รีวิวหนังดัง A CURE FOR WELLNESS ชีพอมตะ
ผลงานสุดหลอนแหวกแนวโดย Gore Verbinski ว่าด้วยเรื่องของคนทำงานประจำในตำแหน่งบริหารชั้นสูง ที่นอกจากร่างกายจะไม่เอื้อต่อการทำงานแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่เป็นโรคร้าย นั่นคือ ความชั่วร้ายของมนุษย์ มันจึงต้องมีการรักษา (Cure) เพื่อสุขภาพที่ดี (Wellness) อย่างตรงจุด
เรื่องย่อ
Lockhart ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงถูกคณะกรรมการบริหารบังคับให้เชิญตัว Roland E. Pembrock กลับมาทำงานให้ได้ เพื่อเซ็นสัญญาการควบรวมบริษัท หากปฏิเสธไม่เดินทาง เขาจะถูกแฉเรื่องการฟอกเงินทุจริตงบของบริษัท
Lockhart จำใจเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ โดย Roland รักษาตัวที่สถานพยาบาลลึกลับบนภูเขาสูง บรรยากาศดี แต่ผู้คนน่าหวาดระแวง ภายในนั้นเหมือนบ้านพักคนชราที่ต้องการรักษาตัวให้สุขภาพกลับมาดี
Lockhart พยายามขอพบ Roland แต่ไม่เป็นผล เพราะหมดเวลาเยี่ยมแล้ว เขาทำอะไรไม่ได้จนต้องกลับโรงแรมไปก่อน ระหว่างทางเกิดมีกวางวิ่งตัดหน้ารถ ทำให้รถพลิกคว่ำ Lockhart ขาหักจนต้องเป็นคนไข้ในสถานพยาบาลนั้นเสียเอง
ที่นั่นเขาได้พบกับสาวหน้าเจื่อนรูปร่างสูงโปร่งอย่าง Hannah และมีหมอ Volmer เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ที่มักเกลี้ยกล่อมให้ทำทุกอย่างที่ตนเสนอเพื่อการมีสุขภาพที่ดี สิ่งนี้สะกิดใจ Lockhart ให้ชวนสงสัย
เขาพบว่าที่นี่พยายามทำให้คนไข้รู้สึกป่วย เพื่อจะได้กลั่นน้ำจากร่างกาย สกัดเป็นยาอายุวัฒนะให้กับพวกหมอและพยาบาลเพื่อจะได้มีชีวิตเป็นอมตะ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่เข้ามาในสถานพยาบาลแห่งนี้แล้วไม่เคยกลับออกไปอีกเลย
และความจริงก็ปรากฏ หมอ Volmer คือบารอนในตำนานที่พยายามหาทางให้ตนเป็นอมตะและเอาน้องสาวตัวเองมาเป็นเมีย เพื่อหวังจะได้ทายาทที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ น้องสาวคนนั้นคือ Hannah นั่นเอง
ความสนุกความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์
1.เสน่ห์ของเรื่องนี้คือความหลอนแบบที่ไม่ต้องมีผี บางครั้งสังคมกับมนุษย์นี่แหละที่น่ากลัว และยกระดับไปอีกขั้น เมื่อ Lockhart ไม่ได้เผชิญหน้ากับแค่มนุษย์ นี่ถือเป็นการหักมุมชั้นดีอย่างมีที่มาที่ไปชัดเจน ไม่ได้มั่วหรือยกเมฆลอยๆขึ้นมาเอง หนังวางบริบทอย่างรอบคอบตั้งแต่องค์แรกของเรื่องเลยทีเดียว
2.ความเจ็บป่วย โรคร้าย หนังไม่ได้นิยามแค่เรื่องของสุขภาพ แต่กล่าวถึงความหลงผิดในอำนาจที่ไปถึงขั้นยอมทำร้ายคน ยอมเสี่ยงที่จะทำทุกอย่าง เบียดเบียนทุกคนเพื่อพาตัวเองให้อยู่เหนือกว่า สุดท้ายมันจะมีเหตุให้ต้องพบหายนะในภายหลัง สิ่งนี้หนังถ่ายทอดแบบคลุมเครือ ตั้งใจจะให้มันดูหลอน เป็นส่วนองค์ประกอบย่อย ไม่ใช่แก่นเรื่องหลัก แต่ก็นับว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
3.ความโหด ความร้ายกาจของคนก็น่ากลัวไม่แพ้กัน สำหรับคนที่เคยทำงานประจำเปลี่ยนผ่านมาหลายงานจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี สำหรับพระเอกอย่าง Lockhart ว่าไม่ยอมคนแล้ว คนอื่นยังร้ายกาจกว่า ด้วยสถานะที่เหนือกว่า ทั้งคนในบริษัทและหมออย่าง Volmer และสิ่งที่กระทำต่อกันนั้นรุนแรงไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงบางฉาก ไม่ได้น่าเกลียดจนสะอิดสะเอียนขนาดนั้น
4.จุดอ่อนของเรื่องคือจังหวะ pacing ที่ช้าไปหน่อย อืดไปบ้าง แต่ก็เพื่อให้เรารู้สึกหลอนไปกับบรรยากาศที่น่าเคลือบแคลงและบุคลากรพยาบาลที่โคตรไม่น่าไว้ใจ ถือเป็นการดำเนินเรื่องอย่างมีเป้าประสงค์
5.โดยรวมแล้วคนที่ชอบหนังแนวลึกลับปนสยองขวัญ ชวนให้บรรยากาศแบบหลอนๆ หนังเรื่องนี้เหมาะมาก ให้ทั้งความบันเทิงและความประหลาดใจได้หลายครั้ง โชคไม่ดีที่ตอนฉายโรงสร้างความสับสนให้คนดูไม่แน่ใจว่ามันคือหนังแนวไหนกันแน่ มันลึกลับซะจนไม่รู้ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร แถมชื่อภาษาไทยก็มาแปลกๆ"ชีพอมตะ" หนังจึงล้มเหลวในแง่รายได้ ทั้งที่หนังสนุกไม่น้อยเลย















