พระเอกดังแถวหน้า อนาคตดับ! ถูกจับคดีซื้อบริการทางเพศ
ย้อนรอยคดีดัง หลี่อี้เพิ่ง พระเอกเบอร์ต้นของจีน อนาคตดับ หลังซื้อบริการทางเพศ ถูกถอดละครและพรีเซนเตอร์
วงการบันเทิงจีนต้องสั่นสะเทือนอย่างหนัก หลัง หลี่อี้เพิ่ง อดีตพระเอกซูเปอร์สตาร์เบอร์ต้นของจีน กลายเป็นข่าวฉาวที่ทำให้เส้นทางอาชีพหยุดชะงักทันที เนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวกับ การซื้อบริการทางเพศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและงานในวงการอย่างรุนแรง
หลี่อี้เพิ่ง: เจ้าชายซีรีส์พีเรียดแห่งจีน
ก่อนเหตุการณ์ฉาว หลี่อี้เพิ่งถือเป็น พระเอกเบอร์ต้นของวงการบันเทิงจีน มีผลงานซีรีส์และภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงมากมาย เช่น
Swords of Legends (2014)
The Lost Tomb (2015)
Noble Aspirations (2016)
ด้วยความสามารถในการแสดงและบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ หลี่อี้เพิ่งได้รับฉายาว่า “เจ้าชายซีรีส์พีเรียด” ของจีน อีกทั้งยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้าชั้นนำหลายสิบแบรนด์ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในคนดังที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
ความโด่งดังนี้สะท้อนจากจำนวนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียของเขาที่มี หลายสิบล้านคน และการปรากฏตัวของเขาในงานพรมแดง งานโฆษณา และอีเวนต์ต่าง ๆ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในไอดอลของแฟนคลับทั้งในจีนและต่างประเทศ
เหตุการณ์ฉาว: การซื้อบริการทางเพศ
เส้นทางอาชีพของหลี่อี้เพิ่งต้องหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิงใน เดือนกันยายน 2022 หลังจากตำรวจกรุงปักกิ่งเข้าจับกุมตัวเขาในข้อหา ซื้อบริการทางเพศหลายครั้ง
ตามกฎหมายของจีน การซื้อและขายบริการทางเพศถือว่าผิดกฎหมาย โดยมีบทลงโทษกำหนดไว้ใน “กฎหมายว่าด้วยการลงโทษด้านการบริหารงานความมั่นคงสาธารณะ” ซึ่งรายละเอียดโทษมีดังนี้:
กักขัง 10–15 วัน และอาจมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 หยวน (~25,000 บาท)
หากพฤติการณ์ไม่ร้ายแรง โทษลดเหลือ กักขังไม่เกิน 5 วัน และปรับไม่เกิน 500 หยวน (~2,500 บาท)
แม้ว่าบทลงโทษอาจไม่รุนแรง แต่ ผลกระทบต่อชื่อเสียงและอาชีพการงานในจีนถือว่ารุนแรงมาก เนื่องจากวงการบันเทิงจีนมีความเข้มงวดสูงในเรื่องภาพลักษณ์และศีลธรรม
ผลกระทบต่ออาชีพและแบรนด์
คดีฉาวครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อทั้งตัวศิลปินและผู้เกี่ยวข้อง:
1. ชื่อเสียงพังทลายทันที: ภาพลักษณ์ของหลี่อี้เพิ่งที่เคยเป็นไอดอลของแฟนคลับพังลงทันทีหลังข่าวเผยแพร่
2. งานละครและภาพยนตร์ถูกถอดออก: ผลงานซีรีส์และภาพยนตร์ที่เขาเคยแสดงถูกลบออกจากแพลตฟอร์มสตรีมมิงในจีน
3. แบรนด์สินค้ากว่า 10 แบรนด์ยกเลิกสัญญา: พรีเซนเตอร์และงานโฆษณาทั้งหมดถูกยกเลิกทันที
4. บัญชีโซเชียลมีเดียถูกปิด: ผู้ติดตามหลายสิบล้านคนไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเขาได้อีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของวงการบันเทิงจีนในการควบคุมศีลธรรมและการรักษาภาพลักษณ์ของนักแสดง
ความพยายามกลับมาของหลี่อี้เพิ่ง
แม้จะเผชิญคดีฉาวและสูญเสียงานทั้งหมด แต่ล่าสุดในปี 2025 หลี่อี้เพิ่งได้พยายามกลับมามีบทบาทในวงการบันเทิงอีกครั้ง โดยเริ่มจาก กิจกรรมเดี่ยวในประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายน แต่กระแสตอบรับกลับไม่ดีเท่าที่ควร
แม้เขาจะออกมาขอโทษและยอมรับผิดต่อสังคม แต่ภาพลักษณ์ที่เคยโด่งดังไม่สามารถฟื้นกลับคืนได้ในทันที ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การทำผิดในวงการบันเทิงจีนมีผลระยะยาวต่ออาชีพและชีวิตส่วนตัว
บทเรียนสำคัญจากกรณีของหลี่อี้เพิ่ง
กรณีฉาวของหลี่อี้เพิ่งถือเป็น ตัวอย่างสำคัญ ของวงการบันเทิงจีนและโลกบันเทิงโดยรวม มีบทเรียนสำคัญหลายประการ:
1. การรักษาภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ในวงการบันเทิงจีน ภาพลักษณ์และศีลธรรมมีความสำคัญสูง การกระทำส่วนตัวที่ผิดกฎหมายสามารถทำให้ชื่อเสียงที่สร้างมาหลายปีพังทลายได้ทันที
2. ความจริงของชีวิตคนดังไม่ใช่ทุกอย่างที่เห็นบนหน้าจอ
แฟนคลับมักเชื่อทุกสิ่งที่เห็นในซีรีส์ โฆษณา หรือรายการทีวี แต่ชีวิตจริงของศิลปินอาจแตกต่างจากภาพลักษณ์ที่แสดงให้สาธารณชนเห็น ซึ่งกรณีนี้เป็นบทเรียนให้แฟนคลับและสังคม ไม่ควรเชื่อทุกอย่างโดยไม่ตรวจสอบ
3. ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม
การกระทำของศิลปินไม่เพียงกระทบตัวเอง แต่ส่งผลต่อแบรนด์ที่เกี่ยวข้อง ทีมงาน ผลงานละครและภาพยนตร์ ตลอดจนแฟนคลับที่ลงทุนเวลาและเงินในการติดตาม
4. การกลับมาของศิลปินหลังคดีฉาวไม่ง่าย
แม้จะมีความพยายามกลับมาทำงาน การฟื้นฟูภาพลักษณ์หลังคดีฉาวเป็นเรื่องยาก โดยต้องอาศัยเวลาและการพิสูจน์ตัวเองต่อสาธารณะ
การรับมือของวงการบันเทิงจีน
วงการบันเทิงจีนมีมาตรการเข้มงวดต่อศิลปินและบุคคลสาธารณะ การกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ดังนี้:
การยกเลิกสัญญาโฆษณาและพรีเซนเตอร์
การถอดผลงานจากแพลตฟอร์มสตรีมมิง
การปิดบัญชีโซเชียลมีเดียของศิลปิน
การลงโทษทางกฎหมาย
มาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการควบคุมวงการบันเทิง เพื่อป้องกันไม่ให้ศิลปินและคนดังเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมต่อสังคม
บทสรุป
กรณีฉาวของ หลี่อี้เพิ่ง เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ความโด่งดังและชื่อเสียงในวงการบันเทิงสามารถพังทลายได้เพียงชั่วข้ามคืน ด้วยการกระทำที่ไม่เหมาะสม
เส้นทางอาชีพที่เคยรุ่งโรจน์ต้องหยุดชะงัก
แบรนด์และผลงานที่เคยสร้างชื่อถูกลบและยกเลิกทั้งหมด
การกลับมาฟื้นฟูภาพลักษณ์หลังเหตุการณ์ฉาวเป็นเรื่องยากและใช้เวลานาน
เรื่องราวนี้ยังเป็น บทเรียนสำคัญ สำหรับศิลปินและแฟนคลับว่า ชีวิตจริงของคนดังไม่ใช่ทุกอย่างที่เห็นบนหน้าจอ และการรักษาภาพลักษณ์กับความประพฤติที่ดีถือเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืนในวงการบันเทิง

















