จังหวัดไหนในไทยมีฝุ่น PM2.5 สูงที่สุด? สรุปปี 2568
ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชุมชน เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์เมืองเพิ่งโดยเฉพาะในฤดูแล้ง แต่หลายคนอาจสงสัยว่า “จังหวัดไหนหนักสุด?” ระหว่าง กรุงเทพฯ หรือ เชียงใหม่ ใครเป็นแชมป์จริง? ในบทความนี้เราจะพาไปสำรวจข้อมูลล่าสุด วิเคราะห์อันดับมลพิษ (AQI-PM2.5) รายจังหวัด พร้อมสาเหตุเบื้องหลัง และแนวทางแก้ไข
ภาพรวมสถานการณ์ PM2.5 ในไทย
- ปัจจุบัน ฝุ่น PM2.5 ถูกยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมลพิษที่อันตรายต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะอนุภาคเล็กสามารถแทรกซึมลึกลงในปอดและเข้าสู่กระแสเลือดได้
- ตามรายงานของ กรมอนามัย มีหลายจังหวัดใน 30 เขตสุขภาพ (รวมกรุงเทพ-ปริมณฑล) เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง และกรมอนามัยได้จัดตั้ง “ห้องปลอดฝุ่น” (clean room) ในโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อรองรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
- ในระดับนโยบาย รัฐบาลและหน่วยงานสิ่งแวดล้อมวางแผนยุทธศาสตร์รับมือฝุ่น PM2.5 ประจำปีแล้ว โดยมุ่งลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและภาคการท่องเที่ยว
อันดับจังหวัด / เมืองที่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 หนักที่สุด
การจัดอันดับเมืองหรือจังหวัดที่มี PM2.5 สูงสุดในไทยนั้นมีหลายแหล่งข้อมูล — หนึ่งในนั้นคือ Greenpeace ซึ่งเคยจัดอันดับเมืองไทยที่มีปัญหามลพิษ PM2.5 บ่อยครั้ง โดยอิงตามข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (PCD)
ในรายงานของ Greenpeace:
- เมือง/อำเภอที่มักติดอันดับฝุ่น PM2.5 หนาหนัก ได้แก่ เชียงใหม่ (อำเภอเมือง), ลำปาง (แม่เมาะ), ขอนแก่น, กรุงเทพฯ (เขตดินแดง), และ สมุทรสาคร
- แม้เกณฑ์มาตรฐานอากาศของไทยจะกำหนดค่าเฉลี่ยรายปีของ PM2.5 ที่ 25 µg/m³ แต่หลายเมืองไทยยังเกินเกณฑ์นี้ และเกินมาตรฐานแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เข้มงวดกว่า
นอกจากนี้ ในรายงานข่าวของ TNN วันที่ 31 มกราคม 2568 ระบุว่า
- GISTDA รายงานค่าฝุ่น PM2.5 ในเช้าวันนั้นพบ กรุงเทพมหานคร ทุกเขตอยู่ในระดับ “แดง” (ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ) โดยตัวเลขบางเขตเกิน 100 µg/m³ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานอย่างมาก
- ข้อมูลจาก สำนักงานสาธารณสุข อ้างว่ามีมากกว่า 40 จังหวัดที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในบางช่วงเวลา
ในข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ ประจำวันที่ 26 ม.ค. 2568 ระบุว่า ณ เวลาเช้า “สิงห์บุรี” และ “มหาสารคาม” เป็น 2 จังหวัดที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดของประเทศในวันนั้น
การลดระดับฝุ่น PM2.5 ในระดับพื้นที่บางส่วนสามารถช่วยได้ด้วยการใช้ เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่สำหรับภายนอกอาคาร ที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ประมาณครึ่งสนามฟุตบอล และสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM2.5 และ PM10 เหมาะสำหรับการใช้งานเป็น เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ หรือ เครื่องกรองอากาศขนาดใหญ่ ในพื้นที่ชุมชนและกลางแจ้งบางประเภท
ใครเป็นแชมป์จริง: กรุงเทพฯ VS เชียงใหม่
เชียงใหม่
- เชียงใหม่มักถูกพูดถึงบ่อยในฐานะเมือง “มลพิษหนัก” โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง (กุมภาพันธ์-เมษายน) เนื่องจากการเผาในพื้นที่ชนบท (ฟาง ข้าว อ้อย) และไฟป่าในป่าเขตร้อน ซึ่งทำให้ PM2.5 พุ่งสูงมากเป็นประจำ
- จากข้อมูล Greenpeace เชียงใหม่ (อำเภอเมือง) เคยติดอันดับเมือง PM2.5 หนาแน่นสูงสุดในไทยหลายครั้ง
กรุงเทพมหานคร
- แม้กรุงจะไม่มีไฟป่าขนาดใหญ่เหมือนภาคเหนือ แต่การจราจรหนาแน่น (รถยนต์, ไอเสีย) โรงงานอุตสาหกรรม และการปล่อยก๊าซจากแหล่งต่าง ๆ ทำให้ PM2.5 สูงเป็นประจำ
- ในปีล่าสุด (ข้อมูล GISTDA) มีหลายเขตของกรุงเทพที่ขึ้นเป็น “สีแดง” (ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ) และมีค่าฝุ่นเกิน 90 µg/m³ ในบางเขต
- ข้อมูลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าหนึ่งในแหล่งปัญหาในกรุงเทพและปริมณฑลคือ โรงไฟฟ้าก๊าซฟอสซิล ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 อย่าง NOx สูงมาก
สรุปแชมป์
- ถ้าวัดแบบ “ความอันตรายตามเวลาเฉลี่ยหน้าแล้ง” เชียงใหมน่าจะเป็นแชมป์
- แต่ถ้าวัดแบบ “ความอันตรายแบบรายชั่วโมง / เขตเมืองใหญ่” กรุงเทพก็ไม่แพ้ — บางเขตของกรุงเทพมีค่าฝุ่นสูงสุดในประเทศในบางวัน
จังหวัดอื่น ๆ ที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่า “มลพิษหนัก”
- สิงห์บุรี และ มหาสารคาม — เคยมีรายงานวันเดียวว่าค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดในประเทศ (ฐานเศรษฐกิจ)
- สมุทรสาคร, นนทบุรี, อยุธยา, อ่างทอง — เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีรายงานค่าฝุ่นเกินมาตรฐานบ่อยครั้ง โดย GISTDA ระบุว่าบางจังหวัดอยู่ใน “สีแดง” ตอนเช้า
- ลำปาง (แม่เมาะ) — ตามรายงาน Greenpeace เมืองแม่เมาะลำปางเคยอยู่ในลิสต์เมือง PM2.5 หนาแน่นสูงสุดในอดีต
ทำไมบางจังหวัดฝุ่นเยอะ แต่คนยังไม่รู้ / ตื่นตัวน้อย
การตรวจวัดยังไม่ครอบคลุม
- แม้กรมควบคุมมลพิษ (PCD) และหน่วยงานต่าง ๆ จะขยายเครือข่ายสถานีตรวจวัด PM2.5 แต่ปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมทุกอำเภอ/ทุกจังหวัดอย่างเต็มที่
- ในบางพื้นที่ ข้อมูลที่คนทั่วไปเข้าถึงได้อาจเป็นข้อมูลดาวเทียมหรือแบบรายชั่วโมง ซึ่งไม่สะท้อนภาพรวมรายปี
มาตรฐานคุณภาพอากาศของไทย vs WHO
- มาตรฐาน PM2.5 ของไทย (ที่ 25 µg/m³ รายปี) ยัง “อ่อนกว่า” มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดย WHO แนะนำให้ต่ำกว่า 10 µg/m³
- ดังนั้น แม้บางจังหวัด “เกินมาตรฐานไทย” แต่คนอาจไม่รู้ว่ายังอันตรายมากกว่าที่ควร
การรายงานตามสื่อและการรับรู้ของประชาชน
- เมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ มักเป็นประเด็นข่าวฝุ่น เพราะประชากรเยอะและผลกระทบชัดเจน
- จังหวัดเล็กหรือชนบทที่ค่าฝุ่นสูง อาจไม่ได้รับการพูดถึงในสื่อหลักมาก จึงไม่เป็นที่รับรู้ของประชาชนวงกว้าง
ปัจจัยภูมิอากาศและการเผา
- สภาพภูมิอากาศในแต่ละภูมิภาค เช่น ลม ความชื้น หรือความแห้งแล้ง มีผลต่อการสะสมของฝุ่น
- การเผาในภาคเหนือ (ไฟป่า / เกษตร) เป็นปัจจัยสำคัญในจังหวัดอย่างเชียงใหม่ ลำปาง แต่ในภาคกลางหรือภาคตะวันออกอาจมีแหล่งกำเนิดฝุ่นจากกิจกรรมอุตสาหกรรมหรือล้อจราจร
แนวทางแก้ปัญหาและข้อเสนอแนะ
- ขยายเครือข่ายตรวจวัด PM2.5 ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดที่รายงานค่าฝุ่นสูง แต่ไม่มีสถานีวัดถาวร
- สื่อสารข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงง่าย ผ่านแอปพลิเคชัน (เช่น Air4Thai) เว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มชุมชน
- บังคับใช้กฎหมายด้านการปล่อยมลพิษ โดยเฉพาะในเขตเมือง: โรงงาน แหล่งจราจร และโรงไฟฟ้า
- ส่งเสริมพลังงานสะอาด ลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล และสนับสนุนเทคโนโลยีสะอาด
- พัฒนาพื้นที่ “ห้องปลอดฝุ่น” ในสถานพยาบาล โรงเรียน หรือชุมชน เพื่อให้กลุ่มเสี่ยง (เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย) มีจุดปลอดภัยในช่วงวิกฤตฝุ่น
- ให้ความรู้และส่งเสริมพฤติกรรมป้องกัน เช่น การใช้หน้ากาก N95 การลดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฝุ่นสูง
บทสรุป
- ไม่มี “แชมป์ฝุ่น” แบบชัดเจนตลอดปี — เชียงใหม่มักมาแรงในช่วงเวลาที่สภาพอากาศแห้ง แต่กรุงเทพฯ ก็มีระดับฝุ่นสูงในหลายเขต
- จังหวัดอื่น ๆ อย่างสิงห์บุรี มหาสารคาม สมุทรสาคร ฯลฯ ก็เคยมีค่าฝุ่น PM2.5 สูงในบางช่วง แต่อาจไม่ได้รับความสนใจเท่าเมืองใหญ่
- ความสำคัญของการแก้ปัญหา PM2.5 ในไทยไม่ใช่แค่เรื่อง “จังหวัดไหนแย่กว่า” แต่คือ “ทุกจังหวัดควรตื่นตัว” — และต้องมีมาตรการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ประชาชน และภาคเอกชน
สำหรับการจัดการคุณภาพอากาศในพื้นที่เปิดโล่งหรือบริเวณชุมชนหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยลดปริมาณฝุ่นได้ คือการใช้ เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 สำหรับภายนอกอาคาร ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้ในพื้นที่โล่ง สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM2.5 และ PM10 อากาศที่ออกมาจะผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบ UVGI ทำให้อากาศสะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับใช้งานเป็นเครื่องฟอกอากาศนอกอาคารในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านมลพิษฝุ่นสูง
“เปิดกระเป๋า G-Wallet แล้วตกใจ… ทำไมมี 3 ฟีเจอร์ที่รัฐไม่เคยบอก แต่ใช้แล้วได้ประโยชน์กว่าคนละครึ่ง?”
8 สิ่งของในบ้าน ที่ดึงดูด "งู" ให้เลื้อยเข้ามาในบ้าน
เมื่อหญิงสาวไปถ่ายรูป เพื่อทำบัตรประชาชน แต่ความที่สวยมาก และมีออร่าเกินไป เลยทำให้ไปสะดุดตาของชาวเน็ตบางส่วน
ปกติ “งูเข้าบ้าน” ตอนกลางวันหรือกลางคืน ถ้าไม่อยากพลาดข้อมูลดี ๆ ห้ามเลื่อนผ่าน
“ดาราตัวแม่ชวนเพื่อนลงทุน แล้วผิดนัดชำระเป็นเงินจำนวนมากกว่า 400 ล้านบาท”
สูตรคำนวณงวด 1/12/68
"มงลงไม่ตรงปก" ส่องผู้ชนะ International Model China แซวสั่น นางแบบ หรือ...นางพญา?
สาวไปทำบัตรประชาชน แต่ทำเอาหลายคนสะดุดตา..เพราะว่าเธอสวยจึ้ง
ช็อก พิพิธภัณฑ์จีนสุดแหวกแนว เปิดขาย กาแฟแมลงสาบ โรยหน้า ย้ำ ดื่มได้ปลอดภัย ช่วยบำรุงเลือด
เกมพลิก! เวียดนาม "ถมทะเล" ปิดทางคลองฟูนันเตโช จบเกม "ฮุน เซน"
Epstein disease.
ช็อก แลนด์มาร์คกาญจน์ หัวรถจักรไอน้ำ ผุพังยับ ชาวเน็ตถล่ม หน่วยงานไหนปล่อยให้สมบัติชาติพังคาตา
"ฮุนเซน" ขู่ฟ่อ! ถ้าเขมรตอบโต้..รับรองไทยตุยเพียบแน่นอน
"มงลงไม่ตรงปก" ส่องผู้ชนะ International Model China แซวสั่น นางแบบ หรือ...นางพญา?
นี่ตัวอะไร? เห็นแล้วสยอง! อยู่ใต้ผิวหนังชาวต่างชาติ
ช็อก พิพิธภัณฑ์จีนสุดแหวกแนว เปิดขาย กาแฟแมลงสาบ โรยหน้า ย้ำ ดื่มได้ปลอดภัย ช่วยบำรุงเลือด
เซเว่น อีเลฟเว่น เข้าร่วมคนละครึ่งจริงหรือ?
Epstein disease.
เพจดังเฉลยแล้วว่า สิ่งมีชีวิตประหลาดซึ่งพบอยู่ใต้ผิวหนังของคนไข้ชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศบราซิลคือตัวอะไร
เกาะปอดะน้ำลด เตือนนทท.ระวังเหยียบปะการังเสียหาย
"มงลงไม่ตรงปก" ส่องผู้ชนะ International Model China แซวสั่น นางแบบ หรือ...นางพญา?
ช็อก พิพิธภัณฑ์จีนสุดแหวกแนว เปิดขาย กาแฟแมลงสาบ โรยหน้า ย้ำ ดื่มได้ปลอดภัย ช่วยบำรุงเลือด
