เปิดประวัติ “ชายต๊อง หญิงเพี้ยน” เซ็กซ์ครีเอเตอร์ชื่อดัง คนตามเป็นล้าน ก่อนถูกจับ
เปิดประวัติ “ชายต๊อง หญิงเพี้ยน” จากเซ็กส์ครีเอเตอร์ดังสู่คดีสะเทือนวงการคอนเทนต์ 18+ ไทย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “Sex Creator” หรือ “เซ็กส์ครีเอเตอร์” กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมไทยพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังการมาของแพลตฟอร์ม OnlyFans ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์เรท 18+ ด้วยตนเองโดยไม่ต้องผ่านค่ายหรือบริษัทใหญ่ ๆ เหมือนในอดีต และหนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างมากในประเทศไทยก็คือ “ชายต๊อง” และ “หญิงเพี้ยน” คู่รักผู้บุกเบิกเส้นทางคอนเทนต์สายวาบหวิว ที่สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศ
แต่เส้นทางของทั้งคู่กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อจากจุดเริ่มต้นที่ถูกมองว่าเป็น “ผู้กล้า” เปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ เรื่องเพศศึกษาในสังคมไทย กลับค่อย ๆ กลายเป็นกรณีตัวอย่างด้านความเสี่ยง อุปสรรค และปัญหาทางกฎหมายที่ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงไม่รู้จบ จนในที่สุดก็นำไปสู่การถูกจับกุมในข้อหาร้ายแรงที่สั่นสะเทือนทั้งวงการ
จุดเริ่มต้นของ “ชายต๊อง หญิงเพี้ยน”
หากย้อนกลับไปในช่วงแรก “ชายต๊อง” และ “หญิงเพี้ยน” ไม่ได้มีใครรู้จักชื่อจริงหรือประวัติส่วนตัวของพวกเขาเลย เพราะทั้งคู่เลือกที่จะใช้เพียงชื่อเล่นและบุคลิกที่สร้างขึ้นบนโลกออนไลน์เพื่อทำคอนเทนต์ 18+ โดยตั้งใจจะปกปิดตัวตนที่แท้จริง เนื่องจากในประเทศไทย “อาชีพเซ็กส์ครีเอเตอร์” ยังไม่ถูกยอมรับและยังไม่มีกรอบกฎหมายรองรับ
ทั้งคู่เริ่มต้นจากการโพสต์คลิปและคอนเทนต์แนวโรแมนติกปนเร่าร้อนในมุมมองของ “คู่รักธรรมดา” บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Pornhub และ Twitter โดยพยายามนำเสนอภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากหนังผู้ใหญ่แบบดั้งเดิมที่ผู้คนคุ้นเคย คอนเซปต์ของพวกเขาคือ “ความรัก ความติงต๊อง และความเพี้ยน” ที่ผสมผสานกับเซ็กส์ เพื่อให้แฟนคลับรู้สึกว่าเรื่องเพศไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่เป็นเรื่องธรรมชาติที่คู่รักทุกคู่สามารถพูดถึงและแสดงออกได้
คอนเทนต์ของพวกเขาได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมวัยรุ่นและวัยทำงานที่มองว่าเป็นการ “ฉีกกรอบ” การพูดเรื่องเพศในสังคมไทย ซึ่งปกติแล้วมักถูกตีกรอบด้วยศีลธรรม ศาสนา และค่านิยมดั้งเดิม
เส้นทางสู่ความโด่งดังบน OnlyFans
หลังจาก Pornhub กลายเป็นช่องทางสร้างชื่อ “ชายต๊อง” และ “หญิงเพี้ยน” ก็ก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์ม OnlyFans ซึ่งกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยรูปแบบการสมัครสมาชิกที่เปิดให้แฟนคลับจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษ ทั้งคลิปวิดีโอ ภาพถ่าย และการไลฟ์สดแบบเป็นกันเอง
รายได้จาก OnlyFans ถือว่ามีมูลค่าสูงและสร้างความมั่นคงให้กับหลายคนทั่วโลก รวมถึงคู่รักคู่นี้ด้วย พวกเขาสามารถดึงดูดสมาชิกได้เป็นจำนวนมาก จนชื่อเสียงขยายไปไกลเกินกว่าขอบเขตของประเทศไทย บางคลิปถูกแชร์ต่อในกลุ่มต่างประเทศ และถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “คู่รักเอเชีย” ที่น่าจับตามอง
อย่างไรก็ตาม การทำงานในสายนี้ก็ไม่ได้ง่ายดาย เพราะมีปัญหาสำคัญคือ การละเมิดลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ที่ถูกนำไปเผยแพร่ต่ออย่างผิดกฎหมาย รวมถึงการถูกกดดันจากกระแสสังคมไทยที่ยังไม่เปิดกว้างต่อเรื่องเพศอย่างแท้จริง ทำให้พวกเขาต้องเผชิญทั้งการถูกวิพากษ์วิจารณ์ และการเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีอยู่เสมอ
มายาคติและข้อถกเถียงในสังคมไทย
แม้จะมีแฟนคลับจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคอนเทนต์แนวนี้ยังคงถูกตั้งคำถามอย่างหนักในสังคมไทย หลายฝ่ายมองว่าการทำคอนเทนต์ 18+ เป็นการ ขัดต่อศีลธรรมและศาสนา อีกทั้งยัง ผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับธุรกิจสื่อผู้ใหญ่เหมือนในบางประเทศตะวันตก
ประเด็นนี้ทำให้ “ชายต๊อง” และ “หญิงเพี้ยน” กลายเป็นตัวอย่างของ “เส้นบาง ๆ ระหว่างเสรีภาพกับกฎหมาย” เพราะแม้พวกเขาจะมองว่าเป็นการแสดงออกเชิงศิลปะและการสร้างรายได้อย่างสุจริต แต่ในสายตาของกฎหมายไทย นี่คือการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ซึ่งมีโทษทางอาญา
ความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์
เวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้มั่นคงเหมือนเดิม ในที่สุดก็มีข่าวออกมาว่า “ชายต๊อง” ได้เลิกรากับ “หญิงเพี้ยน” โดยหลังจากนั้นบัญชีและคอนเทนต์ที่เคยทำร่วมกันก็เหลือเพียง “ชายต้อง” ที่เดินหน้าสร้างผลงานต่อไป
แต่การทำงานเพียงลำพังกลับนำพาเขาไปสู่ความเสี่ยงมากขึ้น เพราะเขาเริ่มหันไปคอลแลปกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ในวงการ และหนึ่งในนั้นนำมาซึ่งคดีความที่ร้ายแรงที่สุด
คดีสะเทือนวงการ : เพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์
เหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดเผยว่า “ชายต๊อง” ได้มีเพศสัมพันธ์และผลิตสื่อกับ เด็กหญิงอายุ 16 ปี ก่อนจะนำไปเผยแพร่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้ง Twitter, Line และ OnlyFans
วันที่ 19 มกราคม 2567 กรมการปกครองร่วมกับตำรวจไซเบอร์และอีกหลายหน่วยงาน ได้เข้าจับกุม “ชายต๊อง” ที่บ้านพัก พร้อมกับเซ็กส์ครีเอเตอร์อีก 3 คนในปฏิบัติการเดียวกัน
เขาถูกตั้งข้อหา 5 กระทงใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและเผยแพร่ สื่อลามกเด็ก (Child Pornography) รวมถึงข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความผิดร้ายแรงที่มีโทษสูงสุดทั้งจำคุกระยะยาวและค่าปรับจำนวนมาก
ผลสะเทือนต่อวงการเซ็กส์ครีเอเตอร์ไทย
การจับกุมครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการ เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดโปงความเสี่ยงของการทำงานในสายนี้แล้ว ยังทำให้สังคมตั้งคำถามอย่างจริงจังว่า ประเทศไทยควรจะเดินหน้าไปในทิศทางใดกับเรื่อง Sex Work และ คอนเทนต์ 18+
บางฝ่ายมองว่า หากยังคงปล่อยให้คอนเทนต์เหล่านี้อยู่ในเงามืด ผลลัพธ์ย่อมเต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก การละเมิดลิขสิทธิ์ หรือแม้กระทั่งการค้ามนุษย์ ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่า การทำให้ถูกกฎหมายและมีมาตรการคุ้มครองผู้ทำงานในสายนี้ อาจเป็นวิธีที่ดีกว่าในการควบคุมและป้องกันปัญหา
เส้นบาง ๆ ระหว่าง “เสรีภาพ” และ “กฎหมาย”
กรณีของ “ชายต๊อง หญิงเพี้ยน” จึงไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนบุคคล แต่เป็น บทเรียนสังคม ที่สะท้อนถึงความเปราะบางของการทำงานสายคอนเทนต์ 18+ ในประเทศไทย ที่ยังไร้ซึ่งกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจน
หากมองในแง่ “เสรีภาพ” พวกเขาคือผู้บุกเบิกที่กล้าแสดงออก
หากมองในแง่ “กฎหมาย” สิ่งที่ทำถือว่าผิดและนำไปสู่โทษหนัก
หากมองในแง่ “ศีลธรรม” เรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวาง
บทสรุป
จากคู่รักที่สร้างคอนเทนต์ด้วยแนวคิดอยากทำให้ “เรื่องเพศ” เป็นสิ่งที่พูดคุยได้อย่างเปิดเผยในสังคมไทย “ชายต้อง หญิงเพี้ยน” กลายเป็นตัวละครสำคัญที่สะท้อนทั้งโอกาส ความเสี่ยง และความไม่ชัดเจนของวงการ Sex Creator บ้านเรา
แต่ในที่สุด เมื่อเส้นทางเลยเถิดไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมายร้ายแรงอย่างการมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์และเผยแพร่สื่อลามกเด็ก เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงด้วยการถูกจับกุมและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นี่คือคดีตัวอย่างที่ทำให้สังคมไทยต้องกลับมาตั้งคำถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะหาทางออกที่เหมาะสมกับการจัดการคอนเทนต์ 18+ ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของโลกยุคใหม่ แทนที่จะปล่อยให้ทุกอย่างอยู่ในเงามืดจนเกิดปัญหาซ้ำรอยอีกครั้ง
















