เทน (เด็กเอ็นฯ) ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ สร้างความตกใจและสะเทือนใจแก่ผู้ที่ได้ชมคลิปอย่างมาก
ต้นเรื่องมาจากการที่หญิงสาวผู้เสียหายจำนวน 2 คน ได้รับการว่าจ้างให้ดูแลลูกค้าต่างชาติในงานเลี้ยงส่วนตัว คิดค่าบริการคนละ 1,000 บาทต่อชั่วโมง และเมื่อทำงานเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าก็ได้ชำระเงินค่าจ้างครบถ้วน ไม่ได้มีการต่อรองหรือติดใจใด ๆ
แต่เมื่อทั้งสองกำลังจะออกจากโรงแรม กลับถูกพนักงานขัดขวางไม่ให้เดินออกตามปกติ พร้อมกับอ้างว่าจะต้องคืนเงิน 1,000 บาทให้กับลูกค้า และในจังหวะชุลมุนก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น พนักงานคนหนึ่งได้ใช้มือกระชากศีรษะของผู้เสียหายอย่างรุนแรง จนผู้ถูกทำร้ายร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
คำบอกเล่าจากผู้เสียหาย – “ลูกค้าไม่เคยท้วงติง แต่กลับถูกทำร้าย”
หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทีมข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับหญิงสาวทั้ง 2 คนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ โดยทั้งคู่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกันว่า
วันเกิดเหตุมีการตกลงค่าจ้างกับลูกค้าชาวต่างชาติชัดเจน ชั่วโมงละ 1,000 บาทต่อคน
หลังจบงาน ลูกค้าก็จ่ายเงินตรงตามจำนวน ไม่มีการต่อรองหรือขอเงินคืน
แต่เมื่อกำลังจะออกจากโรงแรม กลับถูกพนักงานโรงแรมขวางทาง และอ้างว่าจะนำเงิน 1,000 บาทไปคืนให้ลูกค้า
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ ขณะโต้เถียงกัน พนักงานโรงแรมได้กระชากศีรษะของพวกเธออย่างรุนแรง จนเจ็บปวดและต้องร้องเสียงดัง
ผู้เสียหายยังย้ำว่า ลูกค้าไม่ได้มีการเรียกร้องใด ๆ การที่พนักงานอ้างว่าเงินต้องถูกส่งคืนให้ลูกค้าเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริง
คลิปวิดีโอที่กลายเป็นหลักฐานสำคัญ
เจ้าของโพสต์ได้แนบคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ด้วย ภาพในคลิปชัดเจนว่ามีการกระชากศีรษะจริง ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในสถานที่สาธารณะอย่างโรงแรม ซึ่งควรจะเป็นสถานที่ที่ดูแลลูกค้าและผู้มาใช้บริการอย่างปลอดภัย
ในคลิปยังได้ยินเสียงผู้เสียหายร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดว่า
“เจ็บ!”
“เลือดออกแล้ว!”
“ปล่อยเถอะ เจ็บจริง ๆ”
เสียงร้องเหล่านี้ทำให้ผู้ที่ได้ดูคลิปถึงกับสะเทือนใจและไม่พอใจกับการกระทำของพนักงานโรงแรมอย่างรุนแรง
ความคืบหน้าทางกฎหมาย – เดินหน้าเอาผิดให้ถึงที่สุด
จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 รายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อขอความเป็นธรรม และยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับพนักงานโรงแรมผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นตำรวจได้รับเรื่องไว้ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยมีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ตอกย้ำข้อเท็จจริงว่ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นจริง
กระแสสังคม – เสียงวิจารณ์ร้อนแรง
หลังคลิปเหตุการณ์แพร่สะพัดบนโซเชียล ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของพนักงานโรงแรม
หลายความเห็นระบุว่า
“ต่อให้มีปัญหาเรื่องเงิน ก็ควรไปจัดการกันด้วยกฎหมายหรือแจ้งตำรวจ ไม่ใช่มาทำร้ายร่างกายแบบนี้”
“โรงแรมควรอบรมพนักงานใหม่ทั้งหมด การกระทำแบบนี้ทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย”
“ผู้หญิงทำงานหาเงินสุจริต ถึงจะเป็นงานเอนฯ ก็ไม่ควรถูกทำร้าย”
ในขณะที่บางส่วนก็ตั้งคำถามว่า เหตุใดโรงแรมจึงปล่อยให้พนักงานใช้ความรุนแรงต่อแขกที่เข้ามาใช้บริการ เพราะนี่ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนบุคคล แต่ยังเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการให้บริการของสถานประกอบการโดยตรง
ประเด็นที่สังคมควรถกเถียง
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงหลายประเด็นที่ควรนำมาพิจารณาและถกเถียงกันในสังคม ได้แก่
1. สิทธิของแรงงานในอาชีพเอนเตอร์เทน
แม้จะเป็นอาชีพที่มักถูกมองว่าอยู่ในพื้นที่สีเทา แต่แรงงานเหล่านี้ก็เป็นมนุษย์ที่ควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่ควรถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
2. มาตรฐานการให้บริการของโรงแรม
โรงแรมควรเป็นสถานที่ที่ลูกค้าและผู้ใช้บริการรู้สึกปลอดภัย การที่พนักงานเลือกใช้ความรุนแรงเช่นนี้ถือว่าทำลายความน่าเชื่อถือของสถานประกอบการโดยตรง
3. การจัดการปัญหาข้อพิพาท
หากมีปัญหาการเงินหรือความเข้าใจผิดระหว่างลูกค้ากับผู้ให้บริการ โรงแรมควรมีระบบที่เหมาะสมในการแก้ไข เช่น การใช้สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่ปล่อยให้พนักงานตัดสินใจเองจนเกิดเหตุการณ์รุนแรง
การกระชากผมและใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่นถือเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เรื่องการทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นการที่ผู้เสียหายเดินหน้าดำเนินคดีจึงมีความชอบธรรม และยังเป็นการเรียกร้องสิทธิที่ตนเองควรได้รับตามกฎหมาย
บทสรุป
เหตุการณ์ พนักงานโรงแรมกระชากผมเด็กเอ็นฯ ที่พัทยา กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำคัญของสังคมไทยในเรื่องสิทธิของแรงงานและมาตรฐานการบริการในสถานประกอบการ การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของปัญหา และไม่ว่าใครก็ตามย่อมไม่ควรถูกทำร้ายร่างกาย
ปัจจุบันผู้เสียหายยืนยันว่าจะเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อเอาผิดกับพนักงานโรงแรมให้ถึงที่สุด ขณะที่สังคมยังคงจับตาและเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
เมื่อการแพทย์พบศิลปะ หมอญี่ปุ่นชื่นชมความถูกต้องของเส้นเลือดบนรูปปั้นโบราณ
3 เส้นทางถนน ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย
สิบเลขขายดี แม่จำเนียร งวด 16/9/68
เลขเด็ด TikTok วันนี้รวย! หวยงวด 16 กันยายน 68..รีบส่องด่วน!!!
ภูมะเขือ ก่อนและหลังปรับปรุง
ชีวิตที่ไร้ค่า หนุ่มมาเลย์เผยเรื่องราวสุดเศร้า หลังกลายเป็นเศรษฐี แต่ต้องสูญเสียครอบครัวทั้งหมด
นักเทนนิสมืออาชีพชาวไทย ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล
หญิงดวงซวย โดนงูกัดปากกลางงานแต่ง
ยิงดับกลางสวนปาล์ม คลองท่อม กระบี่! หนุ่ม 38 ปีถูกยิง 2 นัด
มาแล้ว! เปิด 10 อันดับเลขเด็ดขายดี งวดวันที่ 16 กันยายน 68..ส่องเลย วันนี้รวย!!
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 16/09/68 วันที่มีฝนพรำๆเล็กน้อยตั้งแต่หัววัน
หญิงสูงอายุเสียชีวิต หลังพลาดเหยียบกรดอันตรายที่ถูกทิ้งไว้
ตุ๊กตาหลอกผี : ตำนานความเชื่อเรื่องสุขภาพ
การสื่อสารผ่านเสียงดนตรี ครั้งแรกที่ได้เห็น ตำนานแขกเป่าปี่
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 15/09/68
หญิงดวงซวย โดนงูกัดปากกลางงานแต่ง
“ย้อนตำนานหนุ่มรองเท้าแดง” ผู้เข้าประกวดร้องเพลงสยามกลการ ปี 2527 คว้ารางวัลนักร้องดีเด่นเพลงไทยสากล
เมื่อการแพทย์พบศิลปะ หมอญี่ปุ่นชื่นชมความถูกต้องของเส้นเลือดบนรูปปั้นโบราณ







