หวาดเสียวสุด ๆ! เจมี่ บูเฮอร์ คิดว่าป่วยมะเร็ง แต่แท้จริงซิลิโคนรั่วเกือบทำนมเน่า
เจมี่ บูเฮอร์ เผยช่วงเวลาสติแตก เจอก้อนแข็งหน้าอก หวิดคิดว่าเป็นมะเร็ง ก่อนพบว่าซิลิโคนรั่ว
อดีตเซ็กซี่สตาร์ชื่อดัง เจมี่ บูเฮอร์ วัย 43 ปี ซึ่งปัจจุบันผันตัวเป็นครีเอเตอร์สายดูดวงและนักสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์สะเทือนใจครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอคลำพบก้อนแข็งบริเวณหน้าอก และเกิดความกลัวว่าอาจเป็น มะเร็งเต้านม
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจมี่ถึงกับสติแตก เธอรีบทำ พินัยกรรม และสั่งเสียกับคนรอบตัวทันที เพราะคิดว่าชีวิตของเธออาจจบลงเร็ว ๆ นี้
จุดเริ่มต้นของความวิตกกังวล
เจมี่เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่กลับสร้างความกังวลอย่างมากในใจเธอ
“ช่วงที่ผ่านมาเจมี่เครียดมาก ช็อคมาก กับสิ่งที่เจอ คืออย่างที่รู้กันมาตลอดว่าเจมี่ไม่เคยกลัวหรือแอนตี้เรื่องของการทำศัลยกรรม แต่พอคลำเจอก้อนแข็ง ๆ ตรงเต้านม ก็เครียดมากจนไม่รู้จะทำยังไง”
เจมี่ระบุว่า เธอเคยทำศัลยกรรมหน้าอกมาในอดีต และผลลัพธ์ในตอนแรกถือว่าสวยตามที่ตั้งใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกผิดปกติและคลำพบความแข็งที่หน้าอก
เมื่อค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เจมี่พบว่าลักษณะก้อนที่เจอมีความใกล้เคียงกับ สัญญาณของมะเร็งเต้านม ซึ่งทำให้เธอเกิดความวิตกกังวลขั้นสูง จนคิดว่าชีวิตของเธออาจสิ้นสุดเร็วกว่าที่คิด
การตัดสินใจทำพินัยกรรมและสั่งเสีย
ความกลัวและความกังวลทำให้เจมี่ตัดสินใจทำ พินัยกรรม และพูดคุยกับคนใกล้ชิดเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น หากเธอเผชิญกับโรคร้ายจริง
“ตอนนั้นจิตตก ทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าไปหาหมอ เพราะกลัว รับไม่ได้ว่าตัวเองอาจเป็นมะเร็งเต้านม เลยได้แต่เตรียมใจ ถ้าตายก็คือตาย สั่งเสียกับคนที่บ้านและคนรอบตัวเอาไว้หมด”
แม้จะเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิต แต่เจมี่ก็ยืนยันว่า การพูดคุยและเตรียมพร้อมถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เธอมีความสบายใจหากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นจริง
ความเชื่อและความไม่กลัวศัลยกรรม
เจมี่ยังย้ำว่า เธอไม่เคยกลัวการทำศัลยกรรมและไม่เคยปกปิดเรื่องนี้ต่อสาธารณะ
“เจมี่ไม่เคยกลัวหรือแอนตี้เรื่องศัลยกรรมมาเลย เพราะที่ผ่านมาเวลามีคนถามว่าทำอะไรที่ไหน ก็จะบอกหมด ทุกคนก็เห็นทุกขั้นตอน ไม่รู้จะปิดไปทำไม”
ด้วยความเชื่อและทัศนคติเช่นนี้ ทำให้เธอสามารถเปิดใจพูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวได้อย่างตรงไปตรงมา แม้บางครั้งจะเป็นเรื่องอ่อนไหวและกระทบต่อความรู้สึกของผู้ชม
การวินิจฉัยและการค้นพบที่แท้จริง
หลังจากความวิตกกังวลและความเครียดสะสม เจมี่ตัดสินใจไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่า ก้อนแข็งที่คลำพบไม่ใช่มะเร็งเต้านม
แพทย์วินิจฉัยว่าเป็น ซิลิโคนรั่ว จากการทำศัลยกรรมหน้าอกในอดีต ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไข อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือเนื้อเยื่อบริเวณเต้านมเน่าได้
“สุดท้ายก็รู้ว่าเป็นซิลิโคนรั่ว ช็อคมาก แต่ยังดีที่ไม่ใช่มะเร็ง ตอนนั้นแทบจะสติแตก เพราะคิดว่าชีวิตอาจจบลงแล้ว”
นี่ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเจมี่และผู้หญิงทุกคนที่เคยทำศัลยกรรมหน้าอก ให้ระมัดระวังและตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ผลกระทบทางจิตใจและสังคม
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้าง ความเครียดและความวิตกกังวลอย่างหนัก ต่อเจมี่ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
1. ความเครียดสะสม – ความคิดว่าตัวเองอาจเป็นมะเร็งทำให้เจมี่เกือบสูญเสียการควบคุมอารมณ์
2. ความวิตกกังวลต่อครอบครัว – เจมี่ต้องสั่งเสียและทำพินัยกรรม เพื่อให้แน่ใจว่าครอบครัวและคนรอบตัวพร้อมรับมือหากเกิดเหตุร้าย
3. ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นตัวเอง – การเจอซิลิโคนรั่วทำให้เธอเริ่มคิดทบทวนการทำศัลยกรรมและการดูแลสุขภาพในอนาคต
แม้จะเป็นช่วงเวลาที่มืดมน แต่เจมี่ยังคงสามารถฝ่าฟันอารมณ์และกลับมาสร้างคอนเทนต์ออนไลน์อย่างเข้มแข็ง
บทเรียนสำคัญจากประสบการณ์เจมี่
เรื่องราวของเจมี่ บูเฮอร์ สอนบทเรียนสำคัญหลายประการให้กับผู้หญิงและผู้ที่เคยทำศัลยกรรมหน้าอก
1. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ – การตรวจเช็คหน้าอกอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถพบปัญหาก่อนลุกลาม
2. ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป – การวิตกกังวลอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด เช่น การสั่งเสียก่อนเวลา
3. ปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อพบสิ่งผิดปกติ – แม้จะกลัวผลลัพธ์ แต่การวินิจฉัยโดยแพทย์ช่วยลดความวิตกกังวลและให้แนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง
4. รับมือกับผลลัพธ์ด้านศัลยกรรมระยะยาว – ซิลิโคนและวัสดุเสริมอื่น ๆ อาจเกิดปัญหาหลังการทำศัลยกรรมหลายปี ดังนั้นต้องติดตามและดูแลอย่างสม่ำเสมอ
การกลับมาแข็งแรงและสร้างแรงบันดาลใจ
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่เครียดและหวาดกลัว เจมี่สามารถกลับมาทำงานและสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียได้ตามปกติ พร้อมทั้งแชร์ประสบการณ์เพื่อ เตือนสติผู้หญิงและผู้ที่ทำศัลยกรรมหน้าอกทุกคน
“อยากให้ทุกคนรู้ว่า การเผชิญหน้ากับความกลัวเป็นเรื่องปกติ แต่สำคัญที่สุดคืออย่าเพิ่งตื่นตระหนกและรีบหาทางออกที่ถูกต้อง ปรึกษาแพทย์ ตรวจร่างกาย และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”
การเปิดใจของเจมี่ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงหลายคน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ การดูแลสุขภาพและตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
เหตุการณ์ที่เจมี่ บูเฮอร์ เผชิญเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ความกลัวและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพสามารถเกิดขึ้นกับทุกคน แม้แต่คนที่แข็งแรงหรือมีความเข้มแข็งทางใจ การตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอและการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือการตีความผิดของอาการ
เรื่องราวของเจมี่ยังสะท้อนให้เห็นถึง บทบาทของศัลยกรรมในชีวิตผู้หญิง ว่าถึงแม้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ แต่ก็แฝงมาด้วยอันตราย






















