หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ดราม่างานแต่ง! เพื่อนเจ้าสาวถูกจับมัดติดจักรยาน-บังคับจูบชายแปลกหน้า ชาวเน็ตถล่มยับ!

โพสท์โดย bbb1236555

ช็อกโซเชียล! คลิปเพื่อนเจ้าสาวถูกจับมัดติดจักรยาน-บังคับจูบชายแปลกหน้า ชาวเน็ตจีนเดือด จวกแรง “เข้าข่ายคุกคามทางเพศ” ปมประเพณี “ฮุนหน่าว” กลายพันธุ์สุดขอบ

เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาชาวเน็ตจีนและผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก หัวร้อนพร้อมกัน หลังมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจในงานแต่งงานแห่งหนึ่งในมณฑลฉ่านซี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Weibo และ Douyin (ติ๊กต็อกจีน) จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงข้ามวัน

ในคลิปดังกล่าวปรากฏภาพของ เพื่อนเจ้าสาวสองคนในชุดราตรีสวยงาม ถูกชายกลุ่มหนึ่งจับมัดตัวด้วยเทปกาวแน่นติดกับจักรยานไฟฟ้าที่จอดอยู่ริมถนน พร้อมเสียงหัวเราะและเสียงเชียร์จากผู้ที่มุงดูอยู่โดยรอบ ก่อนที่หนึ่งในชายเหล่านั้นจะใช้มือจับศีรษะของเพื่อนเจ้าสาวให้ก้มลง ในขณะที่อีกคนโน้มตัวเข้ามาจูบ

สิ่งที่เห็นชัดเจนในคลิปคือสีหน้าของเพื่อนเจ้าสาวทั้งสองคนที่ แสดงออกถึงความตกใจ หวาดกลัว และอับอายอย่างชัดเจน หนึ่งในนั้นถึงกับร้องเสียงหลง ขณะที่อีกคนหน้าแดงด้วยความอับอายและพยายามดิ้นหนี แต่กลับถูกกลุ่มชายเหล่านั้นหัวเราะเยาะและช่วยกันจับตัวไว้ไม่ให้หลบหนี

 

เสียงหัวเราะที่แลกมาด้วยน้ำตา: ความสนุกของบางคนคือความอับอายของอีกฝ่าย

คลิปดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก หลายคนถึงกับแสดงความโกรธต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ผู้คนในงานเรียกว่า “การแกล้งขำๆ” กลับเป็นการ ละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีของผู้หญิงอย่างชัดเจน

ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า

 “ผู้หญิงสองคนนั้นดูเศร้าและเกือบจะร้องไห้ นี่ไม่ใช่เรื่องตลก แต่มันคือการคุกคามทางเพศที่เห็นได้ชัดเจน”

อีกคนเขียนว่า

 “คนที่ยืนหัวเราะอยู่รอบๆ ทั้งไม่แยแสและโง่เขลา พวกเขากำลังส่งเสริมอาชญากรรมอย่างไม่รู้ตัว”

ในขณะที่บางคนถึงกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นออกมารับผิดชอบและจัดการกับผู้กระทำ เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ไม่เพียงผิดศีลธรรม แต่ยังเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาในข้อหาคุกคามทางเพศ

 

เจ้าหน้าที่ชี้ “เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีเก่าแก่” แต่สังคมถามกลับ “นี่หรือคือวัฒนธรรม?”

ต่อมา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของมณฑลฉ่านซีออกมาให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ “ประเพณีแกล้งในงานแต่งงาน” ที่ชาวจีนเรียกว่า “ฮุนหน่าว” (婚闹 / Hūn Nào) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีมานานหลายร้อยปีในพื้นที่ชนบทของจีน

ตามความเชื่อดั้งเดิม การส่งเสียงดัง หัวเราะ หรือแกล้งกันในงานแต่งถือเป็นการ ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและเสริมสิริมงคลให้คู่บ่าวสาว นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและความสนุกสนานระหว่างญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง

อย่างไรก็ตาม “ฮุนหน่าว” ในยุคปัจจุบันได้ กลายพันธุ์เป็นการกลั่นแกล้งที่รุนแรงและไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมนี้ไว้ แต่ขาดขอบเขตระหว่าง “ความสนุก” กับ “การละเมิดสิทธิผู้อื่น”

 

ประเพณีฮุนหน่าว: จากความสนุกกลายเป็นความรุนแรง

คำว่า “ฮุนหน่าว” มีรากศัพท์จากคำว่า “ฮุน” (婚) หมายถึง “การแต่งงาน” และ “หน่าว” (闹) หมายถึง “ความวุ่นวายหรือเสียงดัง” เมื่อรวมกันจึงหมายถึง “งานแต่งที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความสนุก และความคึกคัก”

ในอดีต ฮุนหน่าวเป็นเพียงการแกล้งเล็กๆ น้อยๆ เช่น

ให้เจ้าบ่าวตอบคำถามกวนๆ ก่อนเข้าไปห้องเจ้าสาว

ให้เพื่อนเจ้าบ่าวต้องร้องเพลงหรือเต้นขอผ่านประตู

การเล่นเกมขำขัน เช่น ให้เจ้าบ่าวหาของหรือดื่มเครื่องดื่มรสแปลกๆ

แต่ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะหลังยุคโซเชียลมีเดียเฟื่องฟู การเล่นแกล้งเหล่านี้เริ่มถูกถ่ายคลิปเผยแพร่ และบางกลุ่มก็ พยายามทำให้มัน “สุดโต่ง” เพื่อเรียกยอดวิวหรือเสียงหัวเราะ จนกลายเป็นพฤติกรรมที่ละเมิดร่างกายและจิตใจของผู้อื่น

เคยมีเหตุการณ์รุนแรงถึงชีวิต

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ฮุนหน่าว” ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีหลายกรณีที่การเล่นเกินเลยจนกลายเป็น โศกนาฏกรรม

ปี 2018: เจ้าบ่าวในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนถูกสาดหมึก ถูกตีด้วยไม้ไผ่ และถูกปาไข่ใส่ระหว่างเดินทางไปรับเจ้าสาว ผลคือรถคว่ำระหว่างหนีการแกล้ง และเขาได้รับบาดเจ็บกระดูกหักหลายแห่ง

ปี 2020: เจ้าบ่าวอีกคนถูกชายสามคนจับมัดจนเกิดความพิการถาวร ศาลจีนตัดสินให้ผู้กระทำจ่ายเงินชดเชยกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 460,000 บาท)

ปี 2023: มีคลิปเพื่อนเจ้าสาวถูกถอดเสื้อคลุมกลางงานเพื่อให้เพื่อนเจ้าบ่าว “ป้อนเหล้า” กลายเป็นไวรัลจนทางการต้องออกแถลงการณ์ประณาม

 

เสียงจากนักวิชาการ: “ฮุนหน่าวกลายเป็นเครื่องมือกดขี่ทางเพศ”

ศาสตราจารย์หลี่ จิง จากมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์ปักกิ่งให้ความเห็นว่า

“ฮุนหน่าวในยุคใหม่ไม่ได้เป็นเพียงพิธีกรรม แต่กลายเป็นการแสดงออกถึงอำนาจของผู้ชายเหนือผู้หญิงในเชิงวัฒนธรรม”

เธอกล่าวต่อว่า ประเพณีนี้สะท้อนโครงสร้างทางสังคมที่ยังคงมองว่าผู้หญิงต้องอดทน ต้องหัวเราะแม้จะถูกรังแก เพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศในงานแต่ง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ “ล้าหลังและเป็นอันตรายต่อสังคมสมัยใหม่”

 

เสียงสะท้อนจากสังคมออนไลน์จีน

ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่บน Weibo มียอดเข้าชมทะลุ กว่า 30 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมแฮชแท็ก #婚闹不是玩笑 (ฮุนหน่าวไม่ใช่เรื่องล้อเล่น) ติดเทรนด์อันดับต้นๆ ของประเทศจีน

ชาวเน็ตหลายคนออกมาเรียกร้องให้ทางการออกกฎหมายควบคุมพิธีแต่งงานให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ประเพณีเก่าแก่นี้ยังคงถูกตีความผิด

“นี่ไม่ใช่แค่การเล่น แต่เป็นการทำร้ายจิตใจของผู้หญิง!”

“ทำไมต้องยอมให้คำว่า ‘ขำๆ’ มาลบล้างความอัปยศของเหยื่อ?”

“คนที่ยืนถ่ายคลิปควรถูกลงโทษเช่นกัน เพราะเขามีส่วนร่วมในการทำร้าย”

 

เจ้าหน้าที่เริ่มขยับ – สั่งสอบสวนหาผู้กระทำ

หลังจากคลิปกลายเป็นไวรัล หน่วยงานท้องถิ่นในมณฑลฉ่านซีได้ออกประกาศสั้นๆ ระบุว่า

“เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบบุคคลในคลิปทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หากพบว่ามีการคุกคามทางเพศหรือทำร้ายร่างกาย จะถูกลงโทษตามกฎหมายอาญา”

นอกจากนี้ ยังมีการหารือภายในระดับจังหวัดเพื่อ ปรับแนวทางจัดงานแต่งงานในพื้นที่ชนบท โดยเน้นให้ “เคารพสิทธิมนุษยชนของทุกคน” และ “ไม่ทำให้ใครรู้สึกอับอายหรือถูกละเมิด”

 

ประเพณีที่ควรจบลง: เมื่อความสนุกกลายเป็นอันตราย

สิ่งที่น่ากังวลคือ แม้เหตุการณ์ลักษณะนี้จะถูกประณามซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เพราะความเข้าใจผิดของคนบางกลุ่มที่คิดว่า “มันเป็นเรื่องขำๆ ตามธรรมเนียม”

ในความเป็นจริงแล้ว การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงสร้างบาดแผลทางใจให้ผู้ถูกกระทำ แต่ยังเป็นการ ส่งต่อวัฒนธรรมความรุนแรงและการกดขี่ทางเพศอย่างแยบยล ให้กับคนรุ่นหลัง

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมจีนควร ยุติพิธี “ฮุนหน่าว” ในรูปแบบที่เป็นการละเมิดผู้อื่นโดยเด็ดขาด และหันมาส่งเสริมงานแต่งงานที่เน้นความเคารพ ความรัก และความเท่าเทียมระหว่างเพศแทน

 

มุมมองจากชาวเน็ตต่างประเทศ

หลังคลิปถูกแชร์ข้ามแพลตฟอร์มไปยัง TikTok และ X (Twitter เดิม) ก็มีผู้ใช้งานต่างประเทศจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นอย่างรุนแรง

“ถ้านี่คือประเพณี ก็ถึงเวลาที่ควรเลิกได้แล้ว”

“ผู้หญิงเหล่านี้จะมีบาดแผลทางใจไปตลอดชีวิต เพราะคนอื่นมองว่ามันเป็นแค่เรื่องตลก”

“โลกสมัยนี้ไม่ควรมีพื้นที่ให้การคุกคามเกิดขึ้นแม้แต่ในพิธีแต่งงาน”

 

สังคมจีนเริ่มเปลี่ยน: ความเท่าเทียมทางเพศบนเส้นทางที่ยังยาวไกล

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนเริ่มให้ความสำคัญกับ สิทธิสตรีและการป้องกันความรุนแรงทางเพศ มากขึ้น โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุคล้ายกันในปี 2019 ที่เพื่อนเจ้าสาวถูกจับถอดเสื้อกลางงานแต่ง ทำให้รัฐบาลกลางต้องออกคำสั่ง “ควบคุมประเพณีแต่งงานที่ไม่เหมาะสม”

แต่แม้จะมีการประกาศกฎหมายและมาตรการต่างๆ ปัญหาก็ยังไม่หมดไป เพราะ ทัศนคติของคนในสังคมบางกลุ่มยังไม่เปลี่ยน ยังคงเห็นว่าการแกล้งผู้หญิงในงานแต่งเป็นเรื่องปกติ

 

สรุป: ประเพณีที่ควรเลิก ก่อนจะมีคนต้องเจ็บอีก

เหตุการณ์เพื่อนเจ้าสาวถูกจับมัดและบังคับจูบในมณฑลฉ่านซี คือภาพสะท้อนของความเข้าใจผิดในชื่อของคำว่า “วัฒนธรรม”

แม้ต้นกำเนิดของ “ฮุนหน่าว” จะมีจุดประสงค์เพื่อสร้างเสียงหัวเราะและความสุขในวันแต่งงาน แต่เมื่อมันกลายเป็นการทำร้ายผู้อื่น ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ มันก็ไม่อาจเรียกว่า “ประเพณี” ได้อีกต่อไป

 เพราะความสุขของงานแต่งงาน ไม่ควรถูกสร้างขึ้นบนความทุกข์ของใครคนหนึ่ง

และคำถามที่สังคมควรถามคือ — ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะ ยุติประเพณีที่ละเมิดผู้อื่น และเริ่มสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่สะท้อน “ความรักและความเคารพ” อย่างแท้จริง

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ฮือฮา! คู่รักเผลอจัดหนักในห้องน้ำคนพิการ ไม่รู้ประตูใส คนเห็นทั่วโซเชียล ยอดวิวพุ่งล้าน!รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 10/10/68โฆษกรัฐบาลกัมพูชาประณามไทย “กู้ระเบิดในเขตกัมพูชา” ชี้เป็นการกระทำที่หน้าด้านและละเมิดอธิปไตยร้ายแรงทหารไทยเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วไม่สนเขมร ถึงขั้นชาวเขมรถ่ายทอดสด"เจมี่" สั่งเสียก่อนตาย หลังพบก้อนเนื้อในหน้าอก ขอธีมงานศพสีชมพู"เลขเด็ดคนดัง" งวดวันที่ 16 ตุลาคม 68 มาแล้ว!..รีบส่องด่วน!เตือนภัยสายหวาน! กิน "กัมมี่ Sugar-Free" 3 กิโลใน 3 วัน ทำชายเข้า ICU เสี่ยง "กรดเมแทบอลิก"ประกาศผลรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2025 โดยผู้คว้ารางวัลคือ “มาเรีย คอรินา มาชาโด”ประธานาธิบดีสหรัฐอกหักอดรับรางวัล"ยิว ฉัตรมงคล" เปิดปากสุดสะเทือนใจ ปมขัดแย้งแม่ยาย“เขมรตื่นเต้น! จีนส่งเรือรบ 2 ลำเทียบท่าสีหนุวิลล์ – มั่นใจไทยไม่กล้าขยับ”ทหารกัมพูชาบุกตัดรั้วลวดหนามฝั่งไทย 3 กิโลเมตร ใกล้ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ – ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงชายแดนนาร์วาล “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล” อยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นาร์วาล “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล” อยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์โฆษกรัฐบาลกัมพูชาประณามไทย “กู้ระเบิดในเขตกัมพูชา” ชี้เป็นการกระทำที่หน้าด้านและละเมิดอธิปไตยร้ายแรงเตือนภัยสายหวาน! กิน "กัมมี่ Sugar-Free" 3 กิโลใน 3 วัน ทำชายเข้า ICU เสี่ยง "กรดเมแทบอลิก""เจมี่" สั่งเสียก่อนตาย หลังพบก้อนเนื้อในหน้าอก ขอธีมงานศพสีชมพูเปิดใจที่แรก ยิว ฉัตรมงคล ลั่น ลิลลี่ ก็เกลียดผมเพราะผมเกลียดแม่มันทหารไทยเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วไม่สนเขมร ถึงขั้นชาวเขมรถ่ายทอดสด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เขมรสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด กรณีที่ทหารไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่บ้านหนองจานสาว "อินฟลู" เขมร..!! ที่ทำคลิป "เผาสินค้าไทย" เมื่อวันก่อน ล่าสุดโดน "ผัวบอกเลิก" ไล่ออกจากบ้าน ออกมาถ่ายคลิปร่ำให้โฆษกรัฐบาลกัมพูชาประณามไทย “กู้ระเบิดในเขตกัมพูชา” ชี้เป็นการกระทำที่หน้าด้านและละเมิดอธิปไตยร้ายแรงเตือนภัยสายหวาน! กิน "กัมมี่ Sugar-Free" 3 กิโลใน 3 วัน ทำชายเข้า ICU เสี่ยง "กรดเมแทบอลิก"
ตั้งกระทู้ใหม่