โซเชียลแตก! คลิป ‘หนุ่มกะลา – จ๊ะโอ๋’นอนไลฟ์คู่บนเตียง เปลือยท่อนบน? สุด เซ็กซี่ ลั่น! “ชุดนี้พี่ลุกได้"
เปิดคลิปไวรัล! “หนุ่ม กะลา” ไลฟ์สดบนเตียงแนบชิด “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ชาวเน็ตเสียงแตก – บางส่วนชมธรรมชาติ แต่หลายคนถามแรง “ไม่กลัวลูกเห็นเหรอ?”
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงชั่วข้ามคืนในโลกโซเชียล เมื่อคลิปไลฟ์ขายของของคู่รักสายฮาอย่าง “หนุ่ม กะลา” นักร้องชื่อดังยุค 2000 เจ้าของเสียงอบอุ่นที่หลายคนคุ้นเคยจากเพลงฮิต “ยาม”, “เชื่อในตัวฉัน”, “ปลายทาง” และแฟนสาวคนสวยสายตลก “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็วหลังทั้งคู่เลือก “คอนเทนต์สุดช็อก” โดยการ นอนไลฟ์ขายของบนเตียงในลักษณะใกล้ชิด สนิทแนบเนื้อ จนทำให้เกิดกระแสถกสนั่นระหว่างเสียงหัวเราะ เสียงชื่นชม และเสียงตำหนิที่มองว่าเกินงามเกินไปสำหรับคู่รักในวงการบันเทิง
🔥 จุดเริ่มต้นของคลิปไวรัล — ไลฟ์ขายของ “บนเตียง” ที่กลายเป็นดราม่าระดับประเทศ
ต้นเรื่องเกิดขึ้นระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจัดไลฟ์ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง โดยคอนเทนต์วันนั้นถูกตั้งชื่อว่า “ตื่นปุ๊บ ไลฟ์ปั๊บ” ซึ่งจ๊ะโอ๋เปิดรายการด้วยน้ำเสียงร่าเริงแต่ในลักษณะ “นอนอยู่บนเตียง” ข้างหนุ่ม กะลา ที่อยู่ในสภาพ เปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงขาสั้นเผยกล้ามท้องและรอยสักบางส่วน ขณะที่จ๊ะโอ๋อยู่ในชุดนอนผ้าลื่นสีอ่อนสุดเซ็กซี่ พร้อมแคปชั่นเปิดคลิปว่า
“เพิ่งตื่นค่ะ ชุดนี้ลุกไม่ได้เลย…”
ทันใดนั้นเอง “หนุ่ม กะลา” ก็แกล้งแซวแฟนสาวเสียงดังผ่านไลฟ์แบบไม่ทันตั้งตัวว่า
“แต่ชุดของน้อง พี่ไอ้นี่ได้นะ!”
ทำเอาจ๊ะโอ๋ถึงกับหัวเราะลั่น ก่อนตอบกลับว่า
“พี่ทำไมคะ?”
ซึ่งหนุ่มก็ไม่วายพูดต่อด้วยน้ำเสียงกวนๆ ว่า
“พี่ลุกได้...”
บรรยากาศในไลฟ์กลายเป็นความฮาและเสียงหัวเราะสนั่นจากผู้ชมจำนวนมากที่ต่างคอมเมนต์กันแบบสด ๆ เช่น “ขำแรงมากพี่หนุ่ม”, “คู่รักสายฮาแห่งปี”, “จ๊ะโอ๋สวยมาก ชุดนี้คือสุด!” หรือ “ดูแล้วน่ารักดี มีเคมีมาก ๆ”
แต่ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงอีกด้านหนึ่งที่เริ่มเข้ามาวิจารณ์ในเชิงลบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “ความเหมาะสม” ของเนื้อหา เนื่องจากคลิปดังกล่าวถูกตั้งค่าเป็น สาธารณะ และถูกแชร์ต่อในหลายเพจ จนกลายเป็นไวรัลที่มีผู้เข้าชมกว่า 5 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
💬 เสียงวิจารณ์จากชาวเน็ต — “ไม่เหมาะสมเกินไป”, “ลูกจะรู้สึกยังไงถ้าเห็นพ่อแบบนี้?”
หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ได้ไม่นาน โลกโซเชียลโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม), TikTok และ Facebook ก็ลุกเป็นไฟ หลายคนมองว่าการกระทำของหนุ่ม กะลา ซึ่งเป็นศิลปินชื่อดังและมีลูกจากชีวิตคู่ครั้งก่อน อาจไม่เหมาะสมที่จะทำคอนเทนต์ในลักษณะนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีภาพของเขาในสภาพเปลือยท่อนบนใกล้ชิดกับแฟนสาวในที่สาธารณะ
หนึ่งในคอมเมนต์ที่ถูกกดไลก์มากที่สุดระบุว่า
“ไม่กลัวลูกเห็นเหรอคะ? ถึงจะเป็นคอนเทนต์ขายของแต่ก็ควรมีลิมิตบ้าง”
อีกหลายคอมเมนต์มองว่า
“อยากขายของก็ขายได้ แต่ให้เกียรติตัวเองและคนดูหน่อย”
และยังมีผู้ชมบางรายแสดงความคิดเห็นว่า
“การเปลือยบนไม่ได้ช่วยให้ของขายดีขึ้นนะคะ ดูไม่ให้เกียรติผู้หญิงด้วยซ้ำ”
เสียงเหล่านี้สะท้อนมุมมองของสังคมที่ยังให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของศิลปินในฐานะบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อมีบุตรหลานและเยาวชนที่ติดตามพฤติกรรมของคนดังในโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด
💞 แต่แฟนคลับก็ไม่ยอม! – ออกมาปกป้อง “หนุ่ม–จ๊ะโอ๋” ชี้แค่คอนเทนต์ตลก ไม่ได้ล่อแหลม
ในอีกมุมหนึ่ง แฟนคลับของหนุ่ม กะลา และจ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ต่างพากันออกมา ปกป้องทั้งคู่ โดยอธิบายว่า ไลฟ์ดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาในเชิงลามกอนาจารหรือโชว์เรือนร่าง แต่เป็น “คอนเทนต์สายตลก” ที่ทั้งคู่ตั้งใจจะสร้างสีสันและความแตกต่างจากไลฟ์ขายของทั่วไปเท่านั้น
มีแฟนคลับรายหนึ่งคอมเมนต์ว่า
“คนที่ติดตามพี่หนุ่มกับพี่จ๊ะโอ๋มานานจะรู้ว่าทั้งคู่เป็นสายฮา ชอบเล่นมุกกันตลอด ไลฟ์นี้ก็เหมือนการแสดงคาแรกเตอร์ธรรมชาติ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”
ขณะที่อีกคนกล่าวว่า
“อย่าเอามาตัดสินกันแค่ภาพนิ่งหรือวิดีโอไม่กี่วินาที ดูให้จบก่อน พอได้ดูทั้งหมดแล้วจะเห็นว่าไม่มีอะไรเกินเลยจริง ๆ”
แฟนคลับจำนวนมากยังโพสต์แฮชแท็ก #ทีมหนุ่มจ๊ะโอ๋ และ #คู่รักสายฮาแห่งปี เพื่อให้กำลังใจทั้งคู่ พร้อมเรียกร้องให้สังคมมองเรื่องนี้อย่างเข้าใจในยุคที่การไลฟ์ขายของเป็นทั้งอาชีพและพื้นที่สร้างความบันเทิงไปพร้อมกัน
🧠 วิเคราะห์ปรากฏการณ์: เมื่อ “ความตลก–ความกล้า” กลายเป็นเส้นบาง ๆ ระหว่างไวรัลกับดราม่า
นักวิเคราะห์สื่อออนไลน์มองว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้สะท้อนแนวโน้ม “คอนเทนต์ข้ามเส้น” ที่เกิดขึ้นบ่อยในยุคโซเชียลมีเดีย ซึ่งคนทำคอนเทนต์มักจะพยายามสร้างความแตกต่างให้ดึงดูดผู้ชม แต่บางครั้งอาจไปแตะเส้นของ “ความเหมาะสมทางสังคม” โดยไม่รู้ตัว
อาจารย์ด้านสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชื่อดังให้ความเห็นว่า
“การทำคอนเทนต์ไลฟ์แบบนี้แม้ไม่ได้มีภาพโป๊เปลือย แต่การใช้ท่าที การแต่งตัว และบทสนทนาเชิงชู้สาวในที่สาธารณะสามารถกระตุ้นความสนใจได้ แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกตีความในเชิงลบได้เช่นกัน”
พร้อมเสริมว่า
“ศิลปินหรือคนดังต้องตระหนักว่าภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือระยะยาว การมีคาแรกเตอร์ตลกเป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ลืมความรับผิดชอบต่อผู้ติดตาม โดยเฉพาะเยาวชน”
📹 ด้าน “หนุ่ม กะลา” เคลื่อนไหวหลังดราม่า – ขอโทษคนที่ไม่สบายใจ แต่ยืนยัน “เราไม่ได้ตั้งใจให้เกินเลย”
หลังจากเกิดกระแสดราม่าหนักบนโลกออนไลน์ ทีมงานของ “หนุ่ม กะลา” ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเพจทางการ โดยระบุว่า
“ต้องขอโทษแฟน ๆ และผู้ที่อาจรู้สึกไม่สบายใจกับไลฟ์ล่าสุดของผมกับโอ๋นะครับ พวกเราทำคอนเทนต์ด้วยความสนุกและตั้งใจขายของ ไม่ได้มีเจตนาให้ดูไม่เหมาะสม ขอบคุณทุกความคิดเห็น และเราจะระมัดระวังมากขึ้นในอนาคตครับ”
ด้าน “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ก็โพสต์ผ่าน IG Story ส่วนตัวว่า
“ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและให้กำลังใจนะคะ เราไม่โกรธใครเลย เข้าใจว่าทุกคนมีมุมมองต่างกัน ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าอยากสร้างสีสัน แต่ต่อไปจะคิดรอบคอบมากขึ้นค่ะ ❤️”
หลังจากโพสต์ดังกล่าวออกมา กระแสเริ่มเบาลง หลายคนมองว่าการออกมาชี้แจงอย่างมีสติของทั้งคู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และช่วยลดความตึงเครียดในประเด็นนี้ได้มากพอสมควร
💡 คำถามปลายเปิดที่สังคมควรถาม: “เส้นแบ่งระหว่างความบันเทิงกับความเหมาะสมอยู่ตรงไหน?”
กรณีของ “หนุ่ม กะลา – จ๊ะโอ๋” ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของยุคโซเชียลที่ “คอนเทนต์” สามารถสร้างรายได้และไวรัลได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถกลายเป็นดราม่าที่ลุกลามจนกระทบชื่อเสียงได้เช่นกัน
คำถามสำคัญคือ “เส้นแบ่ง” ระหว่างการทำคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง กับการเคารพความรู้สึกของสังคมอยู่ตรงไหน? เพราะในยุคที่ทุกอย่างสามารถบันทึก แชร์ และวิจารณ์ได้ทันที — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็สามารถขยายเป็นดราม่าระดับประเทศได้ในพริบตาเดียว
💬 สรุป: “หนุ่ม – จ๊ะโอ๋” ยังคงเป็นคู่รักที่แฟน ๆ เอ็นดู แต่ควรระมัดระวังมากขึ้น
แม้เหตุการณ์นี้จะสร้างกระแสสองขั้วในโลกออนไลน์ แต่สุดท้ายแฟนคลับจำนวนมากก็ยังคงให้กำลังใจทั้ง “หนุ่ม กะลา” และ “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” เพราะต่างเห็นว่าเป็นคู่รักที่มีความจริงใจ สดใส และเต็มไปด้วยพลังบวกในทุกครั้งที่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ
หลายคนมองว่านี่คือ “บทเรียนเล็ก ๆ” ของคู่รักดังในยุคดิจิทัล ที่อาจก้าวข้ามเส้นบาง ๆ ไปโดยไม่ตั้งใจ และเป็นโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้ ปรับปรุง และกลับมาสร้างคอนเทนต์ที่สนุก มีสาระ และยังคงเอกลักษณ์ในแบบของ “หนุ่ม–จ๊ะโอ๋” ที่แฟน ๆ รักเหมือนเดิม
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
เปิดโผสุดปัง! 10 อันดับ ละคร/ซีรีส์ไทย ที่คนไทยค้นหามากที่สุดบน Google ปี 2568
10 เลขเด็ดเลขดัง "สลาก 5 ภาค" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..รีบส่องเลย ก่อนหวยหมดแผง!!
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน




