ฮุนเซนฉุน! ถามไทยทำไมเอาหน้าเขาเป็นเป้ายิงปืน ชี้นี่ใช่ชาติอารยธรรมหรือ?
ฮุนเซน ร่ายยาว หลังเห็นภาพตนเองถูกใช้เป็นเป้ายิงในไทย เรียกร้องความเป็นธรรมและจริยธรรม
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลัง สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแนบคลิปเหตุการณ์จากงานวัดแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่มีการนำ ภาพของสมเด็จฮุน เซน มาใช้เป็นเป้าในการยิงปืนเพื่อแลกของรางวัล
ฮุน เซนระบุอย่างชัดเจนว่า การกระทำเช่นนี้ “ไร้มนุษยธรรมและเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์” พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาอย่ากระทำสิ่งที่อับอายและผิดศีลธรรม ทั้งนี้ไม่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดจากมนุษย์โดยตรงหรือสร้างด้วยเทคโนโลยี AI ก็ตาม
ข้อความโพสต์เฟซบุ๊กของสมเด็จฮุน เซน
ฮุน เซนเริ่มต้นโพสต์ด้วยการตั้งคำถามถึง ความเป็นอารยธรรมและจริยธรรมของชาติ โดยกล่าวว่า
“นี่คือสิ่งที่เราเรียกชาติที่มีอารยธรรม มีคุณธรรม จริยธรรม และอารยธรรมอันสูงส่งหรือไม่? การกระทำเช่นนี้เป็นการแสดงออกที่น่าอับอายและไร้มนุษยธรรมยิ่งกว่าการกระทำของสัตว์”
เขาย้ำว่าไม่ว่าวิดีโอเหล่านี้จะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ไม่ควรมองข้ามความผิดศีลธรรมที่ปรากฏ เพราะการกระทำเช่นนี้ถือเป็น การล่วงละเมิดคุณค่าความเป็นมนุษย์
การเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาอย่าแข่งขันทำผิด
ในโพสต์เดียวกัน ฮุน เซนยังเล่าถึงกรณีที่เพื่อนร่วมชาติบางส่วนแนะนำให้เขาตอบโต้ด้วยการนำ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทย หรือผู้นำไทยมาตั้งเป็นเป้าเพื่อตอบโต้
แต่เขาตอบกลับอย่างชัดเจนว่า ไม่ควรแข่งขันกันทำผิด เพราะการกระทำเช่นนั้นไม่เพียงแต่เป็นการไร้มนุษยธรรม แต่ยังทำให้เกิดความขัดแย้งและความเป็นศัตรูโดยไม่จำเป็น
ฮุน เซนอธิบายเพิ่มเติมว่า การกระทำเหล่านี้มักมีเป้าหมายเพื่อ ยั่วยุให้ประชาชนหรือกองทัพของกัมพูชาโต้ตอบ ซึ่งอาจสร้างความขัดแย้งและความตึงเครียดในช่วงเวลาที่ควรสงบและรักษาสันติภาพ
การวางกรอบจริยธรรมและความเคารพ
ผู้นำกัมพูชาย้ำว่า แม้กัมพูชาเป็นชาติเล็ก ประชากรน้อย เศรษฐกิจยังพัฒนาไม่เต็มที่ แต่ด้านจริยธรรมและคุณธรรมต้องแข็งแกร่ง
เขากล่าวว่า ชาวกัมพูชาไม่ควรใช้พระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทยหรือผู้นำไทยในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องของ การเคารพซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ ฮุน เซนยังเสนอแนวทางสันติว่า หากประชาชนไม่พอใจกับประเทศไทย ควรใช้วิธี ลดการซื้อสินค้าจากไทยหรือหยุดใช้เงินบาทในกัมพูชา เพื่อสร้างความอิสระทางเศรษฐกิจของชาติ แทนการกระทำที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งโดยตรง
มุมมองทางเศรษฐกิจและการค้าไทย-กัมพูชา
ในโพสต์ของฮุน เซนยังสะท้อนถึง มุมมองทางเศรษฐกิจ ว่าชาวไทยบางกลุ่ม รวมถึงผู้นำไทยบางคน อาจประเมินเศรษฐกิจของกัมพูชาไม่ถูกต้อง โดยอ้างว่ากัมพูชาประสบความลำบากเนื่องจากการปิดพรมแดนและขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค
แต่ผู้นำกัมพูชากลับชี้ว่า การใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าจากไทย เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจปกติ และถือเป็น รายได้สำหรับคนไทย ด้วยเช่นกัน
ฮุน เซนระบุว่า การหันมาใช้จ่ายกับสินค้าในประเทศตัวเอง จะช่วย สร้างตลาดและโอกาสเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมเน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่เคยขอให้ไทยขายสินค้าให้ แต่เป็นการเลือกซื้อด้วยความสมัครใจ
คำแนะนำด้านอธิปไตยทางการเงิน
นอกจากนี้ ฮุน เซนยังได้ให้คำแนะนำแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนไทย ให้ รีบแลกเงินบาทเป็นเงินเรียลหรือดอลลาร์สหรัฐ เพราะอาจเผชิญกับความเสี่ยงด้านค่าเงินที่กระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคต
เขาเน้นย้ำว่า การลดการพึ่งพาเงินบาทจะช่วย เสริมสร้างอธิปไตยทางการเงินและความมั่นคงของชาติ และลดโอกาสถูกกดดันทางเศรษฐกิจจากภายนอก
บริบททางประวัติศาสตร์ไทย-กัมพูชา
ความตึงเครียดครั้งนี้เกิดขึ้นในบริบทที่ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชายังคงมีความเปราะบาง จากเหตุการณ์ชายแดนและการเมืองภายในหลายครั้ง
ไทยและกัมพูชามีประวัติความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ทั้งความขัดแย้งด้านพรมแดน การค้า และการเมือง
เหตุการณ์นำภาพผู้นำมาตั้งเป้ายิง เป็นหนึ่งใน สัญลักษณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่สะท้อนความไม่พอใจและการยั่วยุทางสังคม
การแสดงท่าทีของฮุน เซนเป็นการย้ำว่า กัมพูชายังคงรักษามาตรฐานจริยธรรมและความเคารพในระดับสากล แม้จะเป็นเรื่องที่กระทบความรู้สึก
ผลกระทบต่อสังคมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โพสต์ของฮุน เซนมีผลกระทบหลายด้าน
1. ทางสังคม: กระตุ้นให้ประชาชนชาวกัมพูชาและไทยตระหนักถึงความสำคัญของ การเคารพซึ่งกันและกัน
2. ทางการค้า: แนะนำการลดการพึ่งพาเงินบาทและสนับสนุนสินค้าในประเทศ เพื่อเสริมสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจ
3. ทางการเมือง: แสดงให้เห็นถึง ท่าทีเด็ดขาดของผู้นำกัมพูชา ในการรักษาภาพลักษณ์ของชาติและความสงบเรียบร้อย
ฮุน เซนย้ำว่า ไม่ควรตอบโต้ด้วยความรุนแรงหรือการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม แต่ควรใช้ วิธีที่ชาญฉลาดและมีจริยธรรมสูงสุด
สรุปความหมายและสาระสำคัญ
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า
การเคารพซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญแม้ในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้ง
การแสดงออกทางโซเชียลมีเดียหรือ AI อาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
การสร้างอธิปไตยทางเศรษฐกิจและการเงิน เป็นส่วนสำคัญของการปกป้องความมั่นคงของชาติ
ผู้นำกัมพูชามีท่าที รอบคอบและยึดมั่นในจริยธรรม แม้จะมีแรงกดดันจากเหตุการณ์ทางสังคม
โพสต์ของฮุน เซนจึงไม่ใช่เพียงการตำหนิ แต่เป็น การให้แนวทางและคำแนะนำเชิงนโยบาย ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
















