แฉสนั่น! คู่รักโชว์พิเรนทร์มีเซ็กซ์ท้ายกระบะ กลางเมืองภูเก็ต ตร.เร่งล่าตัว
ตร.ภูเก็ตเร่งล่า! คู่รักพิเรนทร์เล่นเซ็กซ์ท้ายกระบะขับร่อนทั่วเมือง คาดเป็นนักท่องเที่ยวรัสเซียเสพยา-ทำคอนเทนต์ก่อกวนโซเชียล
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมไทยทันที เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Phuket Times ภูเก็ตใหม่ ได้เผยแพร่ภาพสุดอุจาดใจของ คู่รักนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่กำลังมีเพศสัมพันธ์กันอย่างโจ่งแจ้งบน ท้ายรถกระบะที่วิ่งอยู่บนถนนในเมืองภูเก็ต
ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คู่รักคู่นี้ไม่ได้มีการปกปิดพฤติกรรมใด ๆ ทั้งยังแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งราวกับตั้งใจถ่ายทำคอนเทนต์ลงโซเชียล ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าวแบบไม่เต็มใจ
เหตุการณ์อื้อฉาวบนถนนบายพาสภูเก็ต
จากข้อมูลที่เผยแพร่ในเพจ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนน บายพาสภูเก็ต ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่มีการจราจรหนาแน่น ทั้งรถนักท่องเที่ยว รถโดยสาร และประชาชนทั่วไป คู่รักคู่นี้กลับไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง พวกเขายังคงมีพฤติกรรมทางเพศอย่างโจ่งแจ้งบนรถกระบะที่วิ่งด้วยความเร็ว
แคปชั่นในโพสต์ของเพจ Phuket Times ใช้คำว่า
“หนักแรง! ทำคอนเทนต์บ้า ๆ ถนนบายพาสภูเก็ตผงะทั้งเมือง”
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมและสร้างความตกตะลึงแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
เบาะแสใหม่ ชี้ผู้ก่อเหตุเป็น “ชายชาวรัสเซีย”
ต่อมาทางเพจและผู้สื่อข่าวท้องถิ่นได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชายที่ปรากฏในคลิปเป็น นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่เดินทางเข้ามาพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต โดยมีประวัติพฤติกรรมทางเพศสุดโต่งและแปลกประหลาด
มีการระบุว่าเขาเป็นบุคคลที่นิยมสร้าง คอนเทนต์เกี่ยวกับเซ็กซ์พิเรนทร์ เช่น เซ็กซ์หมู่ เซ็กซ์พิศดาร และมักนำไปเผยแพร่ต่อในแพลตฟอร์ม Telegram ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มผู้มีพฤติกรรมทางเพศผิดแปลกนิยมใช้แลกเปลี่ยนกัน
เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวอาจอยู่ในอาการมึนเมาหรือเสพสารเสพติดบางชนิดในช่วงเกิดเหตุ จึงขาดสติและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายหรือสายตาของสังคม
ตำรวจภูเก็ตเร่งติดตามตัว
หลังคลิปดังกล่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการเร่งด่วนให้ทีมสืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยมีการตรวจสอบเส้นทางรถกระบะจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางบายพาส และพยายามหาตัวบุคคลในคลิปว่าเป็นใคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า กรณีดังกล่าวถือเป็น ความผิดทางกฎหมาย ทั้งในด้าน อนาจารในที่สาธารณะ และ การทำให้ประชาชนเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับตามกฎหมายไทย หากพบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอย่างเด็ดขาด
เสียงสะท้อนจากชาวภูเก็ต: “ไม่อายคนไทยเลยหรือ?”
หลังคลิปถูกเผยแพร่ ชาวภูเก็ตจำนวนมากแสดงความไม่พอใจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยต่างเห็นตรงกันว่า การกระทำของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือเป็นการไม่ให้เกียรติพื้นที่และวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อเรื่องเพศและศีลธรรม
ชาวบ้านบางรายถึงขั้นออกมาระบุว่า
“การกระทำแบบนี้ทำให้เสียภาพลักษณ์ของภูเก็ตในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ใครจะอยากพาครอบครัวมาพักผ่อน ถ้าต้องมาเจอภาพอุจาดบนถนน”
อีกหลายความคิดเห็นมองว่า นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเริ่ม ไม่เกรงกลัวกฎหมายไทย และใช้พื้นที่ท่องเที่ยวเป็นสนามทดลองพฤติกรรมสุดโต่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นและบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างมาก
การท่องเที่ยวกับปัญหาพฤติกรรมสุดโต่ง
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภูเก็ตต้องเผชิญกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก่อนหน้านี้เคยมีกรณี
นักท่องเที่ยวเปลือยกายเดินชายหาด
การทำคอนเทนต์เสื่อมเสียในโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว
การใช้สารเสพติดและก่อความวุ่นวายในพื้นที่สาธารณะ
ซึ่งทุกครั้งมักจะเป็นข่าวใหญ่และกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศไทยในเวทีโลก
นักวิชาการด้านสังคมบางส่วนออกมาให้ความเห็นว่า ปัญหานี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการ เข้มงวดกฎหมาย และ ตรวจสอบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ต พัทยา และสมุย
นักท่องเที่ยวรัสเซียกับปัญหาในไทย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลังจากสถานการณ์สงครามยูเครน นักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวนหนึ่งเลือกประเทศไทยเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวหลายครั้งเกี่ยวกับ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ของบางกลุ่ม เช่น
การขับรถโดยประมาท
การใช้สารเสพติด
การทำธุรกิจเถื่อน
และล่าสุดคือการสร้างคอนเทนต์ทางเพศอุจาดเช่นเหตุการณ์นี้
ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า ไทยควรมีมาตรการจัดการอย่างไรเพื่อรักษาสมดุลระหว่าง การส่งเสริมการท่องเที่ยว และ การปกป้องศีลธรรมสังคม
มุมมองด้านกฎหมาย: โทษร้ายแรงกว่าที่คิด
ทนายความหลายรายได้ออกมาอธิบายว่า การมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 เรื่องการกระทำอนาจารในที่สาธารณะ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
แต่หากพบว่าเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด หรือ การเผยแพร่สื่อลามกออนไลน์ เพื่อหารายได้ อาจมีโทษที่รุนแรงกว่า เช่น จำคุกหลายปี รวมถึงการ เนรเทศออกนอกประเทศ และ ห้ามเข้าประเทศไทยอีกในอนาคต
สื่อสังคมออนไลน์: ดาบสองคมของการท่องเที่ยว
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการใช้ โซเชียลมีเดีย ในการสร้างคอนเทนต์ พฤติกรรมของคู่รักพิเรนทร์คู่นี้มีแนวโน้มว่าเกิดจาก การอยากสร้างกระแสบนโลกออนไลน์ เพื่อเรียกยอดวิวและรายได้
แพลตฟอร์มอย่าง Telegram, OnlyFans และเว็บไซต์ผู้ใหญ่ต่าง ๆ กลายเป็นพื้นที่ที่บางกลุ่มใช้ในการสร้างรายได้แบบผิดกฎหมาย และเมื่อพวกเขามองว่าประเทศไทยมีกฎหมายที่บังคับใช้ไม่เข้มงวดเท่าประเทศตะวันตก จึงเลือกใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ
สรุป: บทเรียนใหญ่ที่ภูเก็ตต้องเจอ
กรณี “คู่รักพิเรนทร์เล่นเซ็กซ์ท้ายกระบะในภูเก็ต” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องอื้อฉาวชั่วคราว แต่ยังเป็น บทเรียนสำคัญสำหรับทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและสังคมไทย ว่าเราจำเป็นต้อง
1. เข้มงวดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
2. เสริมสร้างกฎหมายและการบังคับใช้ที่จริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ มากกว่าปริมาณ เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมและความปลอดภัย
ตำรวจภูเก็ตได้ประกาศแล้วว่า จะเร่งติดตามตัวนักท่องเที่ยวคู่ดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนให้กับจังหวัดภูเก็ตในฐานะ ไข่มุกแห่งอันดามัน
























