อังกฤษลุยหนัก! ร่วมสหรัฐฯ ปราบแก๊งสแกมเมอร์เขมร – ยึดทรัพย์กว่า 5 พันล้าน คว่ำบาตรคาสิโนและธุรกิจที่เชื่อมโยงกัมพูชา
อังกฤษลุยหนัก! ร่วมสหรัฐฯ ปราบแก๊งสแกมเมอร์เขมร – ยึดทรัพย์กว่า 5 พันล้าน คว่ำบาตรคาสิโนและธุรกิจที่เชื่อมโยงกัมพูชา
วิกฤติ “สแกมเมอร์กัมพูชา” ขยายวงไปไกลกว่าที่คาด ล่าสุด รัฐบาลอังกฤษ ประกาศเข้าร่วมกับ สหรัฐอเมริกา ในปฏิบัติการ “กวาดล้างเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนและนักการเมืองในกัมพูชา พร้อมลงมือยึดทรัพย์สินขนาดใหญ่ในลอนดอน มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งถูกระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอังกฤษเผยว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดประกอบด้วย คฤหาสน์หรูหลายแห่งในย่านเคนซิงตันและเชลซี รวมถึงบัญชีธนาคารในชื่อบริษัทนอมินี (บริษัทบังหน้า) ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากคาสิโนและแก๊งค้ามนุษย์ในพื้นที่ ปอยเปต – สีหนุวิลล์ – บาเวต ซึ่งถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่ม “Scambodia” หรือที่สื่อหลายประเทศเรียกว่า “เมืองหลวงของสแกมเมอร์โลก”
นอกจากนี้ อังกฤษยังประกาศ คว่ำบาตรธุรกิจและคาสิโนทุกแห่งในกัมพูชา ที่ถูกสงสัยว่ามีส่วนสนับสนุนหรือให้ที่พักพิงแก่แก๊งสแกมเมอร์ โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการอายัดบัญชีระหว่างประเทศ การห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการห้ามเข้าประเทศสำหรับบุคคลในรายชื่อเครือข่าย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า
“ไม่มีประเทศใดควรถูกใช้เป็นที่หลบซ่อนของอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังจะเป็นใคร อังกฤษจะร่วมมือกับทุกประเทศที่จริงใจต่อการปราบปรามเครือข่ายนี้ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในเอเชีย”
ด้านสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการดำเนินการของอังกฤษ พร้อมยืนยันว่าจะขยายการสืบสวนไปยังเครือข่ายการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อ ตัดเส้นทางรายได้ของระบอบที่เอื้ออาชญากรรมในกัมพูชา
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยิ่งทำให้แรงกดดันต่อรัฐบาล “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” พุ่งสูงขึ้น หลังจากที่เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และหลายประเทศในยุโรปเริ่มออกมาตรการห้ามพลเมืองเดินทางเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงในกัมพูชา
นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่า อังกฤษและสหรัฐฯ กำลังใช้ “ยุทธศาสตร์กดดันทางเศรษฐกิจ” เพื่อบีบให้รัฐบาลกัมพูชาออกมาตอบคำถามต่อโลก ถึงบทบาทและผลประโยชน์ที่อาจเกี่ยวพันกับขบวนการสแกมเมอร์และค้ามนุษย์ในประเทศ
สรุปได้ว่า “เกมนี้ไม่ได้จบแค่ในกัมพูชา”
แต่กำลังกลายเป็น ศึกระหว่างประเทศกับรัฐอาชญากรรม — ที่โลกไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป.





