แพทย์ไต้หวันเผยเคสหนุ่มปวดท้องหลังโดนคู่นอนเสียบเครื่องนวด 20 ซม. เข้าทวารหนัก ดึงไม่ออก ทำสั่นทั้งคืน
ช่วงก่อนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลอี้ต้าต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทั้งจริงจังและชวนให้ทีมแพทย์กับพยาบาลต้องกลั้นหัวเราะอยู่ไม่น้อย เมื่อมีชายหนุ่มวัยเพียง 24 ปีเดินเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินในตอนเช้า เขาดูภายนอกเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่มีท่าทางเจ็บป่วยรุนแรง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าพบแพทย์ ความจริงกลับค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา
ชายหนุ่มเล่าว่าคืนก่อนหน้า ระหว่างที่เขามีความสัมพันธ์กับคู่นอน ได้มีบางสิ่งถูกใส่เข้าไปในทวารหนักของเขา เขาไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งนั้นคืออะไร รู้เพียงว่ามีวัตถุแปลกปลอมติดอยู่ในร่างกาย และยิ่งนานก็ยิ่งรู้สึกปวดท้องจนทนไม่ไหว หลังจากคู่ของเขาสำเร็จความใคร่แล้วก็จากไป โดยปล่อยให้เขาพยายามหาวิธีดึงสิ่งนั้นออกด้วยตนเองทั้งคืน แต่ไม่สำเร็จ
นายแพทย์เฉิน จื้ออี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ได้ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น และยืนยันว่ามีวัตถุแข็งอยู่ในทวารหนักจริง ๆ เมื่อนำผู้ป่วยไปเอกซเรย์ ภาพที่ปรากฏทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าเดิม เพราะวัตถุมีความยาวราว 15–20 เซนติเมตร และเลื่อนลึกเข้าไปถึงลำไส้ใหญ่ส่วนซิกมอยด์แล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
ตามปกติแล้ว หากเป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงทางเพศ มักจะมีพื้นผิวเรียบ ทำให้ดึงออกได้ยาก ทีมแพทย์จึงพิจารณาว่าต้องเข้าห้องผ่าตัดและดมยาสลบก่อนทำการนำออก ทว่าช่วงนั้นบุคลากรมีจำกัด อาจต้องรอถึงสองวัน ชายหนุ่มผู้ป่วยจึงยอมให้ทีมแพทย์ทำการรักษาแบบเร่งด่วนในห้องฉุกเฉิน โดยไม่ดมยาสลบ มีเพียงคีมที่ใช้ในแผนกสูตินรีเวชเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือ
นายแพทย์เฉินเล่าว่าต้องอาศัยความใจเย็นอย่างมาก เขาค่อย ๆ ดึงวัตถุออกทีละน้อย ท่ามกลางความเจ็บปวดที่ผู้ป่วยกลับอดทนได้อย่างน่าประหลาด จนในที่สุดก็สามารถนำวัตถุออกมาได้สำเร็จ และสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนคือเครื่องนวดขนาดยาวเป็นพิเศษ ซึ่งยังคงสั่นอยู่เบา ๆ แม้เวลาจะผ่านไปทั้งคืน ทำเอาทีมแพทย์และพยาบาลถึงกับอุทานด้วยความตกตะลึง ปรากฏว่าถ่านของอุปกรณ์ชิ้นนี้ทนทานเกินคาด
แม้เหตุการณ์จะจบลงโดยไม่มีการบาดเจ็บร้ายแรง แต่แพทย์เฉินก็ย้ำเตือนอย่างจริงจังว่า การสอดวัตถุแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายย่อมมีความเสี่ยงสูง แม้แต่อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงทางเพศเอง หากใช้อย่างไม่ถูกต้องก็อาจก่ออันตรายได้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการทำให้ลำไส้ฉีกขาด หากเกิดการทะลุจะนำไปสู่ภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ซึ่งอาจถึงขั้นเสียชีวิต และหากต้องผ่าตัดฉุกเฉินก็อาจต้องมีทวารเทียมติดตัวไปตลอดชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
เรื่องราวครั้งนี้จึงกลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญ ไม่เพียงสำหรับชายหนุ่มรายนี้ แต่สำหรับทุกคนที่อาจคิดทดลองสิ่งแปลกใหม่เพื่อความสุขส่วนตัว ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะความเพลิดเพลินชั่วครู่ หากแลกมากับอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ ก็คงไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย























