ครูถูกถอดใบประกอบวิชาชีพ 15 ปี หลังโทรคุยกับนร.คนเดียว 1 พันครั้ง
ครูโรงเรียนมัธยมปลาย [ซึ่งทางจังหวัดไม่เปิดเผยชื่อ และ เขตการศึกษา เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของนักเรียน] ในบริติชโคลัมเบีย ถูกห้ามสอนเป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี ได้ละเมิดตำแหน่งหน้าที่และความไว้วางใจ และ เอาเปรียบนักเรียนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยการส่งข้อความส่วนตัวหลายร้อยครั้ง และ โทรศัพท์หลายพันครั้ง ถึงนักเรียนหญิงเพียงคนเดียว...
คณะกรรมการโรงเรียน รายงานพฤติกรรมของครู ต่อคณะกรรมาธิการจังหวัด หลังจากค้นพบว่าครูและนักเรียน ได้ส่งข้อความหากันไปมาเกือบ 200 ข้อความ [ตีคนละ 100 ข้อความ] ในช่วงระยะเวลา 3 สัปดาห์ โดยใช้แพลตฟอร์มการส่งข้อความของโรงเรียน
หน่วยงานกำกับดูแล กล่าวว่า "ข้อความส่วนใหญ่ถูกส่ง ระหว่างเวลา 20.00 น. ถึงเที่ยงคืน" และ "เนื้อหาของข้อความ มีทั้งการชมเชยรูปลักษณ์ของกันและกัน ซึ่งมีการแทะโลมกันบ้างเล็กน้อย..."
คณะกรรมาธิการจังหวัด กล่าวว่า "ในช่วง 16 เดือนต่อจากนั้น มีการโทรติดต่อระหว่างกันมากกว่า 1,000 สาย โดยหลายสายใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง..." และ "เมื่อเราเรียกพวกเขามาสอบสวน พวกเขาก็เอาแต่ปฏิเสธ ทั้งๆที่เรามีหลักฐานกองอยู่ตรงหน้า!!"
หลังจากนั้น คณะกรรมาธิการจังหวัด ได้เพิกถอนใบรับรองครู ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติครู ที่อนุญาตให้คณะกรรมการเพิกถอนใบรับรองครูได้ ก่อนการพิจารณาคดีเต็มรูปแบบ หากคณะกรรมการตัดสินใจว่านักเรียน มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายทางร่างกาย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือ ถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศ หรือ ได้รับอันตรายทางอารมณ์อย่างร้ายแรง...
ต่อมาครูและคณะกรรมาธิการ ได้บรรลุข้อตกลงยอมความ โดยครูยอมรับว่า "การกระทำของตนถือเป็นการประพฤติมิชอบ ในวิชาชีพและละเมิดมาตรฐานวิชาชีพ" ซึ่งครูยินยอมที่จะเพิกถอนใบรับรองการสอนของตนโดยสมบูรณ์ และ ยินยอมที่จะไม่สมัครใหม่อีกเป็นเวลา 15 ปี
คณะกรรมาธิการจังหวัด กล่าวเสริมว่า "การประพฤติของครูคนดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดพันธกรณีอย่างร้ายแรง ต่อนักเรียนและสาธารณชน ครูกระทำการโดยไม่สุจริต และ ไม่ธำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือ และ ชื่อเสียงของวิชาชีพครู"


















