ชายโรคจิตถือมีด บังคับให้เด็กวัย 13 โชว์อวัยวะเพศ

ชายโรคจิตถือมีด บังคับให้เด็กวัย 13 โชว์อวัยวะเพศ

     ศาลแขวงไถจง ประเทศไต้หวัน ได้มีคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับการคุกคาม และ ข่มขู่เด็กหญิงอายุเพียง 13 ปี ซึ่งได้จำคุก "เหอ" วัย 43 ปี เป็นเวลา 5 เดือน

     เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ""เหอ" ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเหอผิง เมืองไถจง ทราบดีว่าเด็กหญิงรายนี้อายุ 13 ปี แต่ได้ก่อเหตุคุกคามถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของปีที่แล้ว ในขณะที่เขาอยู่ในอาการมึนเมา และ เขาไม่พอใจเสียงสุนัขของครอบครัวเด็กหญิง เขาจึงไปที่บ้านของเธอ พร้อมเหน็บมีดไว้ที่เอว หลังจากนั้นเขาได้ถีบประตูห้องนอนของเด็กหญิงจนเปิดออก และ กล่าวข่มขู่ว่า "ฉันจะฆ่าสุนัขของแก บอกพ่อของแกว่า ฉันฆ่ามันเพราะฉันหิว และ อยากดื่มเลือดของมัน" การกระทำนี้สร้างความหวาดกลัว ให้กับเด็กหญิงเป็นอย่างมาก

🔪 คุกคามทางเพศและไล่ตาม
     6 เดือนต่อมา "เหอ" ยังคงก่อเหตุซ้ำ ขณะมึนเมาและมีมีดเหน็บไว้ที่เอว เขาได้บุกเข้าไปในบ้านลุงของเด็กหญิง ซึ่งในขณะนั้นเด็กหญิงและลูกพี่ลูกน้องของเธอ บังเอิญกลับมาถึงบ้าน เมื่อ "เหอะ" พบกับเด็กหญิง เขาก็ได้กล่าวเป็นภาษา "อาตายัล" ว่า "หนี่นา" ซึ่งแปลว่า "แฟนสาว" หรือ "เมีย" พร้อมกล่าวว่า "โชว์อวัยวะเพศของแกซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก!!" และ กล่าวซ้ำอีกครั้งว่า "ยีนา" ซึ่งแปลว่า "ลูกสะใภ้" มานี่สิ! ฉันบอกให้แกถอดกางเกงออก ฉันอยากเห็นอวัยวะเพศของแก ถ้าไม่ทำ ฉันจะฆ่าแกซะ!!"

     เด็กหญิงตกใจสุดขีดและพยายามวิ่งหนี แต่ "เหอ" ก็ยังคงไล่ตามเธออย่างกระชั้นชิด จนสามารถตามทันในระยะห่างเพียง 1 เมตร แต่จนแล้วจนรอดเธอจะหนีรอดไปได้...

⚖️ การดำเนินคดีและคำตัดสิน
     หลังจากที่เด็กหญิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงแม้ว่า "เหอ" จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า "ไม่เคยพูดเรื่องฆ่าหมา หรือ บังคับให้เธอโชว์อวัยวะเพศ" แต่สำนักงานอัยการได้ดำเนินคดีกับเขา ในข้อหาข่มขู่คุกคามจนเป็นอันตราย ต่อความปลอดภัย พยายามบังคับขู่เข็ญ  และ ละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน"

ศาลแขวงไถจง พิจารณาว่า ""เหอ" รู้ถึงอายุของผู้เสียหาย" และ "มีเจตนาคุกคามเด็กหญิงผู้เยาว์" ศาลจึงพิพากษา
     - จำคุก 3 เดือน ในข้อหาจงใจข่มขู่คุกคาม และ เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้เยาว์
     - จำคุก 4 เดือน ในข้อหาพยายามบังคับขู่เข็ญ

อ้างอิง : https://www.ettoday.net/news/20251115/3068054.htm