สุดช็อก! “ชายต๊องหญิงเพี้ยน” เซ็กซ์ครีเอเตอร์ชื่อดัง นอนคุก 6 ปี แม่ยืนยันเอง
กรณีที่กำลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เวลานี้ คือการเคลื่อนไหวล่าสุดจากเพจเฟซบุ๊กของ "ชายต้องหญิงเพี้ยน" หรือชื่อจริงว่า ชัยทอง ยิ่งเพียร เซ็กซ์ครีเอเตอร์คนดัง ซึ่งก่อนหน้านี้หายไปจากการอัปเดตตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัว ล่าสุดเรื่องราวก็ได้รับการเปิดเผยจากบุคคลที่ระบุว่าเป็นแม่ของชายต้อง โดยโพสต์ข้อความว่า ตอนนี้ลูกชายติดคุกอยู่ที่เรือนจำธัญบุรี ต้องโทษจำคุก 6 ปี และกำลังรอผลอุทธรณ์ หากใครอยากเข้าเยี่ยมสามารถติดต่อเข้ามาได้
การเปิดเผยครั้งนี้สร้างความสนใจในโลกโซเชียลอย่างมาก เนื่องจากชายต้องหญิงเพี้ยนถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในแวดวงเซ็กซ์ครีเอเตอร์ ที่มักสร้างคอนเทนต์ที่เป็นที่พูดถึงและมีผู้ติดตามจำนวนไม่น้อย แต่ทว่าความโด่งดังดังกล่าวกลับต้องหยุดชะงักลงเมื่อเกิดคดีสะเทือนสังคม ซึ่งสืบเนื่องจากการปฏิบัติการใหญ่ของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ร่วมมือกันบุกจับกุม
ปฏิบัติการบุกจับเมื่อเดือนมกราคม 2567
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษจากกรมการปกครอง ได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ตำรวจไซเบอร์" พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และมูลนิธิอิมมานูเอล (IMF) นำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุดสำคัญ
จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือชายต้องหญิงเพี้ยน โดยการจับกุมครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนำเด็กสาวอายุเพียง 16 ปีมาร่วมประเวณีโดยไม่ปิดบังใบหน้า และทำการบันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ก่อนจะนำไปเผยแพร่ในกลุ่มลับบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Twitter และ OnlyFans เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์
การกระทำที่เข้าข่ายสื่อลามกเด็ก
สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมมากที่สุด คือการที่เด็กผู้เสียหายไม่ได้รับรู้เลยว่าภาพและคลิปของตนถูกนำไปขายในโลกออนไลน์ เด็กหญิงวัยเพียง 16 ปีรายนี้ต่อมาจึงเข้าแจ้งความ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีกลุ่มเพื่อนของตนที่ถูกชักจูงให้ทำในลักษณะเดียวกันอีกหลายคน นำไปสู่การขยายผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่
กรณีนี้ไม่เพียงแต่เป็นคดีลามกอนาจารเด็ก แต่ยังโยงไปถึงปัญหาสังคมที่ใหญ่กว่านั้น ทั้งในแง่ของการละเมิดสิทธิเด็ก การค้ามนุษย์ และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างมากในการปราบปรามการกระทำผิดในลักษณะนี้ โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลกำไรจากเด็กและเยาวชน
ความเคลื่อนไหวจากครอบครัว
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาเกือบหนึ่งปี เพจส่วนตัวของชายต้องหญิงเพี้ยนก็ได้มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยเป็นการโพสต์จากแม่ของเขาเอง ซึ่งระบุข้อความว่า "ชายต้องติดคุกอยู่ตอนนี้ เรือนจำธัญบุรี ใครอยากเยี่ยมให้ส่งข้อความมานะคะ" พร้อมทั้งเขียนย้ำว่า ขณะนี้ชายต้องถูกตัดสินจำคุก 6 ปี แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการรอผลอุทธรณ์
ข้อความนี้นอกจากจะทำให้ผู้ติดตามจำนวนหนึ่งเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรม และบทบาทของครอบครัวที่ยังคงออกมาปกป้องและให้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกชาย แม้ว่าคดีจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่สังคมไม่อาจยอมรับได้ก็ตาม
กระแสสังคมและผลกระทบต่อภาพลักษณ์
การที่เซ็กซ์ครีเอเตอร์คนดังอย่างชายต้องหญิงเพี้ยนถูกดำเนินคดี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงความเปราะบางของการสร้างชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ ที่อาจจะนำพาทั้งโอกาสและปัญหามาสู่เจ้าของคอนเทนต์ได้ในเวลาเดียวกัน ในกรณีนี้ความรุนแรงของคดีไม่ได้เพียงแต่กระทบต่อเจ้าตัว แต่ยังทำให้ผู้ติดตามและบุคคลในครอบครัวต้องเผชิญแรงกดดันจากสังคมด้วย
สังคมออนไลน์ได้มีการถกเถียงกันถึงประเด็นความเหมาะสมของการสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ โดยเฉพาะเมื่อมีการละเมิดสิทธิและนำเด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง หลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจให้อภัยได้ และต้องมีบทลงโทษที่เด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดกรณีซ้ำรอยในอนาคต ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย และการคุ้มครองเด็กในสังคมไทยว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่
บทเรียนจากคดีชายต้องหญิงเพี้ยน
คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงหลายประเด็นสำคัญที่สังคมควรตระหนัก ได้แก่
1. สิทธิเด็กและการคุ้มครองเยาวชน – เด็กที่ตกเป็นเหยื่อควรได้รับการปกป้องอย่างจริงจัง และไม่ถูกซ้ำเติมจากการเผยแพร่ข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
2. บทบาทของแพลตฟอร์มออนไลน์ – Twitter, OnlyFans และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบและลบเนื้อหาที่เข้าข่ายสื่อลามกเด็กอย่างเร่งด่วน
3. ความรับผิดชอบของผู้สร้างคอนเทนต์ – แม้ว่าจะมีเสรีภาพในการสร้างคอนเทนต์ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายและศีลธรรมสังคม
4. การบังคับใช้กฎหมายและความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง – การจับกุมในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าหากมีการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ก็สามารถปิดช่องทางของผู้กระทำผิดได้
สรุป
การที่เพจเฟซบุ๊กของชายต้องหญิงเพี้ยนกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยเผยว่าตอนนี้เจ้าตัวติดคุกอยู่ที่เรือนจำธัญบุรี โทษจำคุก 6 ปี และรอผลอุทธรณ์ นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ เพราะไม่เพียงแต่ยืนยันสถานะปัจจุบันของเจ้าตัว แต่ยังตอกย้ำถึงผลลัพธ์จากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลให้ชีวิตและชื่อเสียงที่เคยสั่งสมมาต้องพังทลายลง
คดีนี้ไม่เพียงแต่เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการเซ็กซ์ครีเอเตอร์ แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับสังคมโดยรวมว่า การละเมิดสิทธิเด็กและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างผิดกฎหมาย ย่อมมีผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในเชิงกฎหมายและในเชิงศีลธรรม

















