การผลิตซ้ำเชิงสัญญะและความสัมพันธ์เชิงอำนาจผ่านอุปกรณ์ของเล่นผู้ใหญ่ กรณีศึกษา ชิงช้าหรรษา (Door Sex Swing )
อุปกรณ์เพื่อการยกระดับปฏิสัมพันธ์ทางกายสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Physical Interaction Enhancement Devices) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า เซ็กส์ทอย (Sex Toys) มีมูลค่าการเติบโตสูงมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจสูงถึง 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2030 (BrandAge, 2022) การเติบโตนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนอย่างยิ่งจาก ช่องทางออนไลน์ (Online Channels) ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดทางวัฒนธรรมและความเคอะเขินในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ทำให้การบริโภคมีความเป็นส่วนตัวและง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติในสังคมที่เริ่มมองสินค้าเหล่านี้ในฐานะ “สุขภาวะทางเพศ” และ “Gadget” สำหรับการสร้างสรรค์ความสุขส่วนตัวในทางวิชาการ อุปกรณ์เหล่านี้ถูกนิยามว่าเป็น เครื่องมือเชิงวัตถุ (Material Instruments) ที่เข้ามาช่วยขยายขีดจำกัดของร่างกายและความรู้สึกในความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือใช้ในการบำบัดทางการแพทย์บางกรณี (Tuna-typeface, 2023) โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อ “วิถีชีวิตทั้งหมด” (A whole way of life) ที่ต้องการความหลากหลายและนวัตกรรมใหม่ๆ
ในทางวิชาการ อุปกรณ์เหล่านี้ถูกนิยามว่าเป็น เครื่องมือเชิงวัตถุ (Material Instruments) ที่เข้ามาช่วยขยายขีดจำกัดของร่างกายและความรู้สึกในความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือใช้ในการบำบัดทางการแพทย์บางกรณี (Tuna-typeface, 2023) โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อ “วิถีชีวิตทั้งหมด” (A whole way of life) ที่ต้องการความหลากหลายและนวัตกรรมใหม่ๆ
ในบรรดาอุปกรณ์ดังกล่าว กลไกช่วยยกระดับความสัมพันธ์แบบยึดโครงสร้าง (Structure-Mounted Relational Aids) หรือที่ถูกเรียกอย่างแพร่หลายในตลาดว่า “ชิงช้าหรรษา” (Door Sex Swing ) ได้กลายเป็น วัตถุทางวัฒนธรรม (Cultural Objects) ที่น่าสนใจ
บทความนี้จะวิเคราะห์อุปกรณ์นี้ ผ่านแนวคิดเชิงวัฒนธรรมศึกษาของ Raymond Williams (การผลิตซ้ำทางวัฒนธรรม) และ Michel Foucault (ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ) รวมถึงเรื่องของทุนทางอารมณ์ของ Pierre Bourdieu เพื่อทำความเข้าใจว่า การบริโภคอุปกรณ์เหล่านี้สะท้อนและผลิตซ้ำความหมายของความสัมพันธ์ยุคใหม่อย่างไร
การผลิตซ้ำ “ความเปิดกว้าง” ในฐานะอุดมการณ์ใหม่ (The Reproduction of Openness)อุปกรณ์ชิงช้าหรรษา ช่วยจัดวางเชิงกายภาพนี้ถูกบริโภคในฐานะ สัญลักษณ์วัตถุ (Material Symbol) ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของ อุดมการณ์ครอบงำ (Dominant Ideology) ในความสัมพันธ์ยุคใหม่ กล่าวคือ
- การผลิตซ้ำทางวัฒนธรรม: การตัดสินใจจัดซื้อและติดตั้งอุปกรณ์นี้ในพื้นที่ส่วนตัว ถือเป็นการ ยอมรับและผลิตซ้ำ ชุดความเชื่อที่ว่า ความสัมพันธ์ที่ “ดี” และ “ทันสมัย” ต้องประกอบด้วย ความกล้าที่จะสำรวจขอบเขตใหม่ (Boundary Exploration) และ ความเปิดกว้างทางความคิด (Ideological Openness) สิ่งนี้เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่แตกต่างจากวัฒนธรรมแบบเดิมที่มักจะซ่อนเร้นหรือจำกัดขอบเขตของปฏิสัมพันธ์เชิงกาย
- การบริโภคเชิงอุดมการณ์: ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อเพียง “อุปกรณ์” แต่กำลังบริโภค “ความหมายของการเป็นคู่รักที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้งและกล้าหาญ” ซึ่งเป็นการสร้าง รสนิยม (Taste) และ ทุนทางสัญลักษณ์ (Symbolic Capital) ภายในวงสังคมของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ชิงช้าหรรษา” ยังสะท้อนจินตภาพเชิงวัฒนธรรมที่ต้องการ ความสนุกสนาน (Playfulness) และ การหลุดพ้นจากความจำเจ ในชีวิตประจำวัน
การเปลี่ยนผ่านของ “ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ” ในปฏิสัมพันธ์เชิงกาย : ตามแนวคิดของ มิเชล ฟูโกต์ (Michel Foucault) อำนาจคือเครือข่ายที่ไหลเวียนและถูกผลิตซ้ำผ่านการจัดวางร่างกายและการปฏิบัติ อุปกรณ์นี้จึงเป็น กลไกเชิงอำนาจ (Power Mechanism) ที่เข้ามาจัดระเบียบความสัมพันธ์เชิงอำนาจภายในคู่รัก
- การพลิกกลับบทบาทเชิงกายภาพ: อุปกรณ์นี้สร้างสภาวะที่ฝ่ายหนึ่งต้องอยู่ในสถานะ พึ่งพิง (Dependent) และถูกจัดวางโดยโครงสร้างภายนอก ซึ่งถือเป็นการยอมจำนนต่อ อำนาจเชิงสัญญะ ชั่วคราว ขณะที่อีกฝ่ายได้รับ อำนาจเชิงกายภาพ (Embodied Agency) ในการกำหนดทิศทางของการปฏิสัมพันธ์ การสลับบทบาทนี้คือ การต่อรองเชิงอำนาจชั่วคราว ที่ถูกกำหนดโดย ความยินยอมพร้อมใจ (Consent) ของทั้งสองฝ่าย
- ความไว้ใจในฐานะทุนทางอารมณ์ (Emotional Capital) : การที่ฝ่ายหนึ่งยอมปล่อยให้น้ำหนักและร่างกายถูกพยุงโดยโครงสร้าง เป็นการลงทุนใน “ทุนทางอารมณ์” (Emotional Capital) Bourdieu ที่สูงมาก ความสำเร็จของการใช้งานจึงกลายเป็นการ ยืนยันและผลิตซ้ำความเชื่อมั่น ในความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันที่ยั่งยืน
อุปกรณ์ช่วยจัดวางเชิงกายภาพหรือ “ชิงช้าหรรษา” เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของ Cultural Materialism ของ Williams ที่แสดงให้เห็นว่า การผลิตเชิงเศรษฐกิจ (การขายอุปกรณ์) ถูกใช้เพื่อ ผลิตซ้ำวิถีชีวิต (A whole way of life) ที่ให้ความสำคัญกับ การสำรวจขีดจำกัด และ ความใกล้ชิดที่ลึกซึ้งในที่สุดแล้ว นี่คือการเปลี่ยนผ่านจากความสัมพันธ์ที่ถูกกำหนดโดยบรรทัดฐานสังคม สู่ความสัมพันธ์ที่ถูกกำหนดโดย ความต้องการและความไว้ใจร่วมกัน ซึ่งถูกอำนวยความสะดวกด้วย เทคโนโลยีเชิงพื้นที่ ในพื้นที่ส่วนตัว
บทความนี้ได้แสดงให้เห็นว่า การผลิตเชิงเศรษฐกิจ (การทำตลาดอุปกรณ์) ถูกใช้เป็นกลไกในการ ผลิตซ้ำวิถีชีวิต (A whole way of life) ที่ให้ความสำคัญกับความเปิดกว้างและการสำรวจขอบเขตความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แนวคิดของ Foucault และ Bourdieu ได้เน้นย้ำว่า การบริโภคอุปกรณ์นี้คือ การต่อรองเชิงอำนาจ และ การลงทุนในทุนทางอารมณ์ ที่ต้องอาศัย ความไว้ใจ (Trust) ในระดับสูง
ในที่สุดแล้ว การแพร่หลายของ “ชิงช้าหรรษา” คือ สัญญาณว่า ความสัมพันธ์ยุคปัจจุบันกำลังก้าวพ้นการถูกกำหนดด้วยบรรทัดฐานสังคม สู่การถูกกำหนดด้วย ความต้องการและความยินยอมพร้อมใจร่วมกัน ซึ่งนำไปสู่ ความใกล้ชิดที่ลึกซึ้ง และ สุขภาวะทางเพศที่เปิดกว้าง มากยิ่งขึ้น
**********






















