“ชยิกา” ชี้ “อนุทิน” สานต่อภารกิจปราบสแกมเมอร์แนะใช้กลไกจากยุค “แพทองธาร” ร่วมมือโลกโจมตีเส้นทางการเงิน – ยึดทรัพย์ดิจิทัล – ปิดเว็บเถื่อน
“ชยิกา” ชี้ “อนุทิน” สานต่อภารกิจปราบสแกมเมอร์แนะใช้กลไกจากยุค “แพทองธาร” ร่วมมือโลกโจมตีเส้นทางการเงิน – ยึดทรัพย์ดิจิทัล – ปิดเว็บเถื่อน
วันที่ 19 ตุลาคม 2568 — นางสาว ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในยุครัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ออกมาแสดงความเห็นต่อแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ประกาศเดินหน้าปราบปรามเครือข่าย สแกมเมอร์ข้ามชาติ อย่างจริงจัง
ชยิกา ระบุว่า การที่รัฐบาลอนุทินให้ความสำคัญกับปัญหาสแกมเมอร์ ถือเป็น “ทิศทางที่ถูกต้อง” และควร ต่อยอดกลไกเดิม ที่รัฐบาลแพทองธารเคยวางรากฐานไว้ โดยเฉพาะใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. การโจมตีเส้นทางการเงิน ของเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ผ่านความร่วมมือกับธนาคารและหน่วยข่าวกรองทางการเงิน
2. การยึดและอายัดทรัพย์สินดิจิทัล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี ที่เป็นช่องทางซ่อนเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ
3. การปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมายและเว็บพนันเถื่อน ที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวง
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยควร สร้างพันธมิตรระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรมไซเบอร์ เนื่องจากปัญหาสแกมเมอร์ไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง “หลายเครือข่ายมีฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และโยงใยไปถึงยุโรปและตะวันออกกลาง การทำงานแบบโดดเดี่ยวไม่อาจได้ผล ต้องใช้แนวทางร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับโลก” ชยิกากล่าว
อดีตที่ปรึกษาระบุว่า ยุครัฐบาลแพทองธารเคยมี ศูนย์ประสานงานต่อต้านอาชญากรรมดิจิทัลระหว่างประเทศ ที่เริ่มต้นความร่วมมือกับหลายประเทศในอาเซียน ซึ่งรัฐบาลอนุทินสามารถนำโมเดลนี้กลับมาปรับใช้ต่อได้ทันที เพื่อให้เกิด “ความต่อเนื่องเชิงนโยบาย” ไม่ใช่เริ่มใหม่จากศูนย์
ท้ายที่สุด ชยิกาย้ำว่า “การปราบสแกมเมอร์ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือการปกป้องศรัทธาของประชาชนต่อรัฐ ต้องมีทั้งมาตรการทางกฎหมาย การเงินและการทูต ไปพร้อมกัน”






















