หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

งานเลี้ยงหงเหมิน งานเลี้ยงลอบสังหาร จุดเปลี่ยนแห่งประวัติศาสตร์สู่การสถาปนาราชวงศ์ฮั่น

โพสท์โดย กับข้าวกับปลา

ปลายยุคราชวงศ์ฉินคือช่วงเวลาแห่งความโกลาหล การปกครองอันโหดร้ายและการขูดรีดราษฎรอย่างทารุณได้กลายเป็นเชื้อไฟที่โหมกระพือให้เกิดการลุกฮือขึ้นทั่วแผ่นดิน นำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์และเปิดฉากยุคแห่งการแย่งชิงอำนาจของเหล่าขุนศึก การทำความเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์อันตึงเครียดนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการไขความหมายและนัยสำคัญของ "งานเลี้ยงหงเหมิน" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เป็นมากกว่างานเลี้ยง แต่คือเวทีประลองสติปัญญาที่ชี้ชะตาอนาคตของจีน

ในบรรดาผู้นำกองกำลังที่ลุกขึ้นต่อต้านราชวงศ์ฉิน มีสองมหาบุรุษที่โดดเด่นและแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว คือ เซี่ยงหยี่ (หรือ ฌ้อปาอ๋อง) และ หลิวปัง (หรือ เล่าปัง) คุณลักษณะและแนวทางการเป็นผู้นำของทั้งสองได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดทิศทางของประวัติศาสตร์

• เซี่ยงหยี่: ขุนพลผู้เกรียงไกรจากตระกูลสูงศักดิ์ เขาเป็นนักรบผู้หาญกล้า ชนะศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าเบื้องหลังความสำเร็จในสนามรบนั้นแฝงไว้ด้วยนิสัยเย่อหยิ่ง แข็งกร้าว และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้ใด ความเชื่อมั่นในกำลังของตนเองอย่างสูงส่งได้กลายเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนที่อันตราย

• หลิวปัง: เริ่มต้นจากการเป็นเพียงขุนนางเล็กๆ ในท้องถิ่น เขาอาจไม่มีฝีมือการรบที่โดดเด่นเท่าเซี่ยงหยี่ แต่กลับมีความเฉลียวฉลาด เจ้าเล่ห์ และมีความสามารถเป็นเลิศในการมองคนออกและใช้คนให้ถูกกับงาน แม้จะมีนิสัยขี้ระแวง แต่ความสามารถในการซื้อใจผู้คนคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดของเขา

ท่ามกลางการสู้รบอันดุเดือด ทั้งสองได้ทำข้อตกลงสำคัญร่วมกันว่า "ใครเข้ายึดเสี้ยนหยาง [เมืองหลวงของราชวงศ์ฉิน] ได้ก่อน ผู้นั้นได้ครองอาณาจักรฉินทั้งหมด" ข้อตกลงนี้ได้วางรากฐานแห่งการแข่งขันที่เข้มข้น และแปรเปลี่ยนสถานะจากพันธมิตรในการโค่นล้มราชวงศ์ฉินให้กลายเป็นคู่แข่งที่มุ่งหวังในอำนาจเดียวกัน

ด้วยบุคลิกภาพที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดินและเป้าหมายเดียวกันคือบัลลังก์แห่งฉิน การแข่งขันเพื่อยึดเมืองหลวงจึงเป็นเพียงชนวนที่รอวันปะทุ ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์เผชิญหน้าที่ตัดสินด้วยเล่ห์เหลี่ยมและสติปัญญามากกว่ากำลังทหาร

 

การแข่งขันสู่เสี้ยนหยาง: ชัยชนะที่แตกต่าง

ยุทธศาสตร์ในการบุกโจมตีอาณาจักรฉินของเซี่ยงหยี่และหลิวปังนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เส้นทางและวิธีการที่พวกเขาเลือกไม่เพียงแต่สะท้อนถึงอุปนิสัยของแต่ละคน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสถานการณ์ทางการเมืองและดุลอำนาจที่กำลังจะพลิกผันไปตลอดกาล

เซี่ยงหยี่ เลือกใช้กำลังทหารเข้าห้ำหั่นโดยตรง ในสมรภูมิจวี้ลู่ (ปัจจุบันคือเมืองผิงเซี่ยง มณฑลเหอเป่ย) เขาได้สร้างตำนานแห่งความกล้าหาญด้วยการนำทัพที่มีกำลังพลเพียง 20,000 นาย เข้าปะทะและมีชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือกองทัพหลวงของราชวงศ์ฉินที่มีกำลังพลมหาศาลถึง 200,000 นาย ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงของเขากระฉ่อนไปทั่วแผ่นดิน กองทัพของขุนศึกคนอื่นๆ ต่างยอมอ่อนน้อม ทำให้เขากลายเป็นผู้มีกำลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้นอย่างไม่มีใครเทียบได้

ในทางกลับกัน หลิวปัง เลือกใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดกว่า เขาฉวยโอกาสที่กองกำลังหลักของฉินกำลังติดพันอยู่กับเซี่ยงหยี่ นำทัพของตนบุกเข้ายึดเมืองเสี้ยนหยางที่แทบจะไร้การป้องกัน ทำให้สามารถยึดเมืองหลวงได้โดยง่าย แต่ชัยชนะที่แท้จริงของเขาคือการเอาชนะใจประชาชน หลิวปังประกาศยกเลิกกฎหมายอันโหดร้ายของฉิน ไม่แตะต้องทรัพย์สินในท้องพระคลัง และประกาศใช้ "บัญญัติ 3 ประการ" คือ “ฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิต, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และลักขโมยล้วนมีความผิด” นโยบายนี้ทำให้เขากลายเป็นผู้ปลดปล่อยในสายตาของชาวเมืองและได้รับการสนับสนุนจากผู้มีความสามารถมากมาย

การยึดครองพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายจึงนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:

บุคคล

ผลลัพธ์ทางทหารและการเมือง

เซี่ยงหยี่

มีชัยชนะทางทหารอย่างเด็ดขาด ได้รับการยอมรับจากกองทัพอื่น ๆ และมีกำลังพลมากที่สุด

หลิวปัง

ยึดเมืองหลวงได้โดยง่าย ได้ใจประชาชนและผู้มีฝีมือ สร้างฐานอำนาจทางการเมือง

แม้เซี่ยงหยี่จะเป็นผู้ชนะในสนามรบ แต่หลิวปังกลับเป็นผู้ชนะในทางการเมือง ชัยชนะของหลิวปังในการเข้ายึดเมืองหลวงก่อนได้สร้างความโกรธแค้นอย่างรุนแรงให้แก่เซี่ยงหยี่ผู้ถือว่าตนเป็นผู้ทำคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และนี่คือต้นตอของวิกฤตการณ์ ณ ด่านหานกู่กวนที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

วิกฤตการณ์ ณ ด่านหานกู่กวน: ชนวนเหตุแห่งงานเลี้ยงสังหาร

สถานการณ์ทวีความตึงเครียดถึงขีดสุด เมื่อกองทัพอันเกรียงไกรของเซี่ยงหยี่เดินทางมาถึงด่านหานกู่กวนและพบว่าถูกกองทัพของหลิวปังกีดกันไม่ให้เข้าเมือง เหตุการณ์นี้เปรียบเสมือนการสาดน้ำมันเข้ากองไฟ มันได้เปลี่ยนความไม่พอใจที่คุกรุ่นอยู่ในใจของเซี่ยงหยี่ให้กลายเป็นความโกรธแค้นและความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะกำจัดหลิวปังให้สิ้นซาก

ลำดับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การตัดสินใจจัดงานเลี้ยงสังหารดำเนินไปอย่างรวดเร็ว:

ความโกรธของเซี่ยงหยี่: เมื่อพบว่าด่านถูกปิดกั้น เซี่ยงหยี่โกรธจัดและสั่งให้ทหารบุกเข้าโจมตีด่านทันที ด้วยกำลังพลที่เหนือกว่าอย่างเทียบไม่ติด ด่านจึงแตกพ่ายอย่างง่ายดาย

คำเตือนของฟ่านเจิง: ฟ่านเจิง ที่ปรึกษาคนสำคัญของเซี่ยงหยี่ ได้วิเคราะห์สถานการณ์และเตือนนายเหนือหัวของตนว่าหลิวปังไม่ใช่คนธรรมดา เขามีความทะเยอทะยานสูงส่งและต้องถูกกำจัดโดยเร็วที่สุด

การรั่วไหลของข่าว: แผนการโจมตีหลิวปังในวันรุ่งขึ้นได้รั่วไหลออกไปโดย เซี่ยงป๋อ ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของเซี่ยงหยี่ เนื่องจากเขาเคยติดค้างหนี้ชีวิตของ จางเหลียง ที่ปรึกษาของหลิวปัง เซี่ยงป๋อจึงลอบเดินทางไปแจ้งข่าวเพื่อเตือนให้จางเหลียงหลบหนี

กลยุทธ์ทางการทูตของหลิวปัง: เมื่อทราบข่าว หลิวปังและจางเหลียงตระหนักดีว่าไม่อาจสู้รบซึ่งหน้าได้ ด้วยกำลังพลที่แตกต่างกันลิบลับถึง 100,000 ต่อ 400,000 นาย หลิวปังจึงใช้ความเฉลียวฉลาดทางการทูตเข้าแก้ไขวิกฤต เขารีบเชิญเซี่ยงป๋อมาพบ รินเหล้าให้ด้วยตนเอง และเสนอยกลูกสาวของตนให้เป็นสะใภ้ของเซี่ยงป๋อ พร้อมทั้งอธิบายว่าการส่งทหารไปเฝ้าด่านก็เพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย ไม่ได้มีเจตนาทรยศต่อเซี่ยงหยี่เลยแม้แต่น้อย

ความพยายามของหลิวปังได้ผล เซี่ยงป๋อหลงเชื่อและกลับไปเกลี้ยกล่อมหลานชายตนเอง ความโกรธของเซี่ยงหยี่ลดลงกว่าครึ่ง และเขาได้เปลี่ยนแผนจากการบุกโจมตี เป็นการส่งเทียบเชิญให้หลิวปังมาพบที่ "งานเลี้ยงหงเหมิน" (ปัจจุบันคือหมู่บ้านหงเหมิน ตำบลซินเฟิง อำเภอหลินถง เมืองซีอาน มณฑลส่านซี) ซึ่งเป็นฉากหน้าที่งดงามที่ซ่อนเร้นแผนการลอบสังหารอันเลือดเย็นเอาไว้

กลอุบายในงานเลี้ยงหงเหมิน: การต่อสู้ด้วยสติปัญญาและเล่ห์เหลี่ยม

งานเลี้ยง ณ ค่ายหงเหมินคือฉากประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เบื้องหน้าคือภาพของงานเลี้ยงฉลองชัยชนะฉันมิตร แต่เบื้องหลังกลับอบอวลไปด้วยไอสังหารและความตึงเครียด ในงานเลี้ยงนั้น เซี่ยงหยี่และเซี่ยงป๋อดื่มกินกันอย่างสนุกสนานเต็มที่ ขณะที่หลิวปังกลับอกสั่นขวัญหาย คอยระวังตัวตลอดเวลา เพราะทุกคำพูด ทุกการกระทำ และทุกสายตาที่จับจ้อง คือการชิงไหวชิงพริบทางสติปัญญาที่มีชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน

เหตุการณ์ภายในงานเลี้ยงดำเนินไปอย่างน่าระทึกใจเป็นลำดับขั้น:

การเผชิญหน้า

เมื่อเดินทางมาถึง หลิวปังแสดงท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างที่สุดต่อเซี่ยงหยี่ เขาพยายามอธิบายอย่างนอบน้อมว่าเหตุการณ์ที่ด่านหานกู่กวนเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่เกิดจากคำยุยงของคนต่ำทราม เพื่อลดความบาดหมางและความโกรธของเซี่ยงหยี่ลง

สัญญาณที่ถูกเพิกเฉย

ขณะที่งานเลี้ยงดำเนินไป ฟ่านเจิง ที่ปรึกษาผู้มองการณ์ไกล พยายามส่งสัญญาณให้เซี่ยงหยี่ลงมือสังหารหลิวปังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เซี่ยงหยี่กลับทำเป็นมองไม่เห็นหรือไม่ใส่ใจ ท่าทีลังเลใจของเขาแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในระหว่างความโกรธแค้นและความเย่อหยิ่งที่ไม่ต้องการใช้วิธีลอบกัด

ระบำดาบสังหาร

เมื่อเห็นว่าเซี่ยงหยี่ล้มเลิกความคิดที่จะลงมือ ฟ่านเจิงจึงตัดสินใจดำเนินแผนการด้วยตนเอง เขาสั่งให้ เซี่ยงจวง ญาติของเซี่ยงหยี่ เข้าไปแสดงการรำดาบ โดยมีเป้าหมายแฝงคือการหาจังหวะลอบสังหารหลิวปัง แต่แผนการนี้ก็ถูกขัดขวางโดย เซี่ยงป๋อ ผู้มีบุญคุณกับฝ่ายหลิวปัง เขารีบคว้าดาบของตนออกมารำประชันด้วย โดยใช้ร่างกายของตนคอยป้องกันหลิวปังจากคมดาบของเซี่ยงจวงอย่างแนบเนียน

การปรากฏตัวของฝานไคว่

สถานการณ์มาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อ ฝานไคว่ องครักษ์คนสนิทของหลิวปัง บุกฝ่าทหารยามเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยท่าทีเดือดดาล เขาจ้องมองเซี่ยงหยี่อย่างไม่เกรงกลัวและกล่าวตำหนิอย่างตรงไปตรงมา:

"หลิวปังบุกเข้าเมืองเสี้ยนหยางก่อน แต่เขาไม่ได้ยึดเมืองหรือตั้งตนเป็นกษัตริย์ กลับไปเฝ้าดูแลที่ชานเมืองรอคอยท่านมาเป็นกษัตริย์...หลิวปังสร้างคุณูปการขนาดนี้ ท่านไม่ปูนบำเหน็จ แต่กลับไปฟังคำยุยงของคนต่ำทราม คิดจะสังหารเขา นี่ก็ไม่แตกต่างอะไรจากฉินหวัง นี่คงไม่ใช่แผนการของท่านใช่ไหม"

คำพูดอันแหลมคมและกล้าหาญของฝานไคว่ทำให้เซี่ยงหยี่หมดสิ้นข้อโต้แย้ง แผนการลอบสังหารจึงต้องหยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง

 

หลิวปังฉวยโอกาสนี้อ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะหลบหนีออกจากค่ายไปในทันที โดยทิ้งให้จางเหลียงอยู่ถ่วงเวลาเพื่อกล่าวลาและมอบของขวัญแทน

การหลบหนีที่สำเร็จของหลิวปังคือจุดสิ้นสุดของแผนการสังหาร และเป็นจุดเริ่มต้นของคำทำนายอันแม่นยำของฟ่านเจิง ที่ตระหนักในทันทีว่าโอกาสทองในการกำจัดเสี้ยนหนามได้หลุดลอยไปแล้ว

 

ผลลัพธ์และมรดกทางประวัติศาสตร์: ชัยชนะของหลิวปังและสำนวน "งานเลี้ยงหงเหมิน"

เหตุการณ์งานเลี้ยงหงเหมินไม่ใช่เป็นเพียงการรอดชีวิตของหลิวปังเท่านั้น แต่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่กำหนดทิศทางของประวัติศาสตร์จีนในยุคต่อมาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ความล้มเหลวในการกำจัดคู่แข่งคนสำคัญของเซี่ยงหยี่ได้เปิดทางให้หลิวปังสามารถรวบรวมกำลังและกลับมาต่อกรกับเขาได้ในภายหลัง นอกจากนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ยังได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าไว้ในรูปของสำนวนซึ่งยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน

เมื่อจางเหลียงมอบหยกที่หลิวปังนำมาเป็นของขวัญให้เซี่ยงหยี่ ฟ่านเจิงซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวังได้โยนหยกนั้นทิ้งลงกับพื้น ใช้ดาบฟันจนแหลกละเอียด พร้อมกับกล่าวคำทำนายอนาคตด้วยความคับแค้นใจว่า:

"...คนที่จะมายึดครองประเทศนี้ในอนาคตจะต้องเป็นหลิวปังอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วพวกเราจะต้องกลายเป็นเชลยของเขา!"

คำทำนายของฟ่านเจิงกลายเป็นความจริงในเวลาต่อมา เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็น "จุดเปลี่ยน" ที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันคือโอกาสสุดท้ายที่เซี่ยงหยี่จะสามารถกำจัดหลิวปังได้อย่างง่ายดาย การปล่อยให้หลิวปังรอดชีวิตไปได้ เปรียบเสมือนการปล่อยเสือเข้าป่า และในที่สุด หลิวปังก็สามารถเอาชนะเซี่ยงหยี่ในสงครามฉู่-ฮั่น และสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่นอันยิ่งใหญ่

เรื่องราวของงานเลี้ยงที่แฝงเจตนาร้ายนี้ได้กลายเป็นที่จดจำและถูกเล่าขานต่อมา จนเกิดเป็นสำนวนจีนว่า "งานเลี้ยงหงเหมิน" (鸿门宴) ซึ่งกลายเป็นคำพูดติดปากที่ใช้เตือนใจให้ระมัดระวังการเชื้อเชิญที่อาจมีเจตนาร้ายแอบแฝง หรือสถานการณ์ที่ดูเหมือนเป็นมิตรแต่แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยอันตรายและการทรยศหักหลัง

โดยสรุปแล้ว งานเลี้ยงหงเหมินไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของการลอบสังหารที่ล้มเหลว แต่เป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสติปัญญา การรู้จักใช้คน และการควบคุมอารมณ์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เซี่ยงหยี่ผู้หยิ่งทะนงขาดไป แต่กลับเป็นสิ่งที่หลิวปังผู้รอบคอบและเจ้าเล่ห์มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม และในท้ายที่สุด คุณสมบัติเหล่านี้เองที่ได้นำพาเขาให้รอดพ้นจากความตายและกรุยทางขึ้นสู่บัลลังก์จักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์ฮั่นได้สำเร็จ

โพสท์โดย: กับข้าวกับปลา
อ้างอิงจาก: ไซ่ฮั่น มหาสงครามล้างปฐพี เป็นเรื่องราวหลักของสงครามชิงอำนาจระหว่าง หลิวปัง กับ เซี่ยงอวี่ ที่มีฉาก งานเลี้ยงหงเหมิน เป็นจุดไคลแม็กซ์สำคัญ, ประวัติศาสตร์จีน, สำนักพิมพ์สุขภาพใจ พ.ศ. 2538
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กับข้าวกับปลา's profile


โพสท์โดย: กับข้าวกับปลา
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักเตะดาวรุ่งตกหลุมพราง ถูกหลอกไปฆ่ๅอย่างโหดเหี้ยม"โดม ปกรณ์ ลัม" โพสต์ลอยๆ "มองซ้ายคล้ายหนูรัตน์ มองชัดๆ คล้ายหนูหิ่น"..ชาวเน็ตรู้เลยว่าใคร ?หนุ่ม กรรชัย เครียดจัด! คุมรายการไม่ทัน จนเกิดเหตุวุ่นการอาบน้ำ ใช้น้ำ 🧽 ตามชั้นวรรณะในประเทศอินเดีย ที่อาบน้ำวรรณะสูงสุดในอินเดีย วรรณะแพศย์รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 21/10/68 วันที่ท้องฟ้ายังสดใส แต่ไม่รู้ว่าเย็นๆนี้ฝนจะตกแบบเมื่อวานหรือเปล่าหนอหนุ่มเขมรกรรมตามสนอง! ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล หลังเคยใช้ธงชาติไทยเช็ดเครื่องออกกำลังกายฉลามจัส เปิดใจ! ยอมรับนอกใจ มิกซ์ เฉลิมศรี ยันสกายไม่เกี่ยวข้อง"ไอซ์ รักชนก" ฟาดกลับ "กัน จอมพลัง" ตอบคำถามไม่ได้..เลยใช้ ม.112 เป็นเกราะกำบังรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือช่วงนี้พายุหนักเข้ากัมพูชา อย่าไปเที่ยวเด้อ เสี่ยงเจอน้ำท่วมหนัก ขอบคุณมากครับเยอรมนีประกาศ ให้ประชาชนตุนอาหารแล้วสถานที่แห่งนี้ ถูกเรียกว่า บันไดสู่สรวงสวรรค์"โดม ปกรณ์ ลัม" โต้กลับ "นางงามเขมร"..สวดครบทุกบทแล้ว ไม่กลัวหรอกของขมอย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สถานที่แห่งนี้ ถูกเรียกว่า บันไดสู่สรวงสวรรค์วิเคราะห์วิกผม "เจนี่" แปลกไหม ? พร้อมเปิดใจดราม่ารัวๆ หลังสึก!!หนุ่มเขมรกรรมตามสนอง! ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล หลังเคยใช้ธงชาติไทยเช็ดเครื่องออกกำลังกาย"โดม ปกรณ์ ลัม" โพสต์ลอยๆ "มองซ้ายคล้ายหนูรัตน์ มองชัดๆ คล้ายหนูหิ่น"..ชาวเน็ตรู้เลยว่าใคร ?นักเตะดาวรุ่งตกหลุมพราง ถูกหลอกไปฆ่ๅอย่างโหดเหี้ยมปลาหมอนา ปลาน้ำจืดคู่วิถีชาวบ้านของไทยเรา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
"โดม ปกรณ์ ลัม" โพสต์ลอยๆ "มองซ้ายคล้ายหนูรัตน์ มองชัดๆ คล้ายหนูหิ่น"..ชาวเน็ตรู้เลยว่าใคร ?นักเตะดาวรุ่งตกหลุมพราง ถูกหลอกไปฆ่ๅอย่างโหดเหี้ยมเปิดวาร์ป 'น้องโฟม' แฉโดนแอบอ้างภาพสวยในโหนกระแส"ไอซ์ รักชนก" ฟาดกลับ "กัน จอมพลัง" ตอบคำถามไม่ได้..เลยใช้ ม.112 เป็นเกราะกำบัง
ตั้งกระทู้ใหม่