คดีสยองอเมริกา “Ottis Toole” มือสังหารผู้ฆ่าคนกว่า 125 ศพ
ชื่อของ Ottis Elwood Toole ถือเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา เขาสารภาพว่าได้ฆ่าคนไปมากกว่า 100–125 ศพ และหลายคดียังไม่สามารถพิสูจน์ได้จนถึงวันนี้
Toole เกิดในปี 1947 ที่เมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา เติบโตในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการทารุณกรรม เขาถูกแม่ตีและถูกเพื่อนบ้านล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ยังเด็ก
วัยเด็กที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและการโดดเดี่ยว ทำให้เขาเริ่มมีพฤติกรรมชอบเผาสิ่งของและบ้านของคนอื่นเพื่อระบายความโกรธ
ช่วงปลายทศวรรษ 1970 Toole ได้รู้จักกับ Henry Lee Lucas ชายที่มีประวัติอาชญากรรมและนิสัยรุนแรงไม่ต่างกัน
ทั้งคู่กลายเป็น “คู่หูฆาตกร” ที่เดินทางไปทั่วสหรัฐฯ โดยสารภาพว่าฆ่าคนตามรายทางโดยไม่มีเหตุผลแน่ชัด เหยื่อส่วนใหญ่เป็นคนเร่ร่อน คนข้างถนน หรือหญิงสาวที่ไม่มีใครติดตาม
Lucas มักพูดว่า “พวกเราฆ่าคนเพราะมันง่าย” และ Toole ก็ทำอย่างนั้นจริง ๆ
หนึ่งในคดีที่ทำให้ชื่อของ Toole ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ คือการเสียชีวิตของ Adam Walsh เด็กชายวัย 6 ขวบที่หายตัวไปจากห้างในฟลอริดาเมื่อปี 1981
Toole สารภาพว่าเป็นผู้ลักพาตัวและฆ่าเด็กชาย แต่หลักฐานไม่เพียงพอในตอนนั้น จนกระทั่งปี 2008 ตำรวจฟลอริดายืนยันอย่างเป็นทางการว่า “Ottis Toole คือฆาตกรของ Adam Walsh”
พ่อของเด็กชาย คือ John Walsh ได้กลายเป็นพิธีกรรายการ “America’s Most Wanted” เพื่อช่วยติดตามจับกุมอาชญากรทั่วประเทศในเวลาต่อมา
Ottis Toole ถูกจับในปี 1983 จากคดีวางเพลิงและฆาตกรรม เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
เขาเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 1996 ด้วยโรคตับ โดยไม่เคยเปิดเผยจำนวนเหยื่อที่แท้จริง
มีหลายคดีที่ Toole สารภาพไว้ แต่ตำรวจไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าจริงหรือไม่
Ottis Toole ไม่เพียงเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าความรุนแรงในวัยเด็กและการขาดความรักสามารถสร้างปีศาจขึ้นมาในสังคมได้
แม้เขาจะตายไปนานแล้ว แต่ปริศนาเรื่องจำนวนเหยื่อที่แท้จริงยังคงเป็น “ความลับดำมืด” ของอเมริกาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา: BBC






















